ตำรวจเข้าตรวจสอบในโรงแรมม่านรูดหรูกลางกรุง หลังได้รับแจ้งว่า มีการมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น รวบ 5 หนุ่ม 2 สาว พร้อมของกลางยาบ้า ยาไอซ์ ปืน จำนวนมาก ตำรวจระบุ 2 ใน 7 ผู้ต้องหา เป็นเอเยนต์ค้ายาบ้า ที่มักชวนเพื่อนๆ พานักศึกษาสาวมามั่วยามั่วเซ็กซ์ประจำ
วันนี้ (20 พ.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น. พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผกก.ศดส.บช.น.นำกำลังเข้าตรวจค้นห้องพักภายในโรงแรมม่านรูดปิ่นเกล้ารีสอร์ท ตั้งอยู่ในซอยรุ่งประชา ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตตลิ่งชัน กทม.หลังรับแจ้งภายในอาคารดังกล่าว มีกลุ่มชายหญิงแอบมั่วสุมเสพยาเสพติกันหลายราย
ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมม่านรูดอย่างหรู โดยภายในห้องเลขที่ 307-309 เจ้าหน้าที่พบกลุ่มชายหญิงกำลังมั่วสุมเสพยากันรวม 7 ราย จึงเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้ทั้งหมด ประกอบด้วย นายศุภชัย หรือ “ตี๋รัน” ประดิษฐ์สกุล อายุ 38 ปี เจ้าของร้านอาหารเรือนไทยคาบาน่า ใต้สะพานพระราม 8 นายกฤตภาส หรือ “แจ๊ค” คล้ายตระกูล อายุ 25 ปี เจ้าของเต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่ง นายเจษฎา สัตวงษ์ อายุ 21 ปี สาวประเภทสอง นายอดิศักดิ์ ลอมสันเที๊ยะ อายุ 33 ปี นายศุภชัย จันทร์สุรไพโรจน์ อายุ 29 ปี น.ส.ศิริวรรณ เลิศสันเกรียงไกร อายุ 18 ปี และ น.ส.กุ้ง ไม่ทราบสกุล อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย ยาบ้าจำนวน 2,200 เม็ด ยาอี จำนวน 5 เม็ด ยาไฟว์ จำนวน 7 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 2 กรัม อาวุธปืนรวม 3 กระบอก ประกอบด้วย ขนาด 9 มม.ขนาด .380 มม.และขนาด .635 มม.รถเก๋ง 5 คัน และบัตรเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ของ นายศุภชัย ซึ่งคาดว่า น่าจะทำปลอมขึ้นเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รอดพ้นจากการจับกุมเวลาขับรถผ่านเข้าด่านตรวจ
จากการสอบสวน นายศุภชัย ให้การว่า นอกจากทำธุรกิจร้านอาหารแล้ว ตนยังร่วมกันกับนายแจ๊ค ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท รับยาเสพติดมาจากย่านถนนพระราม 3 เพื่อนำมาขายให้กับลูกค้า และแบ่งเอาไว้เสพเองส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ ตนยังชอบชวนเพื่อนๆ ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันมาจัดปาร์ตี้เสพยาที่นี่ โดยจะมีการพาหญิงสาวซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่รู้จักกันตามสถานบันเทิงมาเสพยา และมั่วเซ็กซ์กันอีกด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ เปิดเผย สำหรับแก๊งนี้เจ้าหน้าที่ ศดส.บช.น.มีการสืบสวนติดตามกันมานานกว่า 1 ปีแล้ว คาดว่า น่าจะมีการร่วมมือกันค้ายาเสพติดเป็นเครือข่ายใหญ่ โดยมี นายศุภชัย เป็นหัวโจก คอยสั่งการให้ นายกฤตภาส เป็นผู้ไปรับยามาขาย แล้วแบ่งส่วนหนึ่งเอาไว้จัดปาร์ตี้เสพกันเอง แต่ที่เพิ่งมาถูกจับกุมได้ คาดว่า คงเป็นเพราะ นายศุภชัย มักจะใช้บัตร กอ.รมน.ยื่นเบ่งใส่ตำรวจมาตลอด ทำให้รอดจากการตรวจค้น ซึ่งตนจะได้ส่งบัตรที่ยึดได้ไปตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นของจริงหรือไม่ ส่วนอาวุธปืนทั้ง 3 กระบอก ซึ่งเป็นของนายตี๋รัน และนายแจ๊ค ขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่ว่าเป็นปืนมีทะเบียนหรือไม่ และเคยใช้ก่อเหตุมาบ้างหรือเปล่า
พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังสืบทราบมาอีกด้วยว่า มีนักศึกษาสาวบางรายที่เคยถูกนายศุภชัย และ นายกฤตภาส ชักชวนมามั่วสุมเสพยา ได้ผันตัวเองไปเป็นเอเยนต์ด้วยการรับยาจากผู้ต้องหาทั้งสองคนไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง ซึ่งจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายกับ นายศุภชัย และนายกฤตภาส ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับได้อีก 5 ราย แจ้งข้อหามั่วสุมเสพยาเสพติด ก่อนจะส่งตัวทั้งหมดไปให้พนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (20 พ.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น. พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผกก.ศดส.บช.น.นำกำลังเข้าตรวจค้นห้องพักภายในโรงแรมม่านรูดปิ่นเกล้ารีสอร์ท ตั้งอยู่ในซอยรุ่งประชา ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตตลิ่งชัน กทม.หลังรับแจ้งภายในอาคารดังกล่าว มีกลุ่มชายหญิงแอบมั่วสุมเสพยาเสพติกันหลายราย
ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมม่านรูดอย่างหรู โดยภายในห้องเลขที่ 307-309 เจ้าหน้าที่พบกลุ่มชายหญิงกำลังมั่วสุมเสพยากันรวม 7 ราย จึงเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้ทั้งหมด ประกอบด้วย นายศุภชัย หรือ “ตี๋รัน” ประดิษฐ์สกุล อายุ 38 ปี เจ้าของร้านอาหารเรือนไทยคาบาน่า ใต้สะพานพระราม 8 นายกฤตภาส หรือ “แจ๊ค” คล้ายตระกูล อายุ 25 ปี เจ้าของเต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่ง นายเจษฎา สัตวงษ์ อายุ 21 ปี สาวประเภทสอง นายอดิศักดิ์ ลอมสันเที๊ยะ อายุ 33 ปี นายศุภชัย จันทร์สุรไพโรจน์ อายุ 29 ปี น.ส.ศิริวรรณ เลิศสันเกรียงไกร อายุ 18 ปี และ น.ส.กุ้ง ไม่ทราบสกุล อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย ยาบ้าจำนวน 2,200 เม็ด ยาอี จำนวน 5 เม็ด ยาไฟว์ จำนวน 7 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 2 กรัม อาวุธปืนรวม 3 กระบอก ประกอบด้วย ขนาด 9 มม.ขนาด .380 มม.และขนาด .635 มม.รถเก๋ง 5 คัน และบัตรเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ของ นายศุภชัย ซึ่งคาดว่า น่าจะทำปลอมขึ้นเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รอดพ้นจากการจับกุมเวลาขับรถผ่านเข้าด่านตรวจ
จากการสอบสวน นายศุภชัย ให้การว่า นอกจากทำธุรกิจร้านอาหารแล้ว ตนยังร่วมกันกับนายแจ๊ค ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท รับยาเสพติดมาจากย่านถนนพระราม 3 เพื่อนำมาขายให้กับลูกค้า และแบ่งเอาไว้เสพเองส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ ตนยังชอบชวนเพื่อนๆ ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันมาจัดปาร์ตี้เสพยาที่นี่ โดยจะมีการพาหญิงสาวซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่รู้จักกันตามสถานบันเทิงมาเสพยา และมั่วเซ็กซ์กันอีกด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ เปิดเผย สำหรับแก๊งนี้เจ้าหน้าที่ ศดส.บช.น.มีการสืบสวนติดตามกันมานานกว่า 1 ปีแล้ว คาดว่า น่าจะมีการร่วมมือกันค้ายาเสพติดเป็นเครือข่ายใหญ่ โดยมี นายศุภชัย เป็นหัวโจก คอยสั่งการให้ นายกฤตภาส เป็นผู้ไปรับยามาขาย แล้วแบ่งส่วนหนึ่งเอาไว้จัดปาร์ตี้เสพกันเอง แต่ที่เพิ่งมาถูกจับกุมได้ คาดว่า คงเป็นเพราะ นายศุภชัย มักจะใช้บัตร กอ.รมน.ยื่นเบ่งใส่ตำรวจมาตลอด ทำให้รอดจากการตรวจค้น ซึ่งตนจะได้ส่งบัตรที่ยึดได้ไปตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นของจริงหรือไม่ ส่วนอาวุธปืนทั้ง 3 กระบอก ซึ่งเป็นของนายตี๋รัน และนายแจ๊ค ขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่ว่าเป็นปืนมีทะเบียนหรือไม่ และเคยใช้ก่อเหตุมาบ้างหรือเปล่า
พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังสืบทราบมาอีกด้วยว่า มีนักศึกษาสาวบางรายที่เคยถูกนายศุภชัย และ นายกฤตภาส ชักชวนมามั่วสุมเสพยา ได้ผันตัวเองไปเป็นเอเยนต์ด้วยการรับยาจากผู้ต้องหาทั้งสองคนไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง ซึ่งจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายกับ นายศุภชัย และนายกฤตภาส ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับได้อีก 5 ราย แจ้งข้อหามั่วสุมเสพยาเสพติด ก่อนจะส่งตัวทั้งหมดไปให้พนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป
