จารบุรุษ
“กูนี้เกิดมาเพื่อชาติราชบังลังก์
มึงจงฟังความแน่วแน่ของกูไว้
แม้นกูตายพวกกูอยู่สู้ต่อไป
อย่าได้ให้พวกจัญไรมายึดครอง
กูนี้คือสามพราน รุ่นห้าสี่
พวกกูมีเรื่องราวให้เล่าขาน
ชื่อของแคนยังอยู่อีกยาวนาน
เป็นตำนานผู้กล้า..เลือดทาดิน”
บทประพันธ์บทนี้ เป็นบทประพันธ์บทหนึ่งของเพื่อน นรต.54 แสดงความไว้อาลัยต่อการจากไปของ ร.ต.อ.ธรณิศ ศรีสุข อายุ 28 ปี รอง ผบ.ร้อย รบพิเศษ 1 (รพศ.1) กก.1 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ (ตชด.) ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี ซึ่งเสียชีวิตเมื่อเช้าวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา จากเหตุการปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่บริเวณเนินเนาวรัตน์หรือเนิน 9 ศพ ระหว่างบ้านสายสุราษฎร์-บ้านภักดี หมู่ที่ 3 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งขณะเกิดเหตุ ร.ต.อ.ธรณิศ เป็นหัวหน้าชุดนำกำลัง 12 นายออกลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยตามปกติ เมื่อลาดตระเวนมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายไม่น้อยกว่า 20 คน ซุ่มอยู่บนเนินสูงใช้อาวุธสงครามทั้งอาก้า เอ็ม 16 และลูกซองกราดยิงใส่จนเกิดการปะทะกันดุเดือดนานกว่า 20 นาที และคนร้ายได้อาศัยความชำนาญในพื้นที่และป่าทึบหลบหนีไป หลังเสียงปืนสงบ เมื่อเข้าตรวจเคลียร์พื้นที่ พบว่า ร.ต.อ.ธรณิศ ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
วีรกรรมของ ร.ต.อ.ธรณิศ หรือ “ผู้กองแคน” ใช่จะเป็นที่จดจำของเหล่าเพื่อน นรต.54 เท่านั้น แต่จะเป็นวีรกรรมที่ตำรวจทั้งหมด รวมทั้งประชาชนชาวไทย จะต้องจารึกไว้ในความทรงจำตลอดไป ทำไมจึงต้องเป็นเช่นนั้น ลองมาดูความเสียสละและความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวและมุ่งมั่นที่จะมารับใช้ชาติของชายที่ชื่อ “ธรณิศ” จากพ้องเพื่อนของเขาดู
ร.ต.อ.วุฒิเทพ เพ็ญแสง เพื่อนร่วมรุ่น นรต.54 ของผู้กองแคน เขียนไว้อาลัยให้กับเพื่อนในหัวข้อ “ความรู้สึกสุดท้ายที่ไม่มีวันกลับ” ไว้ว่า
“เพื่อนแคน ... สมัยเรียน ร.ร.นายร้อย ภาพที่เห็นเพื่อนแคนและจดจำได้ว่า ทุกๆ เย็น หลังจากฝึกหรือวันไหนไม่มีฝึก ให้ออกกำลังกายส่วนตัว จะเห็นแคนวิ่ง ...ออกกำลังกายส่วนตัวทุกวันที่มีเ วลา และ ก็จะจดจำท่าทางของแคนได้ว่า เวลาเดินตัวจะโยกๆ หน่อยๆ ตามสไตล์ ตัวแขนจะล่ำๆ และกางเล็กน้อย เพราะว่าติดกล้าม เมื่อจบออกมาจาก ร.ร. พวกเราทุกคนต่างเลือกที่จะใช้ชีวิตของตัวเอง แคน ...เป็นคนหนึ่งซึ่งเคยได้ยินว่า “กูจะลง สอ.” (กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ ตชด.ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี) ... คืองงมาก และทึ่งกับเพื่อนคนนี้จริงๆ และแล้วความฝันของเพื่อนก็เป็นตามฝัน เพื่อนแคน ...เลือกลง สอ. ทั้งที่คะแนนสามารถเลือกลงที่ไหนก็ได้ แต่ .. แคน .. ทำตามฝันของตัวเอง สอ. .. หลังจากจบมาเป็นเวลาหลายปีแล้วต่างคนต่างก็มีหน้าที่รับผิดชอบของตนเอง แต่ก็จะได้ยินเรื่องของเพื่อนๆ ทุกคน เมื่อเวลาบรรดาเพื่อนมารวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ แคน ..ได้ลงไปทำงานที่ใต้ร่วมปี ได้ผ่านหลักสูตรรีคอน ซึ่งถือว่าเป็นหลักสูตรที่สุดยอดหลักสูตรหนึ่ง และ อีกมากมาย ทำให้เชื่อมั่นอยู่อย่างหนึ่งว่าชุดลาดตระเวนของแคนนั้นเป็นชุด ที่ผีมือและสุดยอดชุดหนึ่ง แต่แล้ววันที่ไม่อยากจะคิดว่ามันจะเกิดขึ้นก็มาถึง แคน ..ผู้เป็นนักรบผู้กล้า .. เดินนำหน้าลูกน้องออกลาดตระเวนขึ้นไปบนเนิน ..พวกมันดักซุ่มอยู่ แคนได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสมเกียรติแล้ว ตราบจนวินาทีสุดท้าย แคนเสียสละเพื่อชาติอย่างแท้จริง สุดยอดจริงๆ .. เพื่อนแคน นักรบแห่งค่ายนเรศวร .... ขอให้วิญญาณแคนไปสู่สุคติ และรับรู้ว่าพวกเราทุกคนคิดถึงแคนและจะจดจำเพื่อนไว้ตลอดไป .. ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวศรีสุข ทั้งคุณพ่อแคน น้องนัตตี้ และทุกๆ คน .. แคนคือวีรบุรุษในใจเราตลอดไป นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 54 รักเพื่อน”
ได้ฟังมาอย่างนี้ว่า เมื่อครั้งที่ “ผู้กองแคน” ยังคงเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจชั้นปีสุดท้าย ซึ่งใกล้จะจบหลักสูตรออกไปรับใช้ชาติในตำแหน่ง “ร.ต.ต.” นั้น นรต.ส่วนใหญ่ ที่สอบได้คะแนนดีอันดับต้นๆ นั้นต่างเลือกลงพื้นที่ปฏิบัติงาน หรือบรรจุลงในพื้นที่ ที่เรียกกันว่า “ทำเลทอง” อย่าง บช.น. บก.ป. บก.ทล. บก.ปศท. หรือตามหัวเมืองใหญ่ๆ แม้ “ผู้กองแคน” จะมีสิทธิ์เลือกลงบรรจุพื้นที่ทำเลทองก่อนคนอื่น ทว่า เขากลับไม่ได้คิดใฝ่ฝันอย่างที่ว่า กลับเลือกลง สอ. (กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ) สังกัด บช.ตชด. ที่ดูเหมือนว่าเป็นหน่วยงานที่ไร้ผลประโยชน์สิ้นดี ตรงกันข้าม กลับต้องอยู่กับ “ความเสี่ยง” เสี่ยงทั้งชีวิตและการบาดเจ็บ ซึ่งในที่สุด “ผู้กองแคน” ก็ได้มอบร่างกายและชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยไว้แล้ว
ยังคงมีวีรกรรมของตำรวจอีกหลายนายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่บ้างต้องเสียชีวิต บ้างต้องบาดเจ็บให้เห็นอยู่จนชินตา รวมทั้งเหตุการณ์ล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นในเมืองหลวง กับเหตุระเบิดหน้าโรงเรียนแผนที่ทหาร ข้าง บก.ทบ. โดย ด.ต.จีรเดช อัตตพงษ์ เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.ตปพ. ในฐานะหัวหน้าชุดที่ไปเก็บกู้ ทว่าระเบิดเกิดทำงาน ทำให้ ด.ต.จีรเดช ต้องสูญเสียข้อมือขวาไป รวมทั้ง ส.ต.ท.พิทยาธร สุนทรชื่น ตำรวจสังกัดเดียวกัน ที่ได้รับบาดเจ็บเยื่อแก้วหูทะลุจากแรงอัดระเบิดดังกล่าวด้วย
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บรรดาตำรวจที่เสวยสุขอยู่ในพื้นที่ “ทำเลทอง” จะมีความรู้สึก “รับรู้” ถึงความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของตำรวจที่ต้องเสี่ยงชีวิตเหล่านี้ ไม่ต้องถึงกับลงทุนขันอาสาไปอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรอก แค่ดำรงตนเป็น “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” อย่างแท้จริง เพียงแค่นี้ ความเชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชนที่มีต่อตำรวจ ก็จะกลับคืนมาอย่างเปี่ยมล้น สมกับที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ให้คำมั่นสัญญาไว้ว่า “จะนำพาสู่ความเป็นตำรวจที่ดี” ได้สมความตั้งใจ





“กูนี้เกิดมาเพื่อชาติราชบังลังก์
มึงจงฟังความแน่วแน่ของกูไว้
แม้นกูตายพวกกูอยู่สู้ต่อไป
อย่าได้ให้พวกจัญไรมายึดครอง
กูนี้คือสามพราน รุ่นห้าสี่
พวกกูมีเรื่องราวให้เล่าขาน
ชื่อของแคนยังอยู่อีกยาวนาน
เป็นตำนานผู้กล้า..เลือดทาดิน”
บทประพันธ์บทนี้ เป็นบทประพันธ์บทหนึ่งของเพื่อน นรต.54 แสดงความไว้อาลัยต่อการจากไปของ ร.ต.อ.ธรณิศ ศรีสุข อายุ 28 ปี รอง ผบ.ร้อย รบพิเศษ 1 (รพศ.1) กก.1 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ (ตชด.) ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี ซึ่งเสียชีวิตเมื่อเช้าวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา จากเหตุการปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่บริเวณเนินเนาวรัตน์หรือเนิน 9 ศพ ระหว่างบ้านสายสุราษฎร์-บ้านภักดี หมู่ที่ 3 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งขณะเกิดเหตุ ร.ต.อ.ธรณิศ เป็นหัวหน้าชุดนำกำลัง 12 นายออกลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยตามปกติ เมื่อลาดตระเวนมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายไม่น้อยกว่า 20 คน ซุ่มอยู่บนเนินสูงใช้อาวุธสงครามทั้งอาก้า เอ็ม 16 และลูกซองกราดยิงใส่จนเกิดการปะทะกันดุเดือดนานกว่า 20 นาที และคนร้ายได้อาศัยความชำนาญในพื้นที่และป่าทึบหลบหนีไป หลังเสียงปืนสงบ เมื่อเข้าตรวจเคลียร์พื้นที่ พบว่า ร.ต.อ.ธรณิศ ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
วีรกรรมของ ร.ต.อ.ธรณิศ หรือ “ผู้กองแคน” ใช่จะเป็นที่จดจำของเหล่าเพื่อน นรต.54 เท่านั้น แต่จะเป็นวีรกรรมที่ตำรวจทั้งหมด รวมทั้งประชาชนชาวไทย จะต้องจารึกไว้ในความทรงจำตลอดไป ทำไมจึงต้องเป็นเช่นนั้น ลองมาดูความเสียสละและความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวและมุ่งมั่นที่จะมารับใช้ชาติของชายที่ชื่อ “ธรณิศ” จากพ้องเพื่อนของเขาดู
ร.ต.อ.วุฒิเทพ เพ็ญแสง เพื่อนร่วมรุ่น นรต.54 ของผู้กองแคน เขียนไว้อาลัยให้กับเพื่อนในหัวข้อ “ความรู้สึกสุดท้ายที่ไม่มีวันกลับ” ไว้ว่า
“เพื่อนแคน ... สมัยเรียน ร.ร.นายร้อย ภาพที่เห็นเพื่อนแคนและจดจำได้ว่า ทุกๆ เย็น หลังจากฝึกหรือวันไหนไม่มีฝึก ให้ออกกำลังกายส่วนตัว จะเห็นแคนวิ่ง ...ออกกำลังกายส่วนตัวทุกวันที่มีเ วลา และ ก็จะจดจำท่าทางของแคนได้ว่า เวลาเดินตัวจะโยกๆ หน่อยๆ ตามสไตล์ ตัวแขนจะล่ำๆ และกางเล็กน้อย เพราะว่าติดกล้าม เมื่อจบออกมาจาก ร.ร. พวกเราทุกคนต่างเลือกที่จะใช้ชีวิตของตัวเอง แคน ...เป็นคนหนึ่งซึ่งเคยได้ยินว่า “กูจะลง สอ.” (กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ ตชด.ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี) ... คืองงมาก และทึ่งกับเพื่อนคนนี้จริงๆ และแล้วความฝันของเพื่อนก็เป็นตามฝัน เพื่อนแคน ...เลือกลง สอ. ทั้งที่คะแนนสามารถเลือกลงที่ไหนก็ได้ แต่ .. แคน .. ทำตามฝันของตัวเอง สอ. .. หลังจากจบมาเป็นเวลาหลายปีแล้วต่างคนต่างก็มีหน้าที่รับผิดชอบของตนเอง แต่ก็จะได้ยินเรื่องของเพื่อนๆ ทุกคน เมื่อเวลาบรรดาเพื่อนมารวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ แคน ..ได้ลงไปทำงานที่ใต้ร่วมปี ได้ผ่านหลักสูตรรีคอน ซึ่งถือว่าเป็นหลักสูตรที่สุดยอดหลักสูตรหนึ่ง และ อีกมากมาย ทำให้เชื่อมั่นอยู่อย่างหนึ่งว่าชุดลาดตระเวนของแคนนั้นเป็นชุด ที่ผีมือและสุดยอดชุดหนึ่ง แต่แล้ววันที่ไม่อยากจะคิดว่ามันจะเกิดขึ้นก็มาถึง แคน ..ผู้เป็นนักรบผู้กล้า .. เดินนำหน้าลูกน้องออกลาดตระเวนขึ้นไปบนเนิน ..พวกมันดักซุ่มอยู่ แคนได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสมเกียรติแล้ว ตราบจนวินาทีสุดท้าย แคนเสียสละเพื่อชาติอย่างแท้จริง สุดยอดจริงๆ .. เพื่อนแคน นักรบแห่งค่ายนเรศวร .... ขอให้วิญญาณแคนไปสู่สุคติ และรับรู้ว่าพวกเราทุกคนคิดถึงแคนและจะจดจำเพื่อนไว้ตลอดไป .. ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวศรีสุข ทั้งคุณพ่อแคน น้องนัตตี้ และทุกๆ คน .. แคนคือวีรบุรุษในใจเราตลอดไป นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 54 รักเพื่อน”
ได้ฟังมาอย่างนี้ว่า เมื่อครั้งที่ “ผู้กองแคน” ยังคงเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจชั้นปีสุดท้าย ซึ่งใกล้จะจบหลักสูตรออกไปรับใช้ชาติในตำแหน่ง “ร.ต.ต.” นั้น นรต.ส่วนใหญ่ ที่สอบได้คะแนนดีอันดับต้นๆ นั้นต่างเลือกลงพื้นที่ปฏิบัติงาน หรือบรรจุลงในพื้นที่ ที่เรียกกันว่า “ทำเลทอง” อย่าง บช.น. บก.ป. บก.ทล. บก.ปศท. หรือตามหัวเมืองใหญ่ๆ แม้ “ผู้กองแคน” จะมีสิทธิ์เลือกลงบรรจุพื้นที่ทำเลทองก่อนคนอื่น ทว่า เขากลับไม่ได้คิดใฝ่ฝันอย่างที่ว่า กลับเลือกลง สอ. (กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ) สังกัด บช.ตชด. ที่ดูเหมือนว่าเป็นหน่วยงานที่ไร้ผลประโยชน์สิ้นดี ตรงกันข้าม กลับต้องอยู่กับ “ความเสี่ยง” เสี่ยงทั้งชีวิตและการบาดเจ็บ ซึ่งในที่สุด “ผู้กองแคน” ก็ได้มอบร่างกายและชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยไว้แล้ว
ยังคงมีวีรกรรมของตำรวจอีกหลายนายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่บ้างต้องเสียชีวิต บ้างต้องบาดเจ็บให้เห็นอยู่จนชินตา รวมทั้งเหตุการณ์ล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นในเมืองหลวง กับเหตุระเบิดหน้าโรงเรียนแผนที่ทหาร ข้าง บก.ทบ. โดย ด.ต.จีรเดช อัตตพงษ์ เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.ตปพ. ในฐานะหัวหน้าชุดที่ไปเก็บกู้ ทว่าระเบิดเกิดทำงาน ทำให้ ด.ต.จีรเดช ต้องสูญเสียข้อมือขวาไป รวมทั้ง ส.ต.ท.พิทยาธร สุนทรชื่น ตำรวจสังกัดเดียวกัน ที่ได้รับบาดเจ็บเยื่อแก้วหูทะลุจากแรงอัดระเบิดดังกล่าวด้วย
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บรรดาตำรวจที่เสวยสุขอยู่ในพื้นที่ “ทำเลทอง” จะมีความรู้สึก “รับรู้” ถึงความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของตำรวจที่ต้องเสี่ยงชีวิตเหล่านี้ ไม่ต้องถึงกับลงทุนขันอาสาไปอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรอก แค่ดำรงตนเป็น “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” อย่างแท้จริง เพียงแค่นี้ ความเชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชนที่มีต่อตำรวจ ก็จะกลับคืนมาอย่างเปี่ยมล้น สมกับที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ให้คำมั่นสัญญาไว้ว่า “จะนำพาสู่ความเป็นตำรวจที่ดี” ได้สมความตั้งใจ