xs
xsm
sm
md
lg

ยกฟ้อง “ต้อย แอ๊กเนอร์” หมิ่น “ครูสลา-ต่าย อรทัย” ชู้สาว

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ศาลยกฟ้อง “ต้อย แอ๊กเนอร์” หมิ่นครูเพลงชื่อดัง “สลา คุณวุฒิ” มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับลูกศิษย์นักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดัง “ต่าย อรทัย” แต่ลงโทษจำคุก บก.บห.แทนฐานเป็นผู้พิมพ์ผู้โฆษณา 1 ปี ปรับ 1 แสน แต่ไม่เคยต้องโทษให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 1 แสน

วันนี้ (13 ธ.ค.) เวลา 09.00 น.ห้องพิจารณาคดีที่ 809 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีที่ นายสลา คุณวุฒิ นักแต่งเพลงลูกทุ่งชื่อดัง และ น.ส.อรทัย ดาบคำ นักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดังค่ายแกรมมี่โกลด์ ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท นิวส์เจนเนอเรชั่น จำกัด เจ้าของหนังสือพิมพ์รายวัน ดาราเดลี่, สุวัฒน์ เชษฐโชติศักดิ์ กรรมการผู้มีอำนาจบริษัท (ศาลยกฟ้องไปแล้วในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง), นายเกรียงศักดิ์ สกุลชัย หรือ ต้อย แอ๊กเนอร์ กรรมการผู้มีอำนาจบริษัท, นายสุพรรณ เสือหาญ ทนายความ (ศาลยกฟ้องไปแล้วในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง) และนายสุนทร นนทอ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์บันเทิงรายวัน “ดาราเดลี่” เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และ พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ. 2489 จากกรณีที่ นสพ.ดาราเดลี่ ตีพิมพ์ข้อความทำนองว่า โจทก์ทั้งสอง มีความสัมพันธ์กันฉันชู้สาว

โดยคำฟ้องสรุปความผิดจำเลยสรุปว่าเมื่อระหว่างวันที่ 6-7 เม.ย.2549 จำเลยทั้งห้า ได้ร่วมกันกระทำความผิด จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 4 กรรมการผู้มีอำนาจ ในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ หนังสือพิมพ์ บันเทิงรายวัน ปีที่ 1 ฉบับวันที่ 6 เมษายน 2549 โดยหนังสือดังกล่าวได้ตีพิมพ์รูปโจทก์ทั้งสองและข้อความโดยเจตนาใส่ความโจทก์ทั้งสองว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวโดยพาดหัวข่าวว่า “ครูสลาปิ๊งต่าย อรทัย สร้างตำนานครูรักศิษย์” โดยเนื้อหาภายในข่าวมีการอ้างว่า ทั้งคู่อยู่กินด้วยกัน อยู่บ้านเดียวกัน แบบเงียบๆ อีกทั้งยังอ้างถึงกระแสข่าวว่า ครูสลา ยอมควักเงิน 10 ล้าน เพื่อขอหย่าขาดกับภรรยาเก่า อันเป็นการใส่ความโจทก์ โดยน่าจะทำให้โจทก์ทั้งสอง เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง โดยการโฆษณาด้วยเอกสาร โดยในชั้นไต่สวนศาลได้พิพากษายกฟ้อง จำเลยที่ 2 และ 4 ซึ่งเป็นเพียงกรรมการบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้องกล่าวหาตามฟ้องแต่อย่างไร

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า ฟ้องโจทก์มีมูล รับฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1, 3 และ 5 ส่วนจำเลยที่ 2 และ 4 ให้ยกฟ้อง อย่างไรก็ตาม โจทก์ที่ 1 เป็นนักแต่งเพลงส่วนโจทก์ที่ 2 เป็นนักร้อง โดยจำเลยได้ลงข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ ทำนองว่าสมภารกินไก่วัด อาศัยอยู่ร่วมกันฉันชู้สาว โดยโจทก์ได้นำผู้จัดการส่วนตัวของทั้งโจทก์ที่ 1 และ 2 มาเบิกความว่าโจทก์ทั้ง 2 เป็นศิษย์กับอาจารย์และโจทก์ที่ 1 ยังอยู่กินกับภรรยาและยังไม่ได้จดทะเบียนหย่า ที่ลงไปในหนังสือพิมพ์ดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดอีกทั้งยังทำให้โจทก์ที่ 1 ขาดจรรยาบรรณในความเป็นครูอาจารย์ อีกด้วย ตามการนำสืบของโจทก์จำเลยเห็นว่า โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานว่าจำเลยที่ 1 และ 3 ใส่ความโจทก์และยังรับฟังไม่ได้ว่ากระทำความผิดแม้ว่าจะมีนามปากกาของจำเลยที่ 3 ปรากฏอยู่บนหน้าคอลัมน์แต่เป็นเพียงการโฆษณาเนื้อหาข่าวที่หมิ่นประมาทก็ไม่ใช่จำเลยที่ 3 เป็นผู้เขียน จึงให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 และ 3 ส่วนจำเลยที่ 5 เป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา ซึ่งจำเลยอ้างว่าเป็นเพียงพนักงานนั้นเป็นเพียงข้ออ้างที่ขาดความรับผิดชอบ เนื่องจากตาม พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ.2484 คำว่า บรรณาธิการ หมายถึง ผู้รับผิดชอบในการจัดทำ ตรวจแก้ คัดเลือก หรือควบคุมบทประพันธ์ หรือสิ่งอื่นในหนังสือพิมพ์ ดังนั้น จำเลยที่ 5 ต้องรับผิดชอบในเนื้อข่าวที่นำเสนอ ส่วนในกรณีที่จำเลยได้ลงข่าวการแถลงข่าวของโจทก์นั้นโจทก์ไม่ได้ร้องขอแต่อย่างใด เพราะโจทก์แถลงตอบโต้ข่าวเอง จำเลยที่ 5 จึงต้องรับผิดในฐานผู้พิมพ์ผู้โฆษณา ส่วนที่ขอให้ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์เป็นเวลา 10 วันนั้น เห็นว่า นสพ.ของจำเลยเป็นเพียงหนังสือพิมพ์เฉพาะกลุ่มและไม่มีบทกฎหมายใดที่จะให้เพิกถอนการเป็นบรรณาธิการจึงยังไม่ได้ความว่าการกระทำแบบนั้นจะบังคับใช้กับจำเลยที่ 5 ได้

ดังนั้น จำเลยที่ 5 จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตารา 328 แล ะพ.ร.บ.การพิมพ์ มาตรา 48 ลงโทษจำคุก 1 ปี ปรับเป็นเงินจำนวน 1 แสน อย่างไรก็ตาม จำเลยยังไม่เคยต้องโทษทางอาญามาก่อนรอลงอาญาจำเลยเป็นเวลา 2 ปี พร้อมทั้งให้ชำระค่าปรับ อีกทั้ง ให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ ข่าวสด, ทีวีพูล และ มายาแชลเนล โดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ภายหลัง นายเกรียงศักดิ์ สกุลชัย หรือ ต้อย แอ๊กเนอร์ กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวนี้ หนังสือพิมพ์ตนไม่ได้เป็นผู้เปิดประเด็น ส่วนเรื่องที่นายสุนทรจะต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์หรือไม่ ก็ต้องกลับไปปรึกษาทีมงานกฎหมายต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น