ผบช.ภ.1 สั่งตำรวจทุกจังหวัดในพื้นที่จัดทำทะเบียนกลุ่มผู้มีอิทธิพล และมือปืนรับจ้าง รองรับการเลือกตั้ง พร้อมเชื่อความขัดแย้งทางการเมืองจะชัดเจนมากขึ้น หลังวันสมัครรับเลือกตั้ง
วันนี้ (6 พ.ย.) พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ได้กำชับให้ตำรวจทุกจังหวัดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 จัดทำทะเบียนกลุ่มผู้มีอิทธิพล และกลุ่มมือปืนให้เป็นข้อมูลปัจจุบันมากที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการก่อเหตุด้วยอาวุธสงคราม เช่น จ.ลพบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.อ่างทอง และ จ.สระบุรี เบื้องต้นให้ใช้มาตรการกดดันเพื่อไม่ให้กลุ่มผู้มีอิทธิพล หรือซุ้มมือปืนเคลื่อนไหวได้มากนัก และต้องดำเนินการตรวจสอบคดีค้างเก่า รวมถึงมาตรการปราบปราม โดยขออำนาจศาลปิดล้อมเพื่อตรวจค้นอาวุธสงครามในพื้นที่ที่เป็นเป้าหมาย และหากกำลังของตำรวจภูธรจังหวัดนั้นๆ ไม่เพียงพอให้ขอกำลังเสริมจากตำรวจภูธรภาค 1 หรือจังหวัดข้างเคียงได้
ผบช.ภ.1 กล่าวว่า สำหรับความชัดเจนของการขัดแย้งทางการเมืองจะเกิดขึ้นหลังวันรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะถึงนี้ และจะมองออกได้ทันที่ว่าใครเป็นศัตรูกับใคร ใครต้องการแย่งชิงหัวคะแนนกับใครบ้าง และเมื่อทุกอย่างชัด พฤติกรรมการแย่งชิงหัวคะแนนและฐานเสียงจะเกิดขึ้น สำหรับกรณีนักการเมืองคนใดคิดว่าเริ่มไม่ได้รับความปลอดภัยสามารถร้องขอตำรวจไปช่วยดูแลความปลอดภัยได้ ส่วนกรณีมีข่าวฝ่ายทหารจะลงมาช่วยเรื่องการรักษาความสงบในช่วงเลือกตั้งนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะทั้งตำรวจ และทหารก็เป็นข้าราชการทำงานเพื่อประเทศชาติ และทั้งหมดก็ทำงานเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในการเลือกตั้งตามกฎหมายทั้งสิ้น
ในทางลับของตำรวจภูธรภาค 1 พบว่า ในเขตภาคกลางมีกลุ่มมือปืนทั้งหมด 13 ซุ้ม ประกอบด้วย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีซุ้มมือปืน 1 กลุ่ม ชื่อย่อ “น” ชอบใช้อาวุธสงครามในการทำงาน, จังหวัดอ่างทอง มีซุ้มมือปืน 3 กลุ่ม ประกอบด้วย นักการเมืองท้องถิ่น ชื่อย่อ “ส” อดีตตำรวจ ชื่อย่อ “ก” และมือปืนที่ไม่มีสังกัดชื่อย่อ “ข” ทั้งหมดชอบใช้อาวุธปืน .45, .38 และอาวุธสงครามในการทำงาน
จังหวัดสระบุรี มี 2 กลุ่ม ชอบใช้อาวุธปืนขนาด 9 มิลลิเมตร และขนาด .38 ประกอบด้วยนักการเมืองท้องถิ่น ชื่อย่อ “พ” และกลุ่มคนมีสี ชื่อย่อ “อ” โดยกลุ่มหลังนี้พัวพันกับงานจ้างฆ่านายภิรมย์ อั๋นประเสริฐ กรรมการฟีฟ่าด้วย
สุดท้ายคือจังหวัดลพบุรี เป็นศูนย์รวมของกลุ่มมือปืนรับจ้าง มีทั้งหมด 7 กลุ่ม ประกอบด้วย นักการเมืองท้องถิ่น 4 กลุ่ม ชื่อย่อ “ด”, ชื่อย่อ “ต”, ชื่อย่อ “น”, ชื่อย่อ “ร” และคนมีสีอีก 3 กลุ่ม ประกอบด้วย ทหารยศจ่า ชื่อย่อ “ส”, นายทหารยศพันตรี และนายทหารยศพันโท ทั้งหมดจะถนัดการใช้อาวุธปืนทุกชนิด
อย่างไรก็ตาม ตำรวจภูธรภาค 1 กำลังเฝ้าจับตามอง ส.อ.บุณย์ตรี มุสะกะ ฉายาจ่าบึ๋ง หรือจ่าเหนียว มือปืนอันดับ 5 ที่ตำรวจกองปราบปรามต้องการตัว ถูกปัดฝุ่นให้เป็นมือปืนอันดับต้นๆ ของตำรวจภูธรภาค 1 เพราะเชื่อว่าจะถูกเรียกกลับมาใช้งานในช่วงเลือกตั้ง แต่ในวงการมือปืนระบุว่าจ่าบึ๋ง หนีออกนอกประเทศไปอาศัยอยู่แถวแนวตะเข็บชายแดนทางภาคเหนือ เช่นเดียวกับนายสมพิศ แสงหิรัญ หรือป๊อก วัง ชาว ต.หัวไผ่ อ.เมือง จ.อ่างทอง มือปืนอันดับ 7 ของบัญชีตำรวจกองปราบปราม ถูกจับตามมองขึ้นมาทันทีในช่วงใกล้เลือกตั้งปลายปีนี้ เพราะมีความถนัดในการใช้อาวุธปืนทุกชนิด และเข้าสังกัดซุ้มมือปืนของนักการเมืองคนหนึ่งในภาคกลาง