ตำรวจ บก.น.3 สนธิกำลังกับตำรวจ 191 และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.บุกทลายไร่กระท่อมย่านหนองจอก ลักลอบปลูกกว่า 30 ไร่ ประมาณ 2,000 ต้น ได้ผู้ต้องหารวม 12 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุทั้งนั้น ตำรวจระบุใบกระท่อมจากแหล่งดังกล่าว ถูกส่งไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และถูกนำไปผสมเป็น 4 คูณ 100 ทำให้เกิดความฮึกเหิม
วันนี้ (14 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.3 พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบก.ตปพ. และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือปปส. พร้อมกำลังตำรวจ 191 และตำรวจพื้นที่ บก.น.3 กว่า 200 นาย นำกำลัง และหมายศาลจังหวัดมีนบุรีเลขที่ 878/2550 ลงวันที่ 13 พ.ย. เข้าตรวจค้นบริเวณบ้านเลขที่ 3/1 หมู่ 4 ซอยวัดสีชมภู ถนนคลองสิบ แขวงคลองสิบ เขตหนองจอก กทม. หลังจากสืบทราบว่าบริเวณรอบบ้านหลังดังกล่าวลักลอบปลูกต้นกระท่อม โดยบ้านหลังดังกล่าวมีนายนา ปานเจริญ อายุ 44 ปี เป็นเจ้าของบ้าน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้กระจายกำลังออกตรวจค้น บ้านพักในบริเวณใกล้เคียงอีก 12 จุดด้วย
จากการตรวจค้น พบว่า ทุกจุดมีการะปลูกต้นกระท่อมไว้เช่นกัน ตำรวจจึงควบคุมตัวเจ้าของบ้านทั้ง 12 จุดมาสอบปากคำ ประกอบด้วยนายนา นางลำไย เอี่ยมสะอาด อายุ 51 ปี นายมาศ ทองเนื้อดี อายุ 65 ปี นายอุดม แสงทา อายุ 55 ปี นายทองใบ ปั้นลำพอง อายุ 62 ปี นายเยี่ยม แดงโนรี อายุ 36 ปี นายเยื้อ แดงโนรี อายุ 46 ปี นางมยุรี เอี่ยมทรัพย์ อายุ 33 ปี นายชาญ จู้ม่วงศรี อายุ 55 ปี นายสนอง สไบบาง อายุ 55 ปี นายประพันธ์ อิ่มสำราญ อายุ 80 ปี และนางหวาด จูไหล อายุ 81 ปี พร้อมจของกลาง ต้นกระท่อมปลุกอยู่บนเนื้อทั้งหมดรวมประมาณ 30 ไร่ ประมาณ 10,000 ต้น ใบกระท่อมแบบอบ แบบสด และแบบผง จำนวนกว่า 100 กิโลกรัม เงินสด 70,000 บาท มีดดาบ 3 เล่ม กระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 33 นัด เครื่องอบแห้ง และโทรศัพท์มือถือ
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.ต.อำนวย ได้สั่งการให้ตำรวจสายตรวจออกตรวจตราพื้นที่ในความรับผิดชอบ ก่อนพบว่าบริเวณดังกล่าวมีการลักลอบปลูกต้นกระท่อมจำนวนมาก ตำรวจจึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุม สำหรับใบกระท่อม ถือเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายกัญชา มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 300,000 บาท
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้มีการลักลอบปลูกใบกระท่อม และมีการจำหน่ายเป็นมัดๆ ละ 100 ใบ ในราคา 20 บาท หลังจากปลูกเสร็จจะมีคนมาซื้อถึงที่ แต่ไม่ทราบว่าซื้อไปทำอะไรกัน อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ใบกระท่อมจาากสถานที่ดังกล่าวได้มีการส่งไปขายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย โดยผู้ซื้อจะนำใบกระท่อมไปผสมกับเหล้า น้ำชา และยาแก้ไอ (4 คูณ 100) เมื่อนำมาดื่มจะมีอาการมึนเมาคล้ายยาบ้า และยังไม่กล้ายืนยันว่าใบกระท่อมที่ส่งไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นจะเป็นสิ่งบอกเหตุที่เป็นการปลุกขวัญให้ผู้ก่อการร้ายในภาคใต้มีความฮึกเหิมหรือไม่ แต่การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ซึ่งอาจจะทำให้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้เบาลงได้บ้าง ส่วนต้นและใบกระท่อมที่จับได้ในครั้งนี้ตำรวจจะถอนทิ้งไปเผาทำลายทั้งหมด ในขณะที่ผู้ต้องหา ตำรวจจะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ลำหินดำเนินคดีต่อไป
ด้าน นายนา หนึ่งในผู้ต้องหาให้การว่า ปกติ มีอาชีพทำนา ส่วนการปลูกใบกระท่อมเป็นเพียงอาชีพเสริม เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมนาข้าวจนตายหมด เหลือแต่ใบกระท่อมอย่างเดียวที่ไม่ตาย และได้ปลูกใบกระท่อมมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่รุ่นย่าแล้ว เพิ่งจะมาถูกจับกุมครั้งนี้เป็นครั้งแรก
วันนี้ (14 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.3 พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบก.ตปพ. และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือปปส. พร้อมกำลังตำรวจ 191 และตำรวจพื้นที่ บก.น.3 กว่า 200 นาย นำกำลัง และหมายศาลจังหวัดมีนบุรีเลขที่ 878/2550 ลงวันที่ 13 พ.ย. เข้าตรวจค้นบริเวณบ้านเลขที่ 3/1 หมู่ 4 ซอยวัดสีชมภู ถนนคลองสิบ แขวงคลองสิบ เขตหนองจอก กทม. หลังจากสืบทราบว่าบริเวณรอบบ้านหลังดังกล่าวลักลอบปลูกต้นกระท่อม โดยบ้านหลังดังกล่าวมีนายนา ปานเจริญ อายุ 44 ปี เป็นเจ้าของบ้าน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้กระจายกำลังออกตรวจค้น บ้านพักในบริเวณใกล้เคียงอีก 12 จุดด้วย
จากการตรวจค้น พบว่า ทุกจุดมีการะปลูกต้นกระท่อมไว้เช่นกัน ตำรวจจึงควบคุมตัวเจ้าของบ้านทั้ง 12 จุดมาสอบปากคำ ประกอบด้วยนายนา นางลำไย เอี่ยมสะอาด อายุ 51 ปี นายมาศ ทองเนื้อดี อายุ 65 ปี นายอุดม แสงทา อายุ 55 ปี นายทองใบ ปั้นลำพอง อายุ 62 ปี นายเยี่ยม แดงโนรี อายุ 36 ปี นายเยื้อ แดงโนรี อายุ 46 ปี นางมยุรี เอี่ยมทรัพย์ อายุ 33 ปี นายชาญ จู้ม่วงศรี อายุ 55 ปี นายสนอง สไบบาง อายุ 55 ปี นายประพันธ์ อิ่มสำราญ อายุ 80 ปี และนางหวาด จูไหล อายุ 81 ปี พร้อมจของกลาง ต้นกระท่อมปลุกอยู่บนเนื้อทั้งหมดรวมประมาณ 30 ไร่ ประมาณ 10,000 ต้น ใบกระท่อมแบบอบ แบบสด และแบบผง จำนวนกว่า 100 กิโลกรัม เงินสด 70,000 บาท มีดดาบ 3 เล่ม กระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 33 นัด เครื่องอบแห้ง และโทรศัพท์มือถือ
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.ต.อำนวย ได้สั่งการให้ตำรวจสายตรวจออกตรวจตราพื้นที่ในความรับผิดชอบ ก่อนพบว่าบริเวณดังกล่าวมีการลักลอบปลูกต้นกระท่อมจำนวนมาก ตำรวจจึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุม สำหรับใบกระท่อม ถือเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายกัญชา มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 300,000 บาท
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้มีการลักลอบปลูกใบกระท่อม และมีการจำหน่ายเป็นมัดๆ ละ 100 ใบ ในราคา 20 บาท หลังจากปลูกเสร็จจะมีคนมาซื้อถึงที่ แต่ไม่ทราบว่าซื้อไปทำอะไรกัน อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ใบกระท่อมจาากสถานที่ดังกล่าวได้มีการส่งไปขายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย โดยผู้ซื้อจะนำใบกระท่อมไปผสมกับเหล้า น้ำชา และยาแก้ไอ (4 คูณ 100) เมื่อนำมาดื่มจะมีอาการมึนเมาคล้ายยาบ้า และยังไม่กล้ายืนยันว่าใบกระท่อมที่ส่งไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นจะเป็นสิ่งบอกเหตุที่เป็นการปลุกขวัญให้ผู้ก่อการร้ายในภาคใต้มีความฮึกเหิมหรือไม่ แต่การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ซึ่งอาจจะทำให้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้เบาลงได้บ้าง ส่วนต้นและใบกระท่อมที่จับได้ในครั้งนี้ตำรวจจะถอนทิ้งไปเผาทำลายทั้งหมด ในขณะที่ผู้ต้องหา ตำรวจจะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ลำหินดำเนินคดีต่อไป
ด้าน นายนา หนึ่งในผู้ต้องหาให้การว่า ปกติ มีอาชีพทำนา ส่วนการปลูกใบกระท่อมเป็นเพียงอาชีพเสริม เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมนาข้าวจนตายหมด เหลือแต่ใบกระท่อมอย่างเดียวที่ไม่ตาย และได้ปลูกใบกระท่อมมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่รุ่นย่าแล้ว เพิ่งจะมาถูกจับกุมครั้งนี้เป็นครั้งแรก
