xs
xsm
sm
md
lg

จำคุก 3 ปี “พล.อ.ปัญญา สิงห์ศักดา” โกงเงินสมาคมรัฐธรรมนูญฯ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ศาลสั่งจำคุก 3 ปี “พล.อ.ปัญญา สิงห์ศักดา” ฐานฉ้อโกงเงินสนับสนุนสมาคมรัฐธรรมนูญเพื่อประชาชน ที่ได้รับจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เกือบ 30 ล้าน เจ้าตัวยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวระหว่างอุทธรณ์สู้คดี ศาลอนุญาต

ที่ศาลแขวงดุสิต วันนี้ (14 ธ.ค.) ศาลนัดฟังคำพิพากษา ในคดีที่สมาคมรัฐธรรมนูญเพื่อประชาชน และนายประวิทย์ ทองศรีปุ่น นายกสมาคม เป็นโจทก์ที่1-2 ฟ้อง พล.อ.ปัญญา สิงห์ศักดา อดีตนายกสมาคมรัฐธรรมนูญเพื่อประชาชน นายวรพจน์ วงศ์สง่า และ นายวินัย โภคทรัพย์ ร่วมกันเป็นจำเลยฐานฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ จำเลยให้การปฏิเสธ

ตามฟ้องสรุปว่า โจทก์ที่1เป็นองค์กรนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์ทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมประชาธิปไตยมีโจทก์ที่2เป็นนายกสมาคม เมื่อวันที่ 27มี.ค.2548 จำเลยที่1 ซึ่งเป็นอดีตนายกสมาคม ได้รับเงินจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 30 ล้านบาท ที่ส่งมาสนับสนุนกองทุนพัฒนาประชาธิปไตยและสมาคมรัฐธรรมนูญเพื่อประชาธิปไตย โดยจำเลยนำไปเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ถนนราชสีมา แล้วถอนเงินออกไป โดยไม่มีสิทธิ์ทำให้สมาคมเสียหาย โจทก์นำสืบว่า จำเลยที่1 เคยเป็นนายกสมาคม จำเลยที่ 2 เคยเป็นอุปนายกฯ จำเลยที่3 เป็นเหรัญญิก จำเลยที่1นำเงินของสมาคมไปเปิดบัญชีที่ธนาคารกรุงไทย 30 ล้านบาท ซึ่งปกติการเปิดบัญชีต้องแนบระเบียบสมาคมไปด้วยเพื่อจะได้ทราบว่านำเงินไปใช้ในกิจกรรมสมาคมเท่านั้น ต่อมาตรวจสอบพบว่าจำเลยร่วมกันนำไปซื้อรถตู้ รถเก๋งและรถกระบะเพื่อใช้ประโยชน์ส่วนตัวและจดทะเบียนเป็นกรรมสิทธิ์ของพวกจำเลย และเงินถูกถอนไปจำนวน29.9 ล้านบาท จำเลยให้การว่า จำเลยไปติดต่อขอเงินสนับสนุนกิจกรรมของสมาคมฯเมื่อครั้งที่จำเลยที่1เป็นนายกสมาคม ซึ่งผู้ให้เงินได้ให้จำเลยที่1เป็นส่วนตัว ซึ่งให้จำเลยที่1นำไปใช้ตามความเหมาะสม

ศาลพิเคราะห์ว่า มีประเด็นต้องพิจารณาว่าพวกจำเลยฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์หรือไม่เห็นว่า แม้จำเลยที่1เป็นผู้ไปขอเงินสนับสนุนจากกองสลากเพื่อทำประโยชน์ และจำเลยอ้างว่าเป็นการให้จำเลยที่1โดยส่วนตัว แต่หนังสือขอรับเงินสนับสนุนได้แสดงถึงสถานะการประกอบกิจการของสมาคม จึงไม่มีเหตุผลใดที่กองสลากจะให้เงินถึง30 ล้านบาทแก่บุคคลธรรมดา จำเลยที่1 ย่อมต้องรู้ดีถึงระเบียบการจ่ายเงินของราชการ พยานโจทก์ยังมีพล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ผอ.กองสลากฯ เบิกความ สนับสนุนว่า จำเลยที่1รับเงินไปแล้วไม่เคยทำบันทึกกลับมายังกองสลากว่านำไปใช้จ่ายอะไรบ้าง จึงฟังได้ว่าจำเลยที่1 ครอบครองเงินของสมาคมฯแล้วมีเจตนาทุจริตเบียดบังเงินไป29.9 ล้านบาท จึงเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ลงโทษจำคุกจำเลยที่1เป็นเวลา 3 ปี แต่ให้ยกฟ้องจำเลยที่2,3

หลังฟังคำพิพากษา พล.อ.ปัญญา ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน ศาลพิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวประกอบหลักทรัพย์แล้ว อนุญาตให้ประกันตัวไปในวงเงิน 4,386,000บาท พร้อมกับยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น