xs
xsm
sm
md
lg

“เสรีพิศุทธ์” เชื่อ “อัศวิน” ล่ามือระเบิดได้

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

“เสรีพิศุทธ์” รับตำแหน่ง ผบ.ตร.อย่างเป็นทางการ ยืนยันคดีระเบิดไม่ได้เย้ยตำแหน่งทั้ง ผบ.ทบ.และ ผบ.ตร. เชื่อ “อัศวิน” ผบช.น.คนใหม่จะใช้ความรู้ความสามารถในการคลี่คลายคดีนี้ได้

วันนี้ (1 ต.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีพิธีรับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ทำพิธีตรวจแถวกองเกียรติยศ รับฟังพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง และรับมอบตราประจำตำแหน่ง ผบ.ตร. พร้อมให้โอวาทแก่ข้าราชการตำรวจ ซึ่งมี รอง ผบ.ตร. ผู้ช่วยผบ.ตร. ตำแหน่งเทียบเท่าผู้บัญชาการ (ผบช.) รอง ผบช. และผู้บังคับการในสังกัด ตร.ร่วมพิธี

ภายหลังเสร็จสิ้นพิธี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้กล่าวถึงการทำงานหลังรับตำแหน่ง ผบ.ตร.ว่า นโยบายในการทำงานของตนนั้นจะยังเหมือนเดิม เช่นเดียวกับช่วงที่รักษาการมาตลอดระยะเวลา 8 เดือน เนื่องจากได้วางแผนพัฒนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติไว้แล้ว 5 ปี และจะนำแผนนี้มาใช้ในการปฏิบัติงานเพื่อเป็นแนวทางยึดต่อไป แผนนี้จะมุ่งเน้นในการพัฒนา ตำรวจ 3 ด้าน คือ 1.พัฒนาข้าราชการตำรวจและครอบครัว 2.พัฒนาองค์กรและหน่วยงาน 3.พัฒนาระบบงาน โดยในปี 2551 จะดำเนินการตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ เชื่อว่าจะเห็นผลโดยเร็ว เพราะหากปล่อยไว้ค่อยก็จะไม่เป็นรูปธรรม

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการคลี่คลายเหตุระเบิดที่กรมแผนที่ทหาร ถนนราชดำเนิน ในคืนที่ผ่านมาว่า ขณะนี้เพิ่งเริ่มต้นในการทำงานเนื่องจากเพิ่งเกิดเหตุการณ์ขึ้น และเพิ่งมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.น.คนเก่ากับ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.คนใหม่ ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข้อเท็จจริง รวมทั้งแนวทางในการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ส่วนข้อเท็จจริงในที่เกิดเหตุก็ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ไปแล้ว ผบช.น.คนใหม่มีความรู้ความสามารถในการสืบสวนสอบสวน และมีเครือข่ายพอสมควร เชื่อว่าจะใช้ความรู้ความสามารถในการคลี่คลายคดีนี้ได้ แม้ว่าคดีนี้เป็นคดีแรกในการรับตำแหน่ง ผบช.น. อย่างไรก็ตามผมก็จะติดตาม และกำชับต่อไป แต่จะไม่กำหนดเวลา ให้ทำงานให้เต็มที่ จะไม่เอากรอบเวลาไปจำกัด จนผู้ใต้บังคับบัญชาไม่สามารถทำงานได้

“เหตุเพิ่งเกิดตอนนี้ยังเป็นเพียงการคาดคะเนเฉยๆ จึงยังไม่อยากวางธงลงไปว่าสาเหตุคืออะไร ส่วนจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้หรือไม่นั้น เราพบว่าวิธีการวางระเบิดและอุปกรณ์คล้ายกัน แต่ยังไม่ระบุว่าเป็นกลุ่มบุคคลคนเดียวกัน ต้องรอพยานหลักฐานก่อน ซึ่งผบช.น.คนใหม่คงจะเร่งดำเนินการ” ผบตร. กล่าว

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้รับรายงานข่าวว่าจะมีการวางระเบิดแต่อย่างใด เพราะหลายเดือนก่อนหน้านี้ หลังเกิดระเบิดครั้งก่อนก็สงบมาโดยตลอด และก็มีการวางกำลังตำรวจเข้มงวดกวดขันทั่วพื้นที่ กทม. แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็มีช่องว่างบ้าง ก็ต้องขอเตือนตำรวจว่าอย่าประมาท งานที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายไว้ ถึงแม้ไม่มีอะไรก็อย่าไปทิ้งพื้นที่ ขอให้ดูแลทำหน้าที่อย่างเต็มที่ อย่าปล่อยให้เกิดช่องว่าง จริงๆ แล้วเรามีมาตรการควบคุมเหตุระเบิดอยู่แล้ว เมื่อมีเหตุเกิดใหม่ๆ เราก็เข้มงวดกวดขัน แต่พอเวลาผ่านไปเรื่องที่เคยเข้มงวดก็แผ่วไปบ้าง ชุดทำงานก็มีการเปลี่ยน แต่งตั้งโยกย้ายก็อาจมีช่องว่าง แต่ก็เรื่องปกติเราพยายามจะกวดขัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า การวางระเบิดครั้งนี้เป็นการเย้ยเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ เพราะเกิดในพื้นที่ทหาร อีกทั้งยังเป็นวันก่อนการรับมอบตำแหน่งทั้ง ผบ.ทบ.และ ผบ.ตร. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้เย้ยใคร เพราะเหตุอย่างนี้จะทำอย่างไรก็ได้ ถ้าเย้ยต้องเข้าไปวางข้างในเลย ถึงแม้จะเข้าไปวางในรั้วตนก็ยังไม่ถือว่าเย้ย สำหรับตนที่ผ่านเหตุการณ์มามากบ้านเมืองไทยสงบมานาน พอมีเหตุระเบิดสักครั้งก็รู้สึกเป็นเหตุร้ายเหตุสำคัญ แต่ในต่างประเทศเหตุเช่นนี้เกิดประจำจนเป็นความเคยชิน เพราะฉะนั้นเหตุต่างๆ เหล่านี้มันเกิดขึ้นได้ เป็นเรื่องปกติประชาชนอย่าได้ตระหนกตกใจ เป็นเรื่องปกติ ใครจะทำอะไรก็ได้ในเรื่องเหล่านี้ ขอให้มั่นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามดูแลให้ดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า การก่อเหตุในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านตำแหน่ง ผบ.ตร.และผบ.ทบ. มีอะไรหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่มี มันวางไว้แต่ไม่ได้ระเบิดอะไร เมื่อไปขุดไปคุ้ยมันก็ระเบิดขึ้น ซึ่งเวลาอาจเป็นวันนี้พรุ่งนี้ก็ได้

สำหรับประเด็นหลักฐานที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินคดี นั้น ผบ.ตร.กล่าวว่า มีเพียงวัสดุอุปกรณ์ในจุดเกิดเหตุเท่านั้น ซึ่งกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุก็ไม่มี มั่นใจว่าไม่น่าจะเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะกรอบเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดภาคใต้ก็ลดลงเหลือเพียง 3 จังหวัดกับ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ซึ่งจากการตรวจเยี่ยมครั้งล่าสุด 4 อำเภอในจ.สงขลาเหตุเกิดน้อยลงแล้ว และเชื่อว่าภายในปีนี้ เหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.สงขลาจะจบสิ้น

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงการดูแลความสงบหลังจากมีความเคลื่อนไหวขององค์กรต่างๆ กรณีเหตุประท้วงในพม่าว่า ก็ให้แสดงความคิดเห็นได้ เพราะหากไปปิดกั้นเหตุการณ์ก็จะมีความรุนแรงมากขึ้น แต่การแสดงความคิดเห็นเราพยายามควบคุมให้อยู่ในกรอบ ซึ่งจากที่ได้รับรายงานจากสันติบาล ก็ได้ให้ข้อมูลาว่าทุกคนก็รับฟังความคิดเห็นว่า การชุมนุมประท้วงควรอยู่ในกรอบของกฎหมาย ส่วนข้อมูลของกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวพม่านั้น ตรงนี้ตำรวจทราบข้อมูลดี และได้เข้มงวดกวดขันในเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะที่ผ่านมาสื่อมวลชนก็แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้พอสมควร เราจึงหยิบประเด็นนี้มาคุยในระดับผู้บังคับบัญชาใน ตร.ด้วย ซึ่งหากเราทำอะไรให้ชัดเจนก็ดีขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น