ตำรวจพบผู้ต้องหาหลบหนีออกจากห้องขัง สน.บางเขน ทำเป็นขบวนการ จับเพื่อนแฟนของผู้ต้องหาแล้ว 1 คน หลังศาลออกหมายจับ ให้การซัดทอดแฟนสาวของผู้ต้องหา ส่งปืนให้สามี ใช้หลบหนี ยิงตำรวจ ขณะที่ ด.ต.รังสรรค์ ผู้บาดเจ็บ บอกนาทีถูกยิง ถึงหน้า แม่ ภรรยา และลูก
วันนี้ (2 พ.ย.) เวลา 10.00 น.ที่ สน.บางเขน พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.น.2 เปิดเผยถึงกรณีที่ นายประสิทธิ์ มังคุณ หรือ โต้ง ผู้ต้องหาก่อเหตุแหกห้องขัง สน.บางเขน แล้วใช้อาวุธปืนลูกโม้ขนาด .38 ยิง ด.ต.รังสรรค์ พิมพ์คุณากร ที่วิ่งติดตามไปเพื่อจับกุมบาดเจ็บ ก่อนที่จะใช้อาวุธปืนยิงตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวานที่ผ่านมาว่า กรณีที่เกิดขึ้นถือว่ามีการทำเป็นขบวนการและมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี โดยตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ต้องหาในการหลบหนี ประกอบด้วย น.ส.ศิรารัตน์ บูราณ และ น.ส.พัชรา มะลิวัลย์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 703 ซอยรังสิต - นครนายก 51 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นเพื่อนและแฟนสาวของนายประสิทธิ์ และศาลอาญาอนุมัติหมายจับเลขที่ 3292/2550 ลงวันที่ 1 พ.ย.50 ข้อหา ร่วมกันสนับสนุนให้ผู้อื่นหลบหนี ในระหว่างคุมขัง ตามอำนาจของพนักงานสอบสวน โดยมีหรือใช้อาวุธปืน และร่วมกันสนับสนุน ให้ผู้อื่นพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว น.ส.ศิรารัตน์ ได้แล้ว ขณะนี้กำลังกระจายกำลังติดตามตัว น.ส.พัชรา อย่างเร่งด่วน
สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จากการตรวจสอบ พบว่า ขณะที่เดินทางมาขอเยี่ยมนายประสิทธิ์ ทาง น.ส.พัชรา ได้ยื่นอาวุธปืนให้กับ นายประสิทธิ์ จากนั้น นายประสิทธิ์ ได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีออกมาจากห้องขัง ส่วนการสอบสวน น.ส.ศิรารัตน์ ตอนนี้ได้มีทนายความของฝ่ายผู้ต้องหา อัยการ และนักสังคมสงเคราะห์ มาร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสอบสวน ซึ่งเบื้องต้น น.ส.ศิรารัตน์ ได้ให้การรับสารภาพ และให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก โดยได้มีการซัดทอดไปถึง น.ส.พัชรา ส่วนการสอบสวนหากพบว่า สามารถขยายผลไปยังผู้ต้องหารายอื่น ก็จะเสนอศาลขออนุมัติหมายจับกุมเพิ่มเติมต่อไป
ผบก.น.2 กล่าวในส่วนของ นายประสิทธิ์ ตอนนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้เดินทางไปสอบปากคำ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ ยังไม่สามารถให้ปากคำได้ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเจ้าของที่แท้จริงเป็นของใคร และต้องขอเวลาในการสอบสวนอีกระยะหนึ่ง
“กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ปล่อยให้ผู้ต้องหา สามารถหลบหนีออกจากห้องขังได้ ซึ่งทางตำรวจได้มีมาตรการในส่วนนี้อยู่แล้ว ตอนนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน และต้องขอเวลาสักระยะ ส่วนโทษจะหนักอย่างไร ต้องรอดูอีกครั้งหนึ่ง”
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.วรศักดิ์ ได้ฝากขอบคุณไปยังประชาชนและสื่อมวลชน ที่ให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแส และนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เวลาผ่านไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ ซึ่งทำให้เห็นว่า ความร่วมมือจากทุกฝ่ายทำให้งานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
ต่อมา พล.ต.ต.สุรศักดิ์ และพ.ต.อ.พัฒนา เพศยนาวิน ผกก.สน.บางเขน เดินทางไปเยี่ยม ด.ต.รังสรรค์ พิมพ์คุณากร ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเซ็นทรัล เยนเนอรัล โดยได้นำกระเช้าดอกไม้ และกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงกำลังมอบให้กับ ด.ต.รังสรรค์
ด้าน ด.ต.รังสรรค์ เปิดเผยว่า ตอนนี้อาการทั่วไป ยังรู้สึกเจ็บแผลอยู่ อย่างไรก็ตาม เป็นห่วงเรื่องการสอบเข้านายตำรวจชั้นสัญญาบัตร ที่ตนจะต้องเดินทางไปสอบในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะสอบเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะเกิดเหตุ ตอนนั้นกำลังเบิกตัวผู้ต้องหาออกมา แต่จังหวะนั้น นายประสิทธิ์ ได้วิ่งออกมาจากห้องขังและวิ่งไปด้านหน้า สน.ตนจึงวิ่งตามออกไป และขณะที่ นายประสิทธิ์ ได้ใช้อาวุธปืนจี้คนขับขี่ จยย.เพื่อจะใช้ในการหลบหนี ตนได้กระชากรถเพื่อไม่ให้หลบหนีไปได้ และได้เสียหลักล้มลง จากนั้น นายประสิทธิ์ ได้ใช้อาวุธปืนยิงตน 2 นัด ก่อนจะหลบหนีไป และขณะที่ถูกยิง นึกถึงแม่ ภรรยา และลูก”
ต่อมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพิมสุดา เอี่ยมแจ้งพันธ์ ตัวแทนของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้นำเงินของสมาคม มามอบให้กับ ดต.รังสรรค์ เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
ที่โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.ต.สมยศ ดีมาก นายแพทย์ (สบ 6) ในฐานะโฆษก รพ.ตำรวจ กล่าวถึงอาการล่าสุดของ นายประสิทธิ์ หรือ โต้ง มุงคุณ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุหลบหนีออกจากห้องขัง สน.บางเขน แล้วใช้อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ยิง ด.ต.รังสรรค์ พิมพ์คุณากร ที่วิ่งติดตามไปเพื่อจับกุมได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะใช้อาวุธปืนยิงตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัสหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อม หลังเกิดเหตุถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบางปะกอก 9 ก่อนถูกส่งต่อมายังรพ.ตำรวจ ว่า นายประสิทธิ์ ได้รับบาดเจ็บมีรอยกระสุนที่หน้าอกซ้าย และมีเลือดออกในปอดด้านซ้าย แพทย์ได้ทำการต่อสายยางเพื่อระบายเลือดออกจากปอด ล่าสุด อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ความดันเป็นปกติ ชีพจรเต้นดี คาดว่าหากไม่มีอาการแทรกซ้อนภายใน 1 สัปดาห์แพทย์สามารถอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีต่อไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประสิทธิ์ พักรักษาตัวในห้องพักควบคุมผู้ต้องหา ชั้น 5 ตึกเฉลิมพระเกียรติ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน คอยควบคุมอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีหรือ คิดสั้นฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีญาติติดต่อเข้าเยี่ยมนายประสิทธิ์ แต่อย่างใด
วันนี้ (2 พ.ย.) เวลา 10.00 น.ที่ สน.บางเขน พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.น.2 เปิดเผยถึงกรณีที่ นายประสิทธิ์ มังคุณ หรือ โต้ง ผู้ต้องหาก่อเหตุแหกห้องขัง สน.บางเขน แล้วใช้อาวุธปืนลูกโม้ขนาด .38 ยิง ด.ต.รังสรรค์ พิมพ์คุณากร ที่วิ่งติดตามไปเพื่อจับกุมบาดเจ็บ ก่อนที่จะใช้อาวุธปืนยิงตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวานที่ผ่านมาว่า กรณีที่เกิดขึ้นถือว่ามีการทำเป็นขบวนการและมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี โดยตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ต้องหาในการหลบหนี ประกอบด้วย น.ส.ศิรารัตน์ บูราณ และ น.ส.พัชรา มะลิวัลย์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 703 ซอยรังสิต - นครนายก 51 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นเพื่อนและแฟนสาวของนายประสิทธิ์ และศาลอาญาอนุมัติหมายจับเลขที่ 3292/2550 ลงวันที่ 1 พ.ย.50 ข้อหา ร่วมกันสนับสนุนให้ผู้อื่นหลบหนี ในระหว่างคุมขัง ตามอำนาจของพนักงานสอบสวน โดยมีหรือใช้อาวุธปืน และร่วมกันสนับสนุน ให้ผู้อื่นพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว น.ส.ศิรารัตน์ ได้แล้ว ขณะนี้กำลังกระจายกำลังติดตามตัว น.ส.พัชรา อย่างเร่งด่วน
สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จากการตรวจสอบ พบว่า ขณะที่เดินทางมาขอเยี่ยมนายประสิทธิ์ ทาง น.ส.พัชรา ได้ยื่นอาวุธปืนให้กับ นายประสิทธิ์ จากนั้น นายประสิทธิ์ ได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีออกมาจากห้องขัง ส่วนการสอบสวน น.ส.ศิรารัตน์ ตอนนี้ได้มีทนายความของฝ่ายผู้ต้องหา อัยการ และนักสังคมสงเคราะห์ มาร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสอบสวน ซึ่งเบื้องต้น น.ส.ศิรารัตน์ ได้ให้การรับสารภาพ และให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก โดยได้มีการซัดทอดไปถึง น.ส.พัชรา ส่วนการสอบสวนหากพบว่า สามารถขยายผลไปยังผู้ต้องหารายอื่น ก็จะเสนอศาลขออนุมัติหมายจับกุมเพิ่มเติมต่อไป
ผบก.น.2 กล่าวในส่วนของ นายประสิทธิ์ ตอนนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้เดินทางไปสอบปากคำ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ ยังไม่สามารถให้ปากคำได้ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเจ้าของที่แท้จริงเป็นของใคร และต้องขอเวลาในการสอบสวนอีกระยะหนึ่ง
“กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ปล่อยให้ผู้ต้องหา สามารถหลบหนีออกจากห้องขังได้ ซึ่งทางตำรวจได้มีมาตรการในส่วนนี้อยู่แล้ว ตอนนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน และต้องขอเวลาสักระยะ ส่วนโทษจะหนักอย่างไร ต้องรอดูอีกครั้งหนึ่ง”
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.วรศักดิ์ ได้ฝากขอบคุณไปยังประชาชนและสื่อมวลชน ที่ให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแส และนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เวลาผ่านไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ ซึ่งทำให้เห็นว่า ความร่วมมือจากทุกฝ่ายทำให้งานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
ต่อมา พล.ต.ต.สุรศักดิ์ และพ.ต.อ.พัฒนา เพศยนาวิน ผกก.สน.บางเขน เดินทางไปเยี่ยม ด.ต.รังสรรค์ พิมพ์คุณากร ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเซ็นทรัล เยนเนอรัล โดยได้นำกระเช้าดอกไม้ และกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงกำลังมอบให้กับ ด.ต.รังสรรค์
ด้าน ด.ต.รังสรรค์ เปิดเผยว่า ตอนนี้อาการทั่วไป ยังรู้สึกเจ็บแผลอยู่ อย่างไรก็ตาม เป็นห่วงเรื่องการสอบเข้านายตำรวจชั้นสัญญาบัตร ที่ตนจะต้องเดินทางไปสอบในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะสอบเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะเกิดเหตุ ตอนนั้นกำลังเบิกตัวผู้ต้องหาออกมา แต่จังหวะนั้น นายประสิทธิ์ ได้วิ่งออกมาจากห้องขังและวิ่งไปด้านหน้า สน.ตนจึงวิ่งตามออกไป และขณะที่ นายประสิทธิ์ ได้ใช้อาวุธปืนจี้คนขับขี่ จยย.เพื่อจะใช้ในการหลบหนี ตนได้กระชากรถเพื่อไม่ให้หลบหนีไปได้ และได้เสียหลักล้มลง จากนั้น นายประสิทธิ์ ได้ใช้อาวุธปืนยิงตน 2 นัด ก่อนจะหลบหนีไป และขณะที่ถูกยิง นึกถึงแม่ ภรรยา และลูก”
ต่อมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพิมสุดา เอี่ยมแจ้งพันธ์ ตัวแทนของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้นำเงินของสมาคม มามอบให้กับ ดต.รังสรรค์ เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
ที่โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.ต.สมยศ ดีมาก นายแพทย์ (สบ 6) ในฐานะโฆษก รพ.ตำรวจ กล่าวถึงอาการล่าสุดของ นายประสิทธิ์ หรือ โต้ง มุงคุณ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุหลบหนีออกจากห้องขัง สน.บางเขน แล้วใช้อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ยิง ด.ต.รังสรรค์ พิมพ์คุณากร ที่วิ่งติดตามไปเพื่อจับกุมได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะใช้อาวุธปืนยิงตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัสหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อม หลังเกิดเหตุถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบางปะกอก 9 ก่อนถูกส่งต่อมายังรพ.ตำรวจ ว่า นายประสิทธิ์ ได้รับบาดเจ็บมีรอยกระสุนที่หน้าอกซ้าย และมีเลือดออกในปอดด้านซ้าย แพทย์ได้ทำการต่อสายยางเพื่อระบายเลือดออกจากปอด ล่าสุด อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ความดันเป็นปกติ ชีพจรเต้นดี คาดว่าหากไม่มีอาการแทรกซ้อนภายใน 1 สัปดาห์แพทย์สามารถอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีต่อไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประสิทธิ์ พักรักษาตัวในห้องพักควบคุมผู้ต้องหา ชั้น 5 ตึกเฉลิมพระเกียรติ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน คอยควบคุมอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีหรือ คิดสั้นฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีญาติติดต่อเข้าเยี่ยมนายประสิทธิ์ แต่อย่างใด
