นายทหารยศ พ.อ.กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ขอโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีตกเป็นข่าวเข้าไปล็อกคอเด็กนักเรียนสาวในโรงเรียนสารวิทยา ระบุ เป็นเรื่องมาเฟียในโรงเรียน ที่รุมทำร้ายลูกสาว เหตุเพราะไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่าง ยันฝ่ายตนเอง และลูกสาวเป็นฝ่ายผู้เสียหาย
วันนี้ (19 พ.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก พ.อ.ศักดิ์ชัย คำคงศักดิ์ ผอ.กองกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่ตกเป็นข่าวทำร้ายร่างกายนักเรียนโรงเรียนสารวิทยา ในวันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ตนเองกำลังทำฟันอยู่ ขณะนั้น มี นางพรวิชา เกิดนาวี ผู้ปกครองของ น.ส.ดุสิตา เกิดนาวี เพื่อนของน้องพลอย หรือ น.ส.ศศิประภา คำคงศักดิ์ บุตรสาวตน ได้โทรศัพท์มาหาโดยบอกว่า ให้ไปหาที่โรงเรียน เนื่องจากน้องพลอยมีเรื่อง แต่ตนไม่ได้เดินทางไปในทันที โดยได้กลับมานั่งทำงานที่กองต่อ ซึ่งต่อมา นางพรวิชา ได้โทรศัพท์กลับมาอีกครั้ง และระบุว่า ให้รีบมา เนื่องจากน้องพลอย บาดเจ็บหนัก จึงได้รับเดินทางไปถึงที่โรงเรียนในเวลาประมาณ 17.00 น.
พ.อ.ศักดิ์ชัย ชี้แจงต่อว่า เมื่อไปถึง ได้ไปสอบถามอาจารย์ฝ่ายปกครอง ก็ทราบว่า เรื่องเกิดขึ้นประมาณ 15.00 น.จึงได้สอบถามไปว่า ทำไมไม่จัดการอะไรบ้าง ก็ได้รับคำตอบว่า เดี๋ยวจะจัดการให้ จากนั้น นางพรวิชา ได้ชวนตน ไปดูหน้าเด็กหนึ่งในกลุ่มที่ทำร้ายน้องพลอย ซึ่งเมื่อไปถึง นางพรวิชา เห็นเด็กคนดังกล่าวอยู่เพียงลำพัง จึงเข้าไปสอบถามว่า ทำไมจึงมาทำร้ายน้องพลอย แต่เด็กกลับพูดจากหยาบคายและโวยวายใส่ ตนเห็นเข้า จึงเข้าไปห้าม แต่กลับถูกเด็กคนดังกล่าวถีบใส่ และด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย จากนั้น มีเพื่อนน้องพลอยอีกคนมาบอกตนว่า เด็กคนดังกล่าว ไม่ได้ลงมือทำร้ายน้องพลอย แต่อยู่ในกลุ่มที่ทำร้ายด้วยเท่านั้น ซึ่งต่อมา มีเพื่อนๆ ของเด็กคนดังกล่าว มาลากตัวเข้าไปในห้อง แต่ก็ยังเอะอะโวยวายอยู่
“ขณะที่ผมกำลังจะเดินทางกลับ ปรากฏว่า มีอาจารย์ในโรงเรียน เข้ามากล่าวหาว่า ผมบุกรุกสถานที่ พร้อมกับโทรศัพท์แจ้งตำรวจ 191 มา อีกทั้งยังบอกว่า ถ้าผมไม่พอใจ ให้เอาลูกไปเรียนที่อื่น ผมจึงบอกว่า ไม่ได้บุกรุกสถานที่ เพราะว่า ผมเองเป็นผู้ปกครองของลูกสาว อาจารย์ไม่มีมีสิทธิ์มาไล่ลูกผมให้ไปเรียนที่อื่น” พ.อ.ศักดิ์ชัย กล่าว
พ.อ.ศักดิ์ชัย ชี้แจงต่อว่า หลังจากนั้น มีอาจารย์หญิงอีกคน มาพูดจาโวยวายขึ้นเสียง หาว่าตนเมาสุรา หลังจากนั้น ตนจึงมีปากเสียงกับอาจารย์หญิงคนดังกล่าว และมีอาจารย์อีกคน เข้ามาชี้หน้า หาว่าตนไปพูดจาหาว่าอาจารย์บ้า ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง ตนไม่ได้พูดอะไร ก่อนที่จะมีอาจารย์อีกคน เข้ามาบอกให้ตนกลับไปก่อน ตนจึงรีบพาน้องพลอยกลับ และตลอดทางที่เดินออกมา มีคนภายในโรงเรียนตามถ่ายรูปมาตลอดทาง พร้อมตะโกนว่า อย่าให้มันออกไป นอกจากนี้ ตนยังทราบมาว่า ในวันที่ 27 ส.ค.กลุ่มเด็กนักเรียนที่ทำร้ายลูกสาวตน ยังก่อเหตุ ทำร้ายร่างกายเด็ก ม.4 อีก 5 คน ซึ่งหลังเกิดเหตุ มีการไปแจ้งความ และมีการไปไกล่เกลี่ยกันแล้ว แต่ตนแปลกใจตรงที่ว่า กลุ่มเด็กที่ทำร้ายลูกสาวตน ได้ข่มขู่ เด็ก 5 คนที่ถูกทำร้ายไว้เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ก่อนที่จะรุมทำร้ายจริงตามคำขู่ ซึ่งในวันที่ 26 หนึ่งในเด็กที่ถูกทำร้าย ได้ไปบอกผู้ปกครองไว้แล้ว และทางผู้ปกครอง ได้ไปแจ้งกับอาจารย์ที่โรงเรียนไว้แล้วเช่นกัน แต่ก็ได้รับคำตอบว่า จะดูแลให้ ทว่า ในวันที่ 27 ส.ค.ก็ยังคงเกิดเรื่องขึ้นจนได้
“เรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่ เด็ก ม.5 ทะเลาะกับเด็ก ม.6 แต่เป็นเรื่องของมาเฟียในโรงเรียน ที่เกิดหมั่นไส้ลูกสาวผม ที่ไม่ยอมเข้าไปเป็นพวกหรือลูกน้อง เป็นเรื่องของการเบ่งบารมี ซึ่งผมเชื่อว่า การที่มีคลิปหลุดมา เป็นการเตี๋ยมกันไว้ก่อนว่า จะถ่ายเก็บไว้ ซึ่งหลังจากเกิดเรื่อง ได้มีการเผยแพร่คลิปกันตลอด จนกระทั่งลูกสาวผมได้รับ และผมได้เก็บคลิปนั้นไว้” พ.อ.ศักดิ์ชัย กล่าว
พ.อ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุ ได้รีบพาลูกสาว ไปแจ้งความพร้อมกับตรวจร่ายกายที่โรงพยาบาล ซึ่งหลังจากนั้นในวันที่ 27 ส.ค.จึงตัดสินใจ แจ้งความดำเนินคดีกับ นายนัฐ โลหะธนะกุล อาจารย์โรงเรียนสารวิทยาเพิ่ม ในข้อหาหมิ่นประมาท ที่กล่าวหาว่า ตนด่าว่าบ้า และหาว่าตนเมา ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง และตนก็ไม่ได้เร่งรัดคดีแต่อย่างใด เนื่องจากไม่อยากจะมีเรื่องกับครูที่โรงเรียน เพราะลูกสาวยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนดังกล่าว ที่ไปแจ้งความเพื่อเป็นการป้องปราม ไม่ให้ใครมาทำร้ายลูกสาวตนอีก ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ มีอาจารย์ของโรงเรียนติดต่อมา เพื่อจะทำหนังสือขอโทษตน แต่หนังสือที่ตนได้รับ กลับเป็นหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงจากทางโรงเรียน ว่าเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันทั้ง 2 ฝ่าย ตนจึงไม่ถอนแจ้งความให้ เนื่องจากฝั่งตน และลูกสาวตนเป็นฝั่งผู้เสียหาย ถูกรุมทำร้ายร่างกาย จนกระทั่งวานนี้ (18 พ.ย.) ทางอาจารย์ ที่เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกับแจ้งความกลับตนในข้อหาหมิ่นประมาท
“เรื่องที่ออกไปตามสื่อทั้งหมดว่า ที่ผมล็อกคอเด็กนักเรียนในโรงเรียน และผลักไปโดนต้นไม้ ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด มีนักเรียนอีกหลายคน ราว 34 คน พร้อมจะเป็นพยานให้ว่า ผมไม่ได้เป็นคนทำ” พ.อ.ศักดิ์ชัย กล่าวชี้แจงทิ้งท้าย
โคตรแมน!! นายทหารพันเอกออกตัวแทนลูกสาว ทำร้ายเพื่อนร่วมชั้น
วันนี้ (19 พ.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก พ.อ.ศักดิ์ชัย คำคงศักดิ์ ผอ.กองกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่ตกเป็นข่าวทำร้ายร่างกายนักเรียนโรงเรียนสารวิทยา ในวันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ตนเองกำลังทำฟันอยู่ ขณะนั้น มี นางพรวิชา เกิดนาวี ผู้ปกครองของ น.ส.ดุสิตา เกิดนาวี เพื่อนของน้องพลอย หรือ น.ส.ศศิประภา คำคงศักดิ์ บุตรสาวตน ได้โทรศัพท์มาหาโดยบอกว่า ให้ไปหาที่โรงเรียน เนื่องจากน้องพลอยมีเรื่อง แต่ตนไม่ได้เดินทางไปในทันที โดยได้กลับมานั่งทำงานที่กองต่อ ซึ่งต่อมา นางพรวิชา ได้โทรศัพท์กลับมาอีกครั้ง และระบุว่า ให้รีบมา เนื่องจากน้องพลอย บาดเจ็บหนัก จึงได้รับเดินทางไปถึงที่โรงเรียนในเวลาประมาณ 17.00 น.
พ.อ.ศักดิ์ชัย ชี้แจงต่อว่า เมื่อไปถึง ได้ไปสอบถามอาจารย์ฝ่ายปกครอง ก็ทราบว่า เรื่องเกิดขึ้นประมาณ 15.00 น.จึงได้สอบถามไปว่า ทำไมไม่จัดการอะไรบ้าง ก็ได้รับคำตอบว่า เดี๋ยวจะจัดการให้ จากนั้น นางพรวิชา ได้ชวนตน ไปดูหน้าเด็กหนึ่งในกลุ่มที่ทำร้ายน้องพลอย ซึ่งเมื่อไปถึง นางพรวิชา เห็นเด็กคนดังกล่าวอยู่เพียงลำพัง จึงเข้าไปสอบถามว่า ทำไมจึงมาทำร้ายน้องพลอย แต่เด็กกลับพูดจากหยาบคายและโวยวายใส่ ตนเห็นเข้า จึงเข้าไปห้าม แต่กลับถูกเด็กคนดังกล่าวถีบใส่ และด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย จากนั้น มีเพื่อนน้องพลอยอีกคนมาบอกตนว่า เด็กคนดังกล่าว ไม่ได้ลงมือทำร้ายน้องพลอย แต่อยู่ในกลุ่มที่ทำร้ายด้วยเท่านั้น ซึ่งต่อมา มีเพื่อนๆ ของเด็กคนดังกล่าว มาลากตัวเข้าไปในห้อง แต่ก็ยังเอะอะโวยวายอยู่
“ขณะที่ผมกำลังจะเดินทางกลับ ปรากฏว่า มีอาจารย์ในโรงเรียน เข้ามากล่าวหาว่า ผมบุกรุกสถานที่ พร้อมกับโทรศัพท์แจ้งตำรวจ 191 มา อีกทั้งยังบอกว่า ถ้าผมไม่พอใจ ให้เอาลูกไปเรียนที่อื่น ผมจึงบอกว่า ไม่ได้บุกรุกสถานที่ เพราะว่า ผมเองเป็นผู้ปกครองของลูกสาว อาจารย์ไม่มีมีสิทธิ์มาไล่ลูกผมให้ไปเรียนที่อื่น” พ.อ.ศักดิ์ชัย กล่าว
พ.อ.ศักดิ์ชัย ชี้แจงต่อว่า หลังจากนั้น มีอาจารย์หญิงอีกคน มาพูดจาโวยวายขึ้นเสียง หาว่าตนเมาสุรา หลังจากนั้น ตนจึงมีปากเสียงกับอาจารย์หญิงคนดังกล่าว และมีอาจารย์อีกคน เข้ามาชี้หน้า หาว่าตนไปพูดจาหาว่าอาจารย์บ้า ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง ตนไม่ได้พูดอะไร ก่อนที่จะมีอาจารย์อีกคน เข้ามาบอกให้ตนกลับไปก่อน ตนจึงรีบพาน้องพลอยกลับ และตลอดทางที่เดินออกมา มีคนภายในโรงเรียนตามถ่ายรูปมาตลอดทาง พร้อมตะโกนว่า อย่าให้มันออกไป นอกจากนี้ ตนยังทราบมาว่า ในวันที่ 27 ส.ค.กลุ่มเด็กนักเรียนที่ทำร้ายลูกสาวตน ยังก่อเหตุ ทำร้ายร่างกายเด็ก ม.4 อีก 5 คน ซึ่งหลังเกิดเหตุ มีการไปแจ้งความ และมีการไปไกล่เกลี่ยกันแล้ว แต่ตนแปลกใจตรงที่ว่า กลุ่มเด็กที่ทำร้ายลูกสาวตน ได้ข่มขู่ เด็ก 5 คนที่ถูกทำร้ายไว้เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ก่อนที่จะรุมทำร้ายจริงตามคำขู่ ซึ่งในวันที่ 26 หนึ่งในเด็กที่ถูกทำร้าย ได้ไปบอกผู้ปกครองไว้แล้ว และทางผู้ปกครอง ได้ไปแจ้งกับอาจารย์ที่โรงเรียนไว้แล้วเช่นกัน แต่ก็ได้รับคำตอบว่า จะดูแลให้ ทว่า ในวันที่ 27 ส.ค.ก็ยังคงเกิดเรื่องขึ้นจนได้
“เรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่ เด็ก ม.5 ทะเลาะกับเด็ก ม.6 แต่เป็นเรื่องของมาเฟียในโรงเรียน ที่เกิดหมั่นไส้ลูกสาวผม ที่ไม่ยอมเข้าไปเป็นพวกหรือลูกน้อง เป็นเรื่องของการเบ่งบารมี ซึ่งผมเชื่อว่า การที่มีคลิปหลุดมา เป็นการเตี๋ยมกันไว้ก่อนว่า จะถ่ายเก็บไว้ ซึ่งหลังจากเกิดเรื่อง ได้มีการเผยแพร่คลิปกันตลอด จนกระทั่งลูกสาวผมได้รับ และผมได้เก็บคลิปนั้นไว้” พ.อ.ศักดิ์ชัย กล่าว
พ.อ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุ ได้รีบพาลูกสาว ไปแจ้งความพร้อมกับตรวจร่ายกายที่โรงพยาบาล ซึ่งหลังจากนั้นในวันที่ 27 ส.ค.จึงตัดสินใจ แจ้งความดำเนินคดีกับ นายนัฐ โลหะธนะกุล อาจารย์โรงเรียนสารวิทยาเพิ่ม ในข้อหาหมิ่นประมาท ที่กล่าวหาว่า ตนด่าว่าบ้า และหาว่าตนเมา ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง และตนก็ไม่ได้เร่งรัดคดีแต่อย่างใด เนื่องจากไม่อยากจะมีเรื่องกับครูที่โรงเรียน เพราะลูกสาวยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนดังกล่าว ที่ไปแจ้งความเพื่อเป็นการป้องปราม ไม่ให้ใครมาทำร้ายลูกสาวตนอีก ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ มีอาจารย์ของโรงเรียนติดต่อมา เพื่อจะทำหนังสือขอโทษตน แต่หนังสือที่ตนได้รับ กลับเป็นหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงจากทางโรงเรียน ว่าเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันทั้ง 2 ฝ่าย ตนจึงไม่ถอนแจ้งความให้ เนื่องจากฝั่งตน และลูกสาวตนเป็นฝั่งผู้เสียหาย ถูกรุมทำร้ายร่างกาย จนกระทั่งวานนี้ (18 พ.ย.) ทางอาจารย์ ที่เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกับแจ้งความกลับตนในข้อหาหมิ่นประมาท
“เรื่องที่ออกไปตามสื่อทั้งหมดว่า ที่ผมล็อกคอเด็กนักเรียนในโรงเรียน และผลักไปโดนต้นไม้ ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด มีนักเรียนอีกหลายคน ราว 34 คน พร้อมจะเป็นพยานให้ว่า ผมไม่ได้เป็นคนทำ” พ.อ.ศักดิ์ชัย กล่าวชี้แจงทิ้งท้าย
โคตรแมน!! นายทหารพันเอกออกตัวแทนลูกสาว ทำร้ายเพื่อนร่วมชั้น
