อภิญญา พงษ์ประเสริฐสุข
ตำรวจ ผู้มีหน้าที่คอยดูแลคุ้มครองประชาชน ให้ปลอดภัยจากอันตรายที่เกิดขึ้นในสังคม หลายครั้งที่การต่อสู้ของตำรวจเพื่อปกป้องคนดี ต้องแลกด้วยความสูญเสีย บางนายต้องแลกด้วยอวัยวะบางส่วนของร่างกาย เพื่อชีวิตของคนคนหนึ่งที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน บางคนต้องเสียเลือดจากการต่อสู้ เพื่อให้คนที่ไม่รู้จักปลอดภัย หรือบางคนยอมแลกชีวิต เพื่อให้คนไม่รู้จักมีชีวิตอยู่ แต่คนไม่รู้จักเหล่านี้ จะมีใครสักคนที่จะคอยช่วยเหลือเพื่อนตำรวจ ในวันที่พวกเขาต้องการ
ทุกครั้งเกิดเหตุร้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ ชื่อของ มูลนิธิผอบ ณ นคร จะปรากฏขึ้นมาให้เห็น และเชื่อว่าเป็นองค์กรหนึ่งที่หลายคนอาจเคยได้ยิน หรือคุ้นหูมาบ้าง แต่เชื่อได้อีกว่าคนส่วนน้อยเท่านั้นที่รู้ว่าหน้าที่ของมูลนิธินี้คืออะไร
มูลนิธิผอบ เปรียบเสมือนเพื่อนยามยากของตำรวจ นครบาล ที่ก่อตั้งโดยนางผอบ ณ นคร ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2524 ในขณะที่ พลตำรวจเอก เสน่ห์ สิทธิพันธ์ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยมีวัตถุประสงค์ว่า ให้นำดอกผลจากเงินกองทุนมูลนิธิ มาใช้จ่ายเพื่อสงเคราะห์แก่ข้าราชการตำรวจนครบาล ที่ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือเพราะได้ปฏิบัติตามหน้าที่ เพื่อส่งเสริมสวัสดิการของข้าราชการตำรวจนครบาล และครอบครัวข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งให้การสนับสนุนแก่ข้าราชการตำรวจนครบาลที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น
การช่วยเหลือข้าราชตำรวจทางมูลนิธิผอบ ณ นคร จะให้การช่วยเหลือโดยการพิจารณาจากกรณีที่ ข้าราชตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ เสี่ยงอันตราย หากเสียชีวิต จะได้รับเงิน รายละไม่เกิน 20,000 บาท ทุพพลภาพ ได้รับ รายละไม่เกิน 10,000 บาท บาดเจ็บสาหัส รายละ ไม่เกิน 6,000 บาท และหากบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 7 วัน ได้รับไม่เกิน รายละ 2,000 บาท ส่วนข้าราชตำรวจคนใดได้รับอุบัติเหตุจากการปฏิบัติหน้าที่ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต จะได้รับเงินรายละ ไม่เกิน 8,000 บาท ทุพพลภาพ ได้รับ ไม่เกินรายละ 4,000 บาท บาดเจ็บสาหัส รายละไม่เกิน 2,000 บาท และหากบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 7 วัน จะได้รับไม่เกินรายละ 1,000 บาท
การขอรับการสงเคราะห์ในกรณีที่เสียชีวิต ให้ผู้บังคับบัญชาของผู้เสียชีวิตรวบรวมรายละเอียดการปฏิบัติงานพร้อมด้วยเอกสารที่เกี่ยวข้อง เสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้นถึงกองบังคับการ กรณีทุพพลภาพ หรือได้รับบาดเจ็บ ให้ผู้ขอรับการสงเคราะห์เป็นผู้รายงานเสนอต่อผู้บังคับบัญชาของตนเอง และให้ผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องรวบรวมรายงานพร้อมด้วยเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทำความเห็นเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้นถึงกองบังคับการเช่นกัน เมื่อผู้บังคับการ หรือผู้ทำการแทน ตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้องตามข้อเท็จจริง ให้ทำความเห็นและรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องเสนอคณะอนุกรรมการ โดยให้ผู้มีตำแหน่งตามที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลเห็นสมควร ร่วมกันเป็นคณะอนุกรรมการพิจารณาเป็นผู้ดำเนินการส่งผลการพิจารณาให้กับผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือผู้ที่ทำการพิจารณาแทน ซึ่งหากเห็นชอบให้เสนอขอรับการสงเคราะห์ไปยังมูลนิธิ แล้วมูลนิธิจะพิจารณามอบเงินสงเคราะห์โดยการแยกเป็นรายย่อย หรือรวมครั้งเดียวในรอบปี แต่หากกรณีเร่งด่วนจะนำเงินตามสิทธิไปเยี่ยมเยียน เพื่อสงเคราะห์ผู้มีสิทธิได้รับ โดยที่ไม่ต้องผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ
แม้เงินที่มูลนิธิ ผอบ ณ นคร นี้จะไม่มากพอและไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องสูญเสียไป แต่ก็ถือว่าเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับตำรวจเป็นอย่างดี และยังเป็นการกระตุ้นให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถ และไม่เกรงกลัวต่ออันตรายใดๆ เพื่อปกป้องให้ประชาชนทุกคน และสังคม อยู่กันอย่างสงบสุข
คงไม่เพียง มูลนิธิ ผอบ ณ นคร เท่านั้นที่อยู่คู่กับตำรวจนครบาล ยังคงมีมูลนิธิอื่น ๆ รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ ด้วยที่ยังคงให้ความช่วยเหลือ แต่หากเลือกได้คงไม่มีใครอยากเลือกที่จะสูญเสียเพื่อให้ได้มาเพื่อความช่วยเหลือเหล่านี้อย่างแน่นอน


ตำรวจ ผู้มีหน้าที่คอยดูแลคุ้มครองประชาชน ให้ปลอดภัยจากอันตรายที่เกิดขึ้นในสังคม หลายครั้งที่การต่อสู้ของตำรวจเพื่อปกป้องคนดี ต้องแลกด้วยความสูญเสีย บางนายต้องแลกด้วยอวัยวะบางส่วนของร่างกาย เพื่อชีวิตของคนคนหนึ่งที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน บางคนต้องเสียเลือดจากการต่อสู้ เพื่อให้คนที่ไม่รู้จักปลอดภัย หรือบางคนยอมแลกชีวิต เพื่อให้คนไม่รู้จักมีชีวิตอยู่ แต่คนไม่รู้จักเหล่านี้ จะมีใครสักคนที่จะคอยช่วยเหลือเพื่อนตำรวจ ในวันที่พวกเขาต้องการ
ทุกครั้งเกิดเหตุร้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ ชื่อของ มูลนิธิผอบ ณ นคร จะปรากฏขึ้นมาให้เห็น และเชื่อว่าเป็นองค์กรหนึ่งที่หลายคนอาจเคยได้ยิน หรือคุ้นหูมาบ้าง แต่เชื่อได้อีกว่าคนส่วนน้อยเท่านั้นที่รู้ว่าหน้าที่ของมูลนิธินี้คืออะไร
มูลนิธิผอบ เปรียบเสมือนเพื่อนยามยากของตำรวจ นครบาล ที่ก่อตั้งโดยนางผอบ ณ นคร ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2524 ในขณะที่ พลตำรวจเอก เสน่ห์ สิทธิพันธ์ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยมีวัตถุประสงค์ว่า ให้นำดอกผลจากเงินกองทุนมูลนิธิ มาใช้จ่ายเพื่อสงเคราะห์แก่ข้าราชการตำรวจนครบาล ที่ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือเพราะได้ปฏิบัติตามหน้าที่ เพื่อส่งเสริมสวัสดิการของข้าราชการตำรวจนครบาล และครอบครัวข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งให้การสนับสนุนแก่ข้าราชการตำรวจนครบาลที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น
การช่วยเหลือข้าราชตำรวจทางมูลนิธิผอบ ณ นคร จะให้การช่วยเหลือโดยการพิจารณาจากกรณีที่ ข้าราชตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ เสี่ยงอันตราย หากเสียชีวิต จะได้รับเงิน รายละไม่เกิน 20,000 บาท ทุพพลภาพ ได้รับ รายละไม่เกิน 10,000 บาท บาดเจ็บสาหัส รายละ ไม่เกิน 6,000 บาท และหากบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 7 วัน ได้รับไม่เกิน รายละ 2,000 บาท ส่วนข้าราชตำรวจคนใดได้รับอุบัติเหตุจากการปฏิบัติหน้าที่ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต จะได้รับเงินรายละ ไม่เกิน 8,000 บาท ทุพพลภาพ ได้รับ ไม่เกินรายละ 4,000 บาท บาดเจ็บสาหัส รายละไม่เกิน 2,000 บาท และหากบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 7 วัน จะได้รับไม่เกินรายละ 1,000 บาท
การขอรับการสงเคราะห์ในกรณีที่เสียชีวิต ให้ผู้บังคับบัญชาของผู้เสียชีวิตรวบรวมรายละเอียดการปฏิบัติงานพร้อมด้วยเอกสารที่เกี่ยวข้อง เสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้นถึงกองบังคับการ กรณีทุพพลภาพ หรือได้รับบาดเจ็บ ให้ผู้ขอรับการสงเคราะห์เป็นผู้รายงานเสนอต่อผู้บังคับบัญชาของตนเอง และให้ผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องรวบรวมรายงานพร้อมด้วยเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทำความเห็นเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้นถึงกองบังคับการเช่นกัน เมื่อผู้บังคับการ หรือผู้ทำการแทน ตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้องตามข้อเท็จจริง ให้ทำความเห็นและรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องเสนอคณะอนุกรรมการ โดยให้ผู้มีตำแหน่งตามที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลเห็นสมควร ร่วมกันเป็นคณะอนุกรรมการพิจารณาเป็นผู้ดำเนินการส่งผลการพิจารณาให้กับผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือผู้ที่ทำการพิจารณาแทน ซึ่งหากเห็นชอบให้เสนอขอรับการสงเคราะห์ไปยังมูลนิธิ แล้วมูลนิธิจะพิจารณามอบเงินสงเคราะห์โดยการแยกเป็นรายย่อย หรือรวมครั้งเดียวในรอบปี แต่หากกรณีเร่งด่วนจะนำเงินตามสิทธิไปเยี่ยมเยียน เพื่อสงเคราะห์ผู้มีสิทธิได้รับ โดยที่ไม่ต้องผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ
แม้เงินที่มูลนิธิ ผอบ ณ นคร นี้จะไม่มากพอและไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องสูญเสียไป แต่ก็ถือว่าเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับตำรวจเป็นอย่างดี และยังเป็นการกระตุ้นให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถ และไม่เกรงกลัวต่ออันตรายใดๆ เพื่อปกป้องให้ประชาชนทุกคน และสังคม อยู่กันอย่างสงบสุข
คงไม่เพียง มูลนิธิ ผอบ ณ นคร เท่านั้นที่อยู่คู่กับตำรวจนครบาล ยังคงมีมูลนิธิอื่น ๆ รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ ด้วยที่ยังคงให้ความช่วยเหลือ แต่หากเลือกได้คงไม่มีใครอยากเลือกที่จะสูญเสียเพื่อให้ได้มาเพื่อความช่วยเหลือเหล่านี้อย่างแน่นอน