xs
xsm
sm
md
lg

ศาลจำคุกตลอดชีวิต “จ่าแม็ก” ดิ้นขออภัยโทษ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ศาลฎีกาพิพากษายืน จำคุกตลอดชีวิต “จ่าแม็ก” ลูกน้อง ส.จ.เปี๊ยก ผู้กว้างขว้างใน จ.อุทัยธานี ทีมสังหารโหดสาวผู้รับเหมาก่อสร้าง ศาลเชื่อไม่ได้ถูกตำรวจบังคับให้รับสารภาพ ด้านจำเลยไม่ยอมรับผิด อ้างแขนพิการขี่จักรยานยนต์ให้มือปืนไม่ได้ เตรียมถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษต่อไป

วันนี้ (17 ต.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 911 เวลา 09.30 น. ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาฎีกาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ส.อ.มงคล หรือแม็ก อัมมะเกตุ อายุ 35 ปี อดีตทหารสังกัดกรมการทหารสื่อสาร และนายบำเพ็ญ หรือแจ้ สดใส อายุ 36 ปี ลูกน้องนายสาคร บุษาวะดี หรือ ส.จ.เปี๊ยก สมาชิก อบจ.อุทัยธานี เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน

ตามโจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.45 ระบุความผิดสรุปว่า จำเลยที่ 1 ร่วมกับนายธงชัย หรือธง พันธ์ประสิทธิ์ ซึ่งเสียชีวิตขณะยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจขณะเข้าจับกุม ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ทะเบียน 229 กทม. เข้าไปในซอยอินทามระ 22 แขวงและเขตดินแดง กทม. แล้วนายธงชัยได้ใช้อาวุธปืนสั้นลูกโม่ขนาด .38 ยิง น.ส.นิตยา เพทายบรรลือ นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขณะขับรถยนต์ 3 นัด กระสุนปืนถูกร่างกายจนถึงแก่ความตาย จากนั้นจำเลยที่ 1 นำอาวุธปืนไปฝากไว้กับเพื่อน ส่วนรถจักรยานยนต์ก็นำไปจอดทิ้งไว้ที่แฟลต ร.ด. แล้วโทรศัพท์ให้จำเลยที่ 2 มารับก่อนหลบหนีไป ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 2 จับกุมจำเลยทั้ง 2 ได้บริเวณซอยวิปดำริห์ แขวงและเขต ดินแดง กทม.

คดีนี้ในชั้นสอบสวนจำเลยทั้ง 2 ให้การรับสารภาพและกลับคำให้การในชั้นศาล อ้างว่าถูกตำรวจบังคับให้รับสารภาพ เพราะถูกไฟช็อต ต่อมาศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 3 พ.ย.46 ว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ปอม.289(4) ประกอบ ม.83, 371 พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ.2490 ม.7, 8 ทวิ ว.หนึ่ง, 72, 72 ทวิ จำเลยทั้งสองกระทำอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตาม ปอม.91 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลงโทษประหารชีวิต จำเลยทั้ง 2 ให้การรับสารภาพซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยทั้ง 2 ไว้ตลอดชีวิต และเมื่อวันที่ 4 ก.พ.48 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมปฏิบัติหน้าที่เป็นขั้นเป็นตอน และภายหลังการจับกุมยังได้นำจำเลยทั้งสองแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนพร้อมนำชี้ที่เกิดเหตุพร้อมบันทึกภาพไว้ เห็นว่าเป็นไปไม่ได้ที่จำเลยทั้ง 2 จะถูกบังคับขู่เข็ญ การที่จำเลยทั้ง 2 ฎีกาว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับในรับสารภาพนั้นเห็นว่าจำเลยไม่มีพยานสนับสนุน เป็นการกล่าวอ้างลอยๆเชื่อได้ว่าจำเลยทั้ง 2 สมัครใจให้การรับสารภาพ ส่วนประเด็นที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์มีเพียงพยานบอกเล่าไม่มีประจักษ์พยานเห็นเหตุการณ์นั้น ตามกฎหมายไม่มีบทบัญญัติใดห้ามรับฟังพยานบอกเล่าซึ่งการรับฟังพยานต้องพิจารณาจากพฤติการณ์และมูลเหตุแต่ล่ะคดี ฎีกาข้อนี้ฟังไม่ขึ้น จึงเชื่อโดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยที่ 1ร่วมกับจำเลยที่ 2 ฆ่า น.ส.นิตยา จริง พิพากษายืน

ภายหลังจากศาลอ่านคำพิพากษา ส.อ.มงคลได้กล่าวต่อสื่อมวลชนขณะถูกควบคุมตัวออกจากห้องจากห้องพิจารณาคดีว่าแขนตนถูกไฟช็อตตั้งแต่ปี 2536 แล้วใครที่ไหนจะจ้างให้ไปขี่รถจักรยานยนต์ฆ่าคนได้ ภายหลังจากนี้ตนและนายบำเพ็ญจะขอยื่นถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษต่อไป พร้อมทั้งได้ชูแขนข้างขวาที่มือขวามีลักษณะผิดรูปให้สื่อมวลชนดูด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของคดีนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับคดีที่นายสาคร หรือ ส.จ.เปี๊ยก บุษวะดี อดีต ส.จ.อุทัยธานี และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตนายก อบจ.อุทัยธานี เป็นจำเลยฐานร่วมกันจ้างวานใช้ให้ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนเมื่ออัยการฟ้องจำเลยทั้งสองได้จ้างวานให้ ส.อ.มงคล และนายบำเพ็ญ ฆ่า น.ส.นิตยา แต่เมื่อศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่าพยานโจทก์ยังมีข้อพิรุธสงสัย ซึ่งในคดีอุกฉกรรจ์ โทษประหารชีวิตโจทก์จะต้องนำสืบได้ไม่มีข้อตำหนิใดๆ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยทั้ง 2 พิพากษายกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์ โดยมีคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 14 ก.ย.48 ขณะนี้จำเลยทั้ง 2 ได้รับการประกันตัวออกไปและคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์

แขนข้างขวาที่จ่าแม็ก โชว์ว่าพิการ
กำลังโหลดความคิดเห็น