ผู้ต้องหาเอเยนต์ยาบ้ากระโดดลงจากรถกระบะตราโล่ หลังนำตัวฝากขัง ก่อนขึ้นรถ จยย.เมียที่ขับตามมาหลบหนีลอยนวล ด้านตำรวจพื้นที่ประสานตำรวจใต้ออกล่าตัวตามบ้านญาติและเพื่อน ชี้คนร้ายเพิ่งพ้นโทษและก่อคดีอย่างโชกโชน เผยล่าสุดมีพลเมืองพบเห็นเดินอยู่ในสายใต้ใหม่
วันนี้ (17 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ขณะที่ ร.ต.อ.สะอาด ดัดธุยะวัตร์ ร้อยเวร สน.ตลิ่งชัน ได้ควบคุมตัว นายไชยา หรือน้อย เฉยฉิม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/35 หมู่ 9 แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่301/2550 ลงวันที่ 7 ก.พ. 2550 ข้อหาชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยใช้ยานพานะเพื่อกระทำผิดหรือนำทรัพย์นั้นไปหรอืเพื่อให้พ้นการจับกุม ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน
หลังจากที่ได้ทำการฝากขังผู้ต้องหาเสร็จ ร.ต.อ.สะอาด ได้สั่งการให้สิบเวรควบคุมตัวนายไชยากลับมาขังไว้ที่ สน.ตลิ่งชัน ขณะที่สิบเวรกำลังขับรถกระบะตราโล่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับ โดยให้นายไชยานั่งที่บริเวณกระบะหลังรถและใส่กุญแจมือไว้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถมาถึงบริเวณตรงข้ามสถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) นายไชยาได้อาศัยจังหวะที่รถของเจ้าหน้าที่ตำรวจชะลอความเร็วกระโดดลงจากรถ ก่อนที่จะหลบหนีขึ้นรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิง สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน โดยมีนางจตุพร ณ นคร อายุประมาณ 40 ปี ภรรยาของนายไชยาเป็นผู้ขับขี่และพาหลบหนีไป สำหรับนางจตุพรได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตั้งแต่ออกจากศาลจังหวัดตลิ่งชัน ทำให้คาดว่าน่าจะมีการวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้า
ด้าน พ.ต.ต.นิกร ด้วงฉุน สว.สส.สน.ตลิ่งชัน กล่าวว่า สำหรับนายไชยาเคยถูกศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 5 ปี ข้อหาครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด ซึ่งพึ่งพ้นโทษมาประมาณ 2 ปี จากนั้นเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมานายไชยาได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ โดยนายไชยาได้ใช้อาวุธไม้ตีผู้เสียหายขณะกำลังยืนปัสสาวะอยู่บริเวณวัดประดู่ แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม. ก่อนที่จะขโมยโทรศัพท์มือถือไป ต่อมาเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน และสน.บางเสาธง ได้ร่วมกันจับกุมนายไชยาได้ที่บ้านพักภายในซอยยุ้งถ่าน แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม.และนำตัวมาสอบสวนที่ สน.ตลิ่งชัน
พ.ต.ต.นิกร กล่าวต่อว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน ได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ให้ร่วมติดตามจับกุมตัวนายไชยาและนางจตุพร เนื่องจากนางจตุพรเป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช โดยตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้สันนิษฐานว่าคนร้ายอาจจะหลบหนีไปซ่อนตัวตามบ้านญาติและเพื่อนใน จ.นครศรีธรรมราช สำหรับนางจตุพรหากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ก็จะแจ้งข้อหาช่วยเหลือและพาผู้ต้องขังหลบหนีให้พ้นการจับกุม
พ.ต.ต.นิกร กล่าวอีกว่า หลังจากที่ผู้ต้องหาได้หลบหนีไป ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่าสืบสวนนำภาพของนายไชยาและนางจตุพรไปติดไว้ที่สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) จากนั้นได้มีประชาชนได้แจ้งเบาะแสเข้ามาว่าพบบุคคลภายในภาพเป็นชายสวมเสื้อยืดแขนยาวสีเทา สวมกางเกงขายาว ใส่หมวกแบบปีกปิดบังใบหน้า โดยมีหญิงสาวสวมเสื้อสีเหลืองติดตามมาด้วย
สำหรับ นายไชยา มีรูปพรรณสัญฐาน คือ สักยันต์รูปดอกไม้ สีเขียวและแดง ตั้งแต่บริเวณลำคอถึงเท้า นอกจากนี้ นายไชยายังขาขวาหักและต้องมีไม้ด้ามไว้ที่บริเวณขาขวา ซึ่งหากประชาชนท่านใดพบเห็นบุคคลดังกล่าวสามารถติดต่อมาที่เบอร์โทรศัพท์ 08-6331-3783, 08-9780-3261, 08-9110-0127 ตลอด 24 ชั่วโมง