สารวัตรฉาวเตรียมหอบหลักฐานยืนยันเพิ่มพรุ่งนี้ และนัดแถลงข่าววันอังคารที่กองปราบฯ รอง ผกก.สน.วัดพระยาไกร ชี้ นำรถคนอื่นไปใช้เข้าข่ายรับของโจร ผู้ใหญ่สั่งดำเนินคดีเต็มที่ เจ้าของรถเข้าให้ปากคำเพิ่มสงสัยบริษัทขายรถ
วันนี้ (30 ก.ย.) พ.ต.ท.สมชาย เชยกลิ่น รอง ผกก.(สส.) สน.วัดพระยาไกร เปิดเผยถึงความคืบหน้าที่ พ.ต.ท.ชาญชัย งามธุระ สว.สป.สภ.อ.ป่าบอน จ.พัทลุง นำรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด สีบรอนซ์เงิน ป้ายแดง ราคากว่า 3 ล้านบาท ของนายปพน วงศ์ตระกูล ซึ่งเป็นของกลางที่กองบังคับการปราบปรามไปตรวจยึดมาได้ไปใช้ส่วนตัว ว่า คดีนี้เกิดขึ้นระหว่างที่ พ.ต.ท.ชาญชัย ดำรงตำแหน่งอยู่ที่กองบังคับการปราบปราม โดยได้ยึดรถมาจากเมืองทองธานี และส่งมอบให้พนักงานสอบสวนกองปราบให้ตามหาเจ้าของรถคันดังกล่าว ซึ่ง พ.ต.ท.ชาญชัย ก็ได้ติดต่อเข้ามาว่าจะนำเอกสารธุรการของรถคันดังกล่าวเข้ามายืนยันในวันพรุ่งนี้
พ.ต.ท.สมชาย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ตนได้ทำหนังสือไปถึง พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ รักษาการ ผบก.ป.แล้ว เพื่อขอหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดี โดยทางผู้บังคับบัญชาก็ได้กำชับมาให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เนื่องจากคดีนี้เข้าข่ายรับของโจร ซึ่งการที่เอารถของคนอื่นมาใช้ส่วนตัวก็ถือว่ามีผิดความผิดอยู่แล้ว
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ได้นำเทปบันทึกภาพกล้องวงจรปิดของบริเวณลาดจอดชั้นล่าง ของห้างฟิวเจอร์มาร์ท ย่านพระราม 3 ซึ่งอยู่ใกล้กับร้านสตาร์คาร์แคร์ที่ นายปพน เป็นร้านตรวจสอบแล้ว พบว่า จากภาพพบชายต้องสงสัย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดใกล้กับรถของ นายปพน โดยชายคนแรกมีรูปร่าง สันทัด มีหนวด สวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำ ส่วนอีกคนรูปร่างสูงสันทัดสวมชุดซาฟารี จากนั้นคนสวมซาฟารีได้นำรีโมตรถยนต์ออกมาเปิดล็อกรถ แล้วขึ้นรถขับออกไป ซึ่งขณะนั้นเด็กที่ร้านของนายปพน ก็เห็นว่า มีคนขับรถออกไปแต่ไม่ได้เอะใจ เนื่องจาก นายปพน มักจะเปลี่ยนคนขับรถเป็นประจำ แต่เมื่อเด็กในร้านมาถาม นายปพน จึงพบว่าไม่ได้ใช้ให้ใครขับรถไป จึงได้มาแจ้งความรถหายไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้าน พ.ต.ท.ชาญชัย ยังมีการต่อเข้ามาว่า จะมีการนัดแถลงข่าวในเรื่องที่เกิดขึ้น ในวันอังคาร ที่ 2 นี้ที่กองบังคับการปราบปราม
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น.นายปพน ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.อนวัช สะมาแอ ร้อยเวร สน.วัดพระยาไกร เจ้าของคดี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมตรวจสอบรถคันดังกล่าว
ทั้งนี้ นายปพน กล่าวว่า รถคันนี้ตนซื้อมาเมื่อเดือน พ.ย.ปี 2549 ราคา 3 ล้านกว่าบาท โดยจ่ายเงินดาวน์ 1 ล้านบาท และผ่อนเดือนละ 48,000 บาท โดยซื้อที่บริษั ทวีเท็กซ์ ย่านสาทร ผ่านนายชูเกียรติ ไม่ทราบนามสกุล และนำรถไปเข้าไฟแนนท์กับบริษัท ธนชาติ ซึ่งผ่อนได้แค่เพียง 2 งวด รถก็ถูกขโมยไปเมื่อวันที่ 8 ก.พ.2550
นายปพน กล่าวอีกว่า ในวันที่เกิดเหตุ ตนได้ขับรถคันนี้มาทำงานตามปกติในเวลา 09.00 น. แล้วนำมาจอดที่ลานจอดรถชั้น 3 ห้างฟิวเจอร์มาร์ท ย่านพระราม 3 ซึ่งอยู่ใกล้กับร้านสตาร์คาร์แคร์ โดยวันนั้นตนเร่งรีบไปเซ็นเอกสารในออฟฟิศ จากนั้นประมาณ 10 นาที เด็กในร้านได้โทรศัพท์มาบอกตนว่ามีคนขับรถออกไป เมื่อได้ยินดังนั้นตนจึงตกใจ และบอกว่า ไม่ได้ให้ใครเอารถไป ทั้งยังพยายามวิ่งลงไปสกัดรถด้านล่างของอาคารแต่ไม่ทัน เมื่อสอบถามเด็กในร้าน ก็ทราบว่า คนร้ายมา 2 คน โดยกดรีโมตไขล็อกรถแล้วขับออกไป
นายปพน กล่าวว่า สำหรับบริษัท ดีเท็กซ์ ได้ปิดทำการไป หลังจากที่ตนซื้อรถมาไม่นาน โดยตอนที่ไปซื้อทางบริษัทอ้างว่ามีรถรุ่นดังกล่าวเพียงคันเดียว และมีคนจองอยู่แล้ว แต่บอกว่าสามารถจะหาให้ตนได้อีกคัน เมื่อทำการซื้อขายทางบริษัทก็มอบกุญแจมาให้ตนเพียงดอกเดียว ทั้งที่น่าจะมี 3 ดอก ซึ่งตนก็เอะใจ เมื่อรถหายไปถ้าบังเอิญพบเห็นรถรุ่นนี้ก็จะพยายามมองอยู่ตลอดว่าใช่ของตนหรือไม่ ตอนที่เจอรถ เนื่องจากติดต่อให้บริษัทประกันนำกุญแจสำรอง มาลองกดเปิดดูก็พบว่ารถคันเป็นของตนที่หายไป ส่วน พ.ต.ท.ชาญชัย นั้น รู้จักกันแต่ไม่ได้สนิทสนม โดยรู้จักเนื่องจากตนได้ชักชวนมาเข้ากลุ่มกรุงเทพ 50
ด้าน ร.ต.ท.อนวัช กล่าวว่า ที่เรียก นายปพน มา เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมและมาดูรถคันดังกล่าว และจะได้สอบถามประเด็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับรายละเอียดของคดี ส่วนรถขณะนี้ได้นำไปเก็บไว้ที่เก็บรถของ สน.วัดพระยาไกร เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พ.ต.ท.ชาญชัย นั้นถือว่าเป็นนายตำรวจที่มีความรู้จักคุ้นเคยกับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหลายคน โดยเฉพาะข้าราชการระดับบิ๊กของกองทัพบกหลายนาย และ พ.ต.ท.ชาญชัย ก็พยายามจะพลิกผันตัวเองกระโดดเข้ามาเล่นการเมืองหลายครั้งแล้ว ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นกันได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มกรุงเทพ 50 ที่มี พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ เป็นหัวหน้าและผู้ก่อตั้งกลุ่ม เพื่อหวังจะลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งที่จะมีถึงในอนาคตอันใกล้นี้
เรียกสอบ สว.กอ.รมน.นำรถอัลพาร์ด ที่ถูกแจ้งหายมาใช้ส่วนตัว
โดนขโมย “อัลพาร์ด” นานครึ่งปี เจออีกที “พ.ต.ท.” เอาไปขับ-อ้างยึดมาแต่ไม่มีที่จอด


วันนี้ (30 ก.ย.) พ.ต.ท.สมชาย เชยกลิ่น รอง ผกก.(สส.) สน.วัดพระยาไกร เปิดเผยถึงความคืบหน้าที่ พ.ต.ท.ชาญชัย งามธุระ สว.สป.สภ.อ.ป่าบอน จ.พัทลุง นำรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด สีบรอนซ์เงิน ป้ายแดง ราคากว่า 3 ล้านบาท ของนายปพน วงศ์ตระกูล ซึ่งเป็นของกลางที่กองบังคับการปราบปรามไปตรวจยึดมาได้ไปใช้ส่วนตัว ว่า คดีนี้เกิดขึ้นระหว่างที่ พ.ต.ท.ชาญชัย ดำรงตำแหน่งอยู่ที่กองบังคับการปราบปราม โดยได้ยึดรถมาจากเมืองทองธานี และส่งมอบให้พนักงานสอบสวนกองปราบให้ตามหาเจ้าของรถคันดังกล่าว ซึ่ง พ.ต.ท.ชาญชัย ก็ได้ติดต่อเข้ามาว่าจะนำเอกสารธุรการของรถคันดังกล่าวเข้ามายืนยันในวันพรุ่งนี้
พ.ต.ท.สมชาย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ตนได้ทำหนังสือไปถึง พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ รักษาการ ผบก.ป.แล้ว เพื่อขอหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดี โดยทางผู้บังคับบัญชาก็ได้กำชับมาให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เนื่องจากคดีนี้เข้าข่ายรับของโจร ซึ่งการที่เอารถของคนอื่นมาใช้ส่วนตัวก็ถือว่ามีผิดความผิดอยู่แล้ว
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ได้นำเทปบันทึกภาพกล้องวงจรปิดของบริเวณลาดจอดชั้นล่าง ของห้างฟิวเจอร์มาร์ท ย่านพระราม 3 ซึ่งอยู่ใกล้กับร้านสตาร์คาร์แคร์ที่ นายปพน เป็นร้านตรวจสอบแล้ว พบว่า จากภาพพบชายต้องสงสัย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดใกล้กับรถของ นายปพน โดยชายคนแรกมีรูปร่าง สันทัด มีหนวด สวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำ ส่วนอีกคนรูปร่างสูงสันทัดสวมชุดซาฟารี จากนั้นคนสวมซาฟารีได้นำรีโมตรถยนต์ออกมาเปิดล็อกรถ แล้วขึ้นรถขับออกไป ซึ่งขณะนั้นเด็กที่ร้านของนายปพน ก็เห็นว่า มีคนขับรถออกไปแต่ไม่ได้เอะใจ เนื่องจาก นายปพน มักจะเปลี่ยนคนขับรถเป็นประจำ แต่เมื่อเด็กในร้านมาถาม นายปพน จึงพบว่าไม่ได้ใช้ให้ใครขับรถไป จึงได้มาแจ้งความรถหายไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้าน พ.ต.ท.ชาญชัย ยังมีการต่อเข้ามาว่า จะมีการนัดแถลงข่าวในเรื่องที่เกิดขึ้น ในวันอังคาร ที่ 2 นี้ที่กองบังคับการปราบปราม
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น.นายปพน ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.อนวัช สะมาแอ ร้อยเวร สน.วัดพระยาไกร เจ้าของคดี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมตรวจสอบรถคันดังกล่าว
ทั้งนี้ นายปพน กล่าวว่า รถคันนี้ตนซื้อมาเมื่อเดือน พ.ย.ปี 2549 ราคา 3 ล้านกว่าบาท โดยจ่ายเงินดาวน์ 1 ล้านบาท และผ่อนเดือนละ 48,000 บาท โดยซื้อที่บริษั ทวีเท็กซ์ ย่านสาทร ผ่านนายชูเกียรติ ไม่ทราบนามสกุล และนำรถไปเข้าไฟแนนท์กับบริษัท ธนชาติ ซึ่งผ่อนได้แค่เพียง 2 งวด รถก็ถูกขโมยไปเมื่อวันที่ 8 ก.พ.2550
นายปพน กล่าวอีกว่า ในวันที่เกิดเหตุ ตนได้ขับรถคันนี้มาทำงานตามปกติในเวลา 09.00 น. แล้วนำมาจอดที่ลานจอดรถชั้น 3 ห้างฟิวเจอร์มาร์ท ย่านพระราม 3 ซึ่งอยู่ใกล้กับร้านสตาร์คาร์แคร์ โดยวันนั้นตนเร่งรีบไปเซ็นเอกสารในออฟฟิศ จากนั้นประมาณ 10 นาที เด็กในร้านได้โทรศัพท์มาบอกตนว่ามีคนขับรถออกไป เมื่อได้ยินดังนั้นตนจึงตกใจ และบอกว่า ไม่ได้ให้ใครเอารถไป ทั้งยังพยายามวิ่งลงไปสกัดรถด้านล่างของอาคารแต่ไม่ทัน เมื่อสอบถามเด็กในร้าน ก็ทราบว่า คนร้ายมา 2 คน โดยกดรีโมตไขล็อกรถแล้วขับออกไป
นายปพน กล่าวว่า สำหรับบริษัท ดีเท็กซ์ ได้ปิดทำการไป หลังจากที่ตนซื้อรถมาไม่นาน โดยตอนที่ไปซื้อทางบริษัทอ้างว่ามีรถรุ่นดังกล่าวเพียงคันเดียว และมีคนจองอยู่แล้ว แต่บอกว่าสามารถจะหาให้ตนได้อีกคัน เมื่อทำการซื้อขายทางบริษัทก็มอบกุญแจมาให้ตนเพียงดอกเดียว ทั้งที่น่าจะมี 3 ดอก ซึ่งตนก็เอะใจ เมื่อรถหายไปถ้าบังเอิญพบเห็นรถรุ่นนี้ก็จะพยายามมองอยู่ตลอดว่าใช่ของตนหรือไม่ ตอนที่เจอรถ เนื่องจากติดต่อให้บริษัทประกันนำกุญแจสำรอง มาลองกดเปิดดูก็พบว่ารถคันเป็นของตนที่หายไป ส่วน พ.ต.ท.ชาญชัย นั้น รู้จักกันแต่ไม่ได้สนิทสนม โดยรู้จักเนื่องจากตนได้ชักชวนมาเข้ากลุ่มกรุงเทพ 50
ด้าน ร.ต.ท.อนวัช กล่าวว่า ที่เรียก นายปพน มา เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมและมาดูรถคันดังกล่าว และจะได้สอบถามประเด็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับรายละเอียดของคดี ส่วนรถขณะนี้ได้นำไปเก็บไว้ที่เก็บรถของ สน.วัดพระยาไกร เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พ.ต.ท.ชาญชัย นั้นถือว่าเป็นนายตำรวจที่มีความรู้จักคุ้นเคยกับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหลายคน โดยเฉพาะข้าราชการระดับบิ๊กของกองทัพบกหลายนาย และ พ.ต.ท.ชาญชัย ก็พยายามจะพลิกผันตัวเองกระโดดเข้ามาเล่นการเมืองหลายครั้งแล้ว ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นกันได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มกรุงเทพ 50 ที่มี พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ เป็นหัวหน้าและผู้ก่อตั้งกลุ่ม เพื่อหวังจะลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งที่จะมีถึงในอนาคตอันใกล้นี้
เรียกสอบ สว.กอ.รมน.นำรถอัลพาร์ด ที่ถูกแจ้งหายมาใช้ส่วนตัว
โดนขโมย “อัลพาร์ด” นานครึ่งปี เจออีกที “พ.ต.ท.” เอาไปขับ-อ้างยึดมาแต่ไม่มีที่จอด