ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เตรียมสร้างแดนความมั่นคงสูงเพิ่ม หลังนักโทษยาเสพติดรายใหญ่ทะลักเข้าคุก พร้อมแฉทีเด็ดนักโทษซุกโทรศัพท์มือถือในทวารหนัก หวังนำมาใช้ในเรือนจำ
วันนี้ (11 ต.ค.) ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง นายปรีดา นิลศิริ ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง กล่าวถึงสถานการณ์ยาเสพติดในปัจจุบัน ว่า มีการจับกุมนักโทษในคดียาเสพติดสูงขึ้น ขณะนี้มีผู้ต้องขังคดียาเสพติดที่ถูกคุมขังอยู่ภายในทัณฑสถานแห่งนี้มากกว่า 5,000 ราย แยกเป็นนักโทษเด็ดขาดซึ่งคดีสิ้นสุดแล้ว 1,500 ราย นักโทษระหว่างการพิจารณาคดี 3,500 ราย แยกเป็นนักโทษชาวต่างชาติ 700 ราย ขณะที่เรือนจำมีแดนคุมขังทั้งหมด 12 แดน และกันพื้นที่ในแดน 10 เป็นแดนความมั่นคงสูง เพื่อแยกนักโทษยาเสพติดรายใหญ่ไม่ให้อยู่ร่วมกับนักโทษคดีทั่วไป แต่ปัจจุบันแดนความมั่นคงสูงเริ่มมีสภาพแออัด มีนักโทษถูกควบคุมอยู่กว่า 600 ราย ทั้งที่แดนความมั่นคงสูงออกแบบมาให้ใช้ควบคุมตัวนักโทษไม่เกิน 100 คน ตนจึงมีโครงการปรับปรุงแดน 8 ให้เป็นแดนความมั่นคงสูงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่ง เพื่อระบายนักโทษรายสำคัญออกมา ทั้งนี้ เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์
สำหรับมาตรการป้องกันในการลักลอบนำสิ่งของต้องห้ามเข้ามาในเรือนจำ นายปรีดา กล่าวว่า ตนได้สั่งเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังการลักลอบนำยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือเข้ามาภายในเรือนจำฯ โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเข้มงวดในการตรวจค้นสิ่งของ โดยเฉพาะพัสดุภัณฑ์ต่างๆ ที่ส่งมาจากต่างจังหวัด และกำชับให้เปิดพัสดุทุกกล่องที่ส่งเข้ามาต่อหน้านักโทษเจ้าของพัสดุ เพื่อตรวจสอบไม่ให้มีการลักลอบนำยาเสพติด และชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือเข้ามาให้นักโทษในเรือนจำ โดยที่ผ่านมายังตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ตนยังสั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าจู่โจมตรวจค้นแดนคุมขังทั้ง 12 แดนให้ถี่ขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำยาเสพติดและมือถือซุกซ่อนไว้ ส่วนนักโทษที่เข้ามาขอใช้โทรศัพท์ของเรือนจำก็ให้มีการบึนทึกเทปตลอดการสนทนา เพื่อป้องกันไม่ให้นักโทษติดต่อสั่งซื้อยาเสพติดกับบุคคลภายนอก เนื่องจากนักโทษยาเสพติดเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังมีเครือข่ายอยู่ภายนอก
“ที่ผ่านมา ทางเรือนจำเคยตรวจค้นนักโทษยาเสพติดรายหนึ่ง ซึ่งเพิ่งกลับมาจากศาล ได้ซุกซ่อนโทรศัพท์มือถือเข้ามาในเรือนจำ โดยซุกซ่อนไว้ในทวารหนัก แต่ถูกตรวจจับด้วยเครื่องตรวจจับโลหะ และนำตัวไปดำเนินคดีเพิ่ม” นายปรีดา กล่าว
