ศึกชิงมรดกตระกูล “พลางกูร” หลานสาวขึ้นเบิกความคัดค้าน “ยาย” ขอจัดการมรดกเผย “ตา” ทรัพย์สินถึง 2 หมื่นล้าน ศาลพยายามไกล่เกลี่ย เจ้าตัวขอกลับไปปรึกษาญาติก่อน
วันนี้ (21 พ.ย.) ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ศาลนัดสืบพยานผู้คัดค้านนัดแรกในคดีที่ นางสมลักษณ์ พลางกูร เป็นผู้ร้องขอจัดการมรดกมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ของนายบรรเจิด พลางกูร อดีตอธิบดีกรมพัฒนาที่ดินซึ่งเป็นสามี โดยมี น.ส.วินิตา เลขะวณิช อายุ 23ปี หลานสาว เป็นผู้ร้องคัดค้าน
ในวันนี้ น.ส.วินิตา เบิกความว่า นางสมลักษณ์เป็นยายของตน และเป็นผู้จัดการมรดกของนายบรรเจิด ตามคำสั่งของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ส่วนนายบรรเจิดเจ้ามรดกเป็นตาของตน มีบุตรทั้งหมด 4 คน คือนางวิสาขา พลางกูร นายอภิรัชต์ พลางกูร นางต้องใจ เลขะวณิช ซึ่งเป็นมารดาของตน และนางศิรินลักษณ์ พลางกูร ต่อมา นางต้องใจถึงแก่ความตายก่อนเจ้ามรดก ตนจึงเป็นผู้มีสิทธิ์ในการรับมรดกแทนที่
ภายหลัง นางสมลักษณ์ ผู้จัดการมรดกได้ยักย้ายปกปิดทรัพย์มรดก ทำให้เกิดความเสียหายแก่กองมรดก และไม่ได้แบ่งทรัพย์มรดกให้กับเครือญาติตามกฎหมาย จึงขอให้ศาลมีคำสั่งถอนนางสมลักษณ์ออกจากตำแหน่งผู้จัดการมรดกและขอให้ตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดกแทน ทั้งนี้ตนสำเร็จการศึกษาจาก คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกำลังศึกษาในระดับชั้นปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ และมีกิจการอพาทเม้นท์รายได้เดือนละ 4 แสนบาท จึงไม่มีเหตุต้องห้ามตามกฎหมายแต่อย่างใด หลังเบิกความเสร็จ ศาลได้สอบถามคู่ความทั้งสองฝ่ายว่าประสงค์จะทำการไกล่เกลี่ยกันหรือไม่ เพราะไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งภายในครอบครัว ซึ่งทั้งสองฝ่ายรับว่าจะนำไปปรึกษาญาติๆต่อไป
ต่อมา น.ส.วินิตา หรือน้องปุ๊ก ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นบุตรของ นายวราวุธ กับนางต้องใจ เลขะวณิช โดยทั้งสองคนได้เสียชีวิตในเหตุการณ์รถแก๊สระเบิด บนถนนเพชรบุรีเมื่อ ปี พ.ศ.2533 ที่ผ่านมามีคุณป้า คือ น.ส.ธิติมา เลขะวณิช พี่สาวคุณพ่อเป็นผู้เลี้ยงดู ตน พบว่า ช่วงก่อนที่คุณตาจะเสียชีวิต ได้ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม มีการโอนขายที่ดินหลายสิบแปลง แต่ได้สอบถามญาติฝ่ายคุณแม่ ก็ต่างก็ปฏิเสธไม่รู้เรื่องและไม่ยอมรับว่าตนมีสิทธิ์ในกองมรดก อีกทั้งยังมาต่อว่าตน ทำให้ตนต้องสู้เพื่อศักดิ์ศรีของคุณแม่ ส่วนเรื่องเงินไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
ด้าน นายวราชัย เลขะวณิช อายุ 18 ปี น้องชายของผู้คัดค้าน ซึ่งเป็นพยานผู้คัดค้านอีกปาก เผยว่า ตนศึกษาอยู่สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รู้สึกทนไม่ไหวที่ถูกโกงมรดก ซึ่งพบว่าคุณตามีที่ดินจำนวน 530 แปลง เป็นที่ดินบนเกาะที่พัทยามีถึง 100 แปลง ที่คุณตาซื้อไว้ตั้งแต่ราคาถูกๆ ความจริงแล้วคุณตามีทรัพย์มรดกประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ตนเป็นทายาทในฐานะผู้รับมรดกแทนที่มารดา จึงออกสืบหาความจริงพบว่า ทรัพย์สินอื่นๆ ถูกซ่อนเร้นและไม่ทำบัญชีทรัพย์สินให้ถูกต้อง ซึ่งยังมีคดีฟ้องร้องเป็นคดีอาญาฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จที่ศาลจังหวัดพระโขนงอีกด้วย
น.ส.ธิติมา เลขะวณิช ป้าของผู้คัดค้านทั้งสอง เผยว่า เรื่องนี้ตนในฐานะเป็นคนอุปการะน.ส.วินิตา กับนายวราชัย มาตั้งแต่บิดามารดาได้เสียชีวิต พยายามส่งเสริมหลานทั้งสองให้เรียนกฎหมายเพื่อสอบเป็นผู้พิพากษา เนื่องจากต้นตระกูลคือพระยาเลขวณิชธรรมวิทักษ์มนูญประจักษ์ภักดีสภา เคยเป็นรองประธานศาลฎีกา คดีนี้ตนเชื่อว่าหลานทั้งสอง มีสิทธิในการรับมรดกของคุณแม่เขา ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ของตน เจ้ามรดกคือนายบรรเจิดนั้น มีทรัพย์มรดกถึง 2หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่ตกทอดมาจากคุณทวด ตัวนายบรรเจิดเองเป็นคนมัธยัสถ์ ใส่นาฬิกาเรือนละ 500 บาท และชอบซื้อที่ดินไว้จำนวนมาก ปัจจุบันที่ดินเหล่านั้นมีราคามากขึ้น