ข้อพิพาทตลาดวัดอุทัยฯ ย่านอาร์ซีเอ สงสัยจะได้ข้อยุติ เมื่อชายฉกรรจ์บุกรื้อเต็นท์ที่ทำมาหากิน แต่เหล่าพ่อค้าแม่ค้ายินยอม
วันนี้ (13 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.20 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน ได้รับแจ้งเหตุว่า มีการรื้อเต็นท์ตลาดวัดอุทัยธาราม แขวงห้วยขวาง เขตมักกะสัน กทม.จึงรุดไปที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงพบรถ 6 ล้อ จำนวน 2 คัน พร้อมกับชายฉกรรจ์สวมชุดดำ จำนวนประมาณ 20 คน กำลังขนของจากร้านค้าขึ้นรถ 6 ล้อ ท่ามกลางสายตาพ่อค้าแม่ค้า เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกประจำวัน แล้วสั่งไม่ให้มีการกระทำใดๆ เพราะที่ดินบริเวณดังกล่าวยังมีการฟ้องร้องกันอยู่
นายสำรวย หน่องพงษ์ อายุ 48 ปี หรือ ป๋ารวย RCA ผู้แบ่งพื้นที่ตลาดให้พ่อค้าแม่ค้าเช่า เปิดเผยว่า ตนเองได้รับแจ้งมาว่า วันนี้จะมีการนำกำลังเข้ามาพังเต็นท์และเผาเต็นท์ในตลาด เมื่อมาถึงก็พบชายชุดดำประมาณ 15-20 คนยืนอยู่ ตนจึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไป ชายชุดดำก็เข้าไปขนของในร้านค้า ตนจึงเข้าไปห้าม แต่ได้คำตอบกลับมาว่า เจ้าของร้านยินยอม ตนจึงไม่ได้เข้าไปยุ่ง
นายสำรวย กล่าวต่อว่า ตลาดแห่งนี้ ตนได้เช่าพื้นที่แล้วนำมาแบ่งให้พ่อค้าแม่ค้าเช่าขายของมานานกว่า 20 ปี แต่ต่อมามีโครงการสร้างคอนโดมิเนียมใหม่ติดอยู่กับตลาดเกิดขึ้น ซึ่งช่วงแรกก็มีการพึ่งพาอาศัยกัน มีการขอใช้ทางเข้า ขอต่อท่อน้ำประปาร่วม ตนก็ไม่เคยว่าอะไร แต่ตอนนี้จะนำกำลังคนเข้ามาขนทรัพย์สินของแม่ค้าไป ตนยอมไม่ได้
“เมื่อ 2 เดือนก่อน ก็มีเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง คือ มีคนมาพังเต็นท์ ซึ่งแม่ค้าและชาวบ้านได้รับความเสียหายและหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ผมก็ไม่ได้ติดใจเอาความ แต่มาวันนี้ได้รับโทรศัพท์โทร.มาข่มขู่อีกว่า จะมีคนมาพังเต็นท์อีก ผมคิดว่าทำอย่างนี้มันไม่ถูก เพราะพวกแม่ค้ายังมาไม่ถึง ไม่ได้รับการยินยอมจากพวกเขา ถ้ากลุ่มพ่อค้าแม่ค้าต้องการจะไปจริงๆ ผมไม่ห้ามอยู่แล้ว” นายสำรวย กล่าว
ด้าน นายพงษ์พันธ์ เสมา อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 189/7 หมู่ 1 แขวงและเขตประเวศ ได้นำเอกสารสัญญาเช่ามาให้ดู กล่าวว่า ที่ดินแห่งนี้เป็นสิทธิ์ของตน ซึ่งตนก็ปล่อยมานานหลายปี แต่ตอนนี้ต้องการนำมาทำประโยชน์ และทราบว่า มีพ่อค้าแม่ค้าตั้งร้านอยู่ที่นี่เยอะ ตนจึงได้จัดสร้างตลาดขึ้นอีกแห่ง เพื่อรองรับพ่อค้าแม่ค้าเพื่อให้มีที่ไป โดยเป็นที่จอดรถเก่าพื้นที่ประมาณ 7 ไร่ อยู่ไม่ไกลจากตลาดวัดอุทัยฯมากนัก ตอนนี้ได้นำเต็นท์มาตั้ง และต่อไฟเข้าไปทุกจุดแล้ว พร้อมที่จะให้ย้ายเข้าไปอยู่ได้ทันที
นายพงษ์พันธ์ กล่าวต่อว่า ครั้งก่อนมีข่าวออกมาว่าเจ้าของที่ดินใจร้ายพังเต็นท์นั้น ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น ตนอยากประณีประนอมเพื่อให้เกิดความถูกต้อง พ่อค้าแม่ค้าเรียกร้องอะไร ตนก็จัดหาให้หมดเรียบร้อย ครบทุกอย่าง ที่มาวันนี้ ตนนำคนมาช่วยย้ายของของพ่อค้าแม่ค้าที่สมัครใจจะย้ายเท่านั้น ไม่ได้มาพังเต็นท์อย่างที่กล่าวหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ทางผู้สื่อข่าวหลายแขนงกำลังถ่ายรูปอยู่นั้น ได้มี 1 ในชายชุดดำที่กำลังรื้อ เข้ามาห้ามมิให้ถ่ายรูป พร้อมอ้างว่าเป็นผู้สื่อข่าวทำเนียบ และมีการโต้เถียงกันเล็กน้อย ต่อมาก็ได้มีนายโสภณ หรือ มาโนช พวงประดับ อายุ 46 ปี เข้ามาหากับกลุ่มผู้สื่อข่าว พร้อมโชว์บัตรเจ้าหน้าที่โทรทัศน์ช่อง 11 โดยอ้างว่า ตนไม่ได้เป็นพวกใครตนเพียงคนกลาง ที่เข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยเท่านั้น เมื่อคืนตนได้จัดการประชุมกันขึ้นมีคนเข้าร่วมประมาณ 50 คน เพื่อรวบรวมรายชื่อทำสัญญาคนที่ต้องการย้าย ซึ่งตนให้ลงรายมือชื่อไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเรียบร้อยแล้ว และมีพ่อค้าแม่ค้าบางส่วนยินดีย้ายไป ทางนายอ๊อดก็ได้นำรถมาขนของให้เท่านั้นเองไม่ได้มารื้ออย่างที่พ่อค้าแม่ค้าที่ยังปักหลักขายของอยู่กลัวแต่อย่างใด
“ป๋ารวย” ปิดปากเงียบคดีรื้อแผงค้าอาร์ซีเอ
พ่อค้า-แม่ค้า โร่แจ้งความหลังกลุ่มชายฉกรรจ์บุกรื้อร้านพังยับ
ชายฉกรรจ์กว่าร้อย! บุกรื้อแผงร้านค้าตลาดย่านอาร์ซีเอกลางดึก
วันนี้ (13 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.20 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน ได้รับแจ้งเหตุว่า มีการรื้อเต็นท์ตลาดวัดอุทัยธาราม แขวงห้วยขวาง เขตมักกะสัน กทม.จึงรุดไปที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงพบรถ 6 ล้อ จำนวน 2 คัน พร้อมกับชายฉกรรจ์สวมชุดดำ จำนวนประมาณ 20 คน กำลังขนของจากร้านค้าขึ้นรถ 6 ล้อ ท่ามกลางสายตาพ่อค้าแม่ค้า เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกประจำวัน แล้วสั่งไม่ให้มีการกระทำใดๆ เพราะที่ดินบริเวณดังกล่าวยังมีการฟ้องร้องกันอยู่
นายสำรวย หน่องพงษ์ อายุ 48 ปี หรือ ป๋ารวย RCA ผู้แบ่งพื้นที่ตลาดให้พ่อค้าแม่ค้าเช่า เปิดเผยว่า ตนเองได้รับแจ้งมาว่า วันนี้จะมีการนำกำลังเข้ามาพังเต็นท์และเผาเต็นท์ในตลาด เมื่อมาถึงก็พบชายชุดดำประมาณ 15-20 คนยืนอยู่ ตนจึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไป ชายชุดดำก็เข้าไปขนของในร้านค้า ตนจึงเข้าไปห้าม แต่ได้คำตอบกลับมาว่า เจ้าของร้านยินยอม ตนจึงไม่ได้เข้าไปยุ่ง
นายสำรวย กล่าวต่อว่า ตลาดแห่งนี้ ตนได้เช่าพื้นที่แล้วนำมาแบ่งให้พ่อค้าแม่ค้าเช่าขายของมานานกว่า 20 ปี แต่ต่อมามีโครงการสร้างคอนโดมิเนียมใหม่ติดอยู่กับตลาดเกิดขึ้น ซึ่งช่วงแรกก็มีการพึ่งพาอาศัยกัน มีการขอใช้ทางเข้า ขอต่อท่อน้ำประปาร่วม ตนก็ไม่เคยว่าอะไร แต่ตอนนี้จะนำกำลังคนเข้ามาขนทรัพย์สินของแม่ค้าไป ตนยอมไม่ได้
“เมื่อ 2 เดือนก่อน ก็มีเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง คือ มีคนมาพังเต็นท์ ซึ่งแม่ค้าและชาวบ้านได้รับความเสียหายและหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ผมก็ไม่ได้ติดใจเอาความ แต่มาวันนี้ได้รับโทรศัพท์โทร.มาข่มขู่อีกว่า จะมีคนมาพังเต็นท์อีก ผมคิดว่าทำอย่างนี้มันไม่ถูก เพราะพวกแม่ค้ายังมาไม่ถึง ไม่ได้รับการยินยอมจากพวกเขา ถ้ากลุ่มพ่อค้าแม่ค้าต้องการจะไปจริงๆ ผมไม่ห้ามอยู่แล้ว” นายสำรวย กล่าว
ด้าน นายพงษ์พันธ์ เสมา อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 189/7 หมู่ 1 แขวงและเขตประเวศ ได้นำเอกสารสัญญาเช่ามาให้ดู กล่าวว่า ที่ดินแห่งนี้เป็นสิทธิ์ของตน ซึ่งตนก็ปล่อยมานานหลายปี แต่ตอนนี้ต้องการนำมาทำประโยชน์ และทราบว่า มีพ่อค้าแม่ค้าตั้งร้านอยู่ที่นี่เยอะ ตนจึงได้จัดสร้างตลาดขึ้นอีกแห่ง เพื่อรองรับพ่อค้าแม่ค้าเพื่อให้มีที่ไป โดยเป็นที่จอดรถเก่าพื้นที่ประมาณ 7 ไร่ อยู่ไม่ไกลจากตลาดวัดอุทัยฯมากนัก ตอนนี้ได้นำเต็นท์มาตั้ง และต่อไฟเข้าไปทุกจุดแล้ว พร้อมที่จะให้ย้ายเข้าไปอยู่ได้ทันที
นายพงษ์พันธ์ กล่าวต่อว่า ครั้งก่อนมีข่าวออกมาว่าเจ้าของที่ดินใจร้ายพังเต็นท์นั้น ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น ตนอยากประณีประนอมเพื่อให้เกิดความถูกต้อง พ่อค้าแม่ค้าเรียกร้องอะไร ตนก็จัดหาให้หมดเรียบร้อย ครบทุกอย่าง ที่มาวันนี้ ตนนำคนมาช่วยย้ายของของพ่อค้าแม่ค้าที่สมัครใจจะย้ายเท่านั้น ไม่ได้มาพังเต็นท์อย่างที่กล่าวหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ทางผู้สื่อข่าวหลายแขนงกำลังถ่ายรูปอยู่นั้น ได้มี 1 ในชายชุดดำที่กำลังรื้อ เข้ามาห้ามมิให้ถ่ายรูป พร้อมอ้างว่าเป็นผู้สื่อข่าวทำเนียบ และมีการโต้เถียงกันเล็กน้อย ต่อมาก็ได้มีนายโสภณ หรือ มาโนช พวงประดับ อายุ 46 ปี เข้ามาหากับกลุ่มผู้สื่อข่าว พร้อมโชว์บัตรเจ้าหน้าที่โทรทัศน์ช่อง 11 โดยอ้างว่า ตนไม่ได้เป็นพวกใครตนเพียงคนกลาง ที่เข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยเท่านั้น เมื่อคืนตนได้จัดการประชุมกันขึ้นมีคนเข้าร่วมประมาณ 50 คน เพื่อรวบรวมรายชื่อทำสัญญาคนที่ต้องการย้าย ซึ่งตนให้ลงรายมือชื่อไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเรียบร้อยแล้ว และมีพ่อค้าแม่ค้าบางส่วนยินดีย้ายไป ทางนายอ๊อดก็ได้นำรถมาขนของให้เท่านั้นเองไม่ได้มารื้ออย่างที่พ่อค้าแม่ค้าที่ยังปักหลักขายของอยู่กลัวแต่อย่างใด
“ป๋ารวย” ปิดปากเงียบคดีรื้อแผงค้าอาร์ซีเอ
พ่อค้า-แม่ค้า โร่แจ้งความหลังกลุ่มชายฉกรรจ์บุกรื้อร้านพังยับ
ชายฉกรรจ์กว่าร้อย! บุกรื้อแผงร้านค้าตลาดย่านอาร์ซีเอกลางดึก
