กองปราบฯ ยังไม่แถลงผลจับกุมมือปืนสังหาร “รวีวรรณ” เหยื่อศัลยกรรม ขณะที่ผู้การกองปราบปรามเข้าค้น “ไบโอคลินิก” หาหลักคดีฆาตกรรม และยาปลอม ส่วนอีกชุดค้นบ้านนายศักดา เฮงสวัสดิ์ น้องชายของนายแพทย์ไพศาล เฮงสวัสดิ์ เจ้าของไบโอคลินิก
วันนี้ (25 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีสังหารนางรวีวรรณ เสตะรัต ผู้เสียหายจากการศัลยกรรมตกแต่งด้วยวิธีไบโอเทคนิค โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าปมสังหารน่าจะมาจากประเด็นที่ผู้ตายมีคดีฟ้องร้องกับนายแพทย์ไพศาล เฮงสวัสดิ์ เจ้าของคลินิกเสริมความงามย่านดอนเมือง และเมื่อวานที่ผ่านมาตำรวจกองปราบปรามสามารถจับกุม นายจตุรงค์ เบญจกุล มือปืนได้ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี โดยหลังจับกุม นายจตุรงค์ให้การรับสารภาพและซัดทอดถึงผู้บงการ รวมถึงทีมงานอีกหลายคน และวันนี้พนักงานสอบสวนได้เสนอศาลขออนุมัติหมายจับกุมเพิ่มอีก 3 คน
โดยเมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รักษาการผู้บังคับการกองปราบปราม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่จาก อย. นำหมายค้นจากศาลอาญาเลขที่ 468/2550 ลงวันที่ 25 ก.ย.เข้าตรวจค้นสถานเสริมความงาม ไบโอคลินิก เลขที่ 161/16-21 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม.ของนายแพทย์ไพศาล เฮงสวัสดิ์ โดยคลินิกดังกล่าวมีขนาด 6 คูหา สูง 3 ชั้นครึ่ง เปิดเป็นคลินิกเสริมความงามที่บริเวณชั้นที่ 1 เป็นเคาน์เตอร์ และห้องตรวจรักษาโรค ชั้นที่ 2 แบ่งเป็นห้องผ่าตัดจำนวน 3 ห้อง ชั้นที่ 3 เป็นห้องพักพื้นของผู้ป่วยและห้องพักของแม่บ้าน โดยขณะตรวจค้นมีรายงานว่านายแพทย์ไพศาลอยู่ในคลินิกดังกล่าวด้วย
พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ เปิดเผยว่า วันนี้ทางกองปราบปรามได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เข้าตรวจค้น โดยมีเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่จาก อย.เข้าร่วมด้วย โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจค้นหาหลักฐานเกี่ยวกับคดีฆาตกรรม และส่วนที่ส 2 เป็นการตรวจสอบเรื่องยา เนื่องจากมีผู้เสียหายหลายรายแจ้งความเรื่องยาปลอม จึงต้องมาตรวจสอบว่ายา ที่ใช้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ นอกจากนั้น ในวันนี้กำลังเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจค้นพื้นที่อื่นๆรวม 14 จุดใน 8 จังหวัด
ด้านพ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ ผู้กำกับการ 1 กองปราบปราม (ผกก.1 บก.ป.) กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่พยายามหาหลักฐานเพิ่มเติมมาประกอบ ซึ่งจากการตรวจค้นมีวัตถุพยานหลายรายการที่ยังไม่แน่ใจ เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดมาตรวจสอบ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยการเข้าตรวจค้นครั้งนี้นายแพทย์ไพศาลได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายแพทย์ไปศาล เนื่องจากการสืบสวนยังไปไม่ถึงจุดนั้น ส่วนจะมีการนัดไปสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ เป็นประเด็นของพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ท้องที่ที่เกิดเหตุที่จะต้องดำเนินการต่อไป ทางกองปราบมีหน้าที่แสวงหาพยานหลักฐานไปมอบให้เท่านั้น เพื่อเทียบเคียงและเข้าสู่กระบวนการสอบสวนต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นอยู่นั้น พนักงานของไบโอคลินิกได้มาเชิญผู้สื่อข่าวออกจากคลินิก โดยอ้างว่าเนื่องจากนายแพทย์ไพศาลต้องการปิดทำการคลินิกเป็นเวลา 1 วัน และต้องการอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จ.ส.ต.ไพโรจน์ พร้อมสืบทรัพย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปศท.ได้นำหมายเรียกให้นายแพทย์ไพศาลไปพบพนักงานสอบสวนบก.ปศท.ในวันที่ 1 ต.ค.เวลา 10.30 น. เนื่องจากต้องสงสัยว่า ผลิตยาโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่นำยาไปขึ้นทะเบียน หลังจากก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่องค์การอาหารและยา หรือ อย. ได้เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนบก.ปศท.
นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่ากำลังตำรวจ คอมมาโด กองปราบปราม ร่วม 30 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ได้เข้าตรวจค้นที่อาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นของนายศักดา เฮงสวัสดิ์ น้องชายของนายแพทย์ไพศาล เฮงสวัสดิ์ เจ้าของไบโอคลินิก ที่มีปัญหาฟ้องร้องกับ นางรวิวรรณ ผู้ตาย หลังจากที่นายจตุรงค์ เบญจกุล มือปืนให้การซัดทอด โดยผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ไม่พบตัวนายศักดา โดยพบยนต์ต้องสงสัยว่า อาจจะใช้ในการก่อเหตุ จึงได้ยึดไว้ทำการตรวจสอบ พร้อมกับเชิญตัวนางอนงค์ เฮงสวัสดิ์ ภรรยาของนายศักดา ไปทำการสอบสวนที่กองปราบปราม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ร่วมกระทำความผิดที่ศาลอาญาอนุมัติหมายจับกุมแล้วทั้งหมด 3 คน คือ นายจตุรงค์ มือปืนที่ก่อเหตุ นายประกอบ หรือกอบ ไม่ทราบนามสกุล และนายศักดา เฮงสวัสดิ์ น้องชาย นายแพทย์ไพศาล เฮงสวัสดิ์ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ส่วนนายประกอบ และนายศักดา ถูกออกหมายจับในข้อหาร่วมกันใช้จ้างวานให้ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน โดยล่าสุดชุดสืบสวนกองปราบปรามได้นำตัวนายจตุรงค์ ส่งพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ดำเนินคดีแล้ว
ส่วนการสอบสวนขยายผลเพื่อหาหลักฐานในคดีเพิ่มเติมนั้นชุดสืบสวนกองปราบปรามได้แบ่งกำลังออกกันไปตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยทั้งหมด 14 จุด ในพื้นที่ กทม. พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท และปทุมธานี โดยเป้าหมายหลักอยู่ที่ ไบไอคลีนิค สาขาใหญ่ที่ดอนเมือง นอกจากนี้ยังมีบ้านพักผู้ต้องหาที่พระนครศรีอยุธยา และโรงงานและร้านขายเฟอร์นิเจอร์ของนายศักดาที่ จ.ชัยนาท และปทุมธานี
รวบแล้ว!! ทีมฆ่า “เหยื่อศัลยกรรม”
ขอข้อมูลร้องเรียน “ไบโอคลินิก” สางคดีฆ่าเหยื่อศัลยกรรม
ตร.ยังไม่เรียก “หมอ” คู่กรณีเหยื่อศัลยกรรมมาสอบ!
บก.ปศท.เตรียมออกหมายเรียกหมอคู่กรณีเหยื่อศัลยกรรม
ตร.เชื่อมีข่าวดียิงเหยื่อศัลยกรรม-ยันยังไม่ออกหมายจับใคร?
พยาน “เหยื่อศัลยกรรม” ร้องถูกข่มขู่หมายชีวิต!
ประกบตัว ป.-ศ. สองผู้ต้องสงสัย “ฆ่าเหยื่อศัลยกรรม”
ตำรวจลงพื้นที่ราชบุรี คลี่คลายปมสังหารเหยื่อศัลยกรรม
ระดมสายสืบแกะปมขัดแย้งเหยื่อศัลยกรรม-ออกภาพสเก็ตซ์มือปืนทมิฬ
บุตรสาวเหยื่อศัลยกรรมรับศพ-ยังไม่คิดเรื่องคดี
ตร.มุ่งปม “ฟ้องร้อง-ธุรกิจ” สางคดีฆ่าเหยื่อศัลยกรรมเสียโฉม
ยิงเหยื่อศัลยกรรมเสียโฉมดับ เชื่อปมฟ้องหมอ-ธุรกิจ เผยเคยแฉ รมต.ฉีดเจ้าโลก
ลอบยิงเหยื่อ “ศัลยกรรมเสียโฉม” - เจ้าตัวปลอดภัย!
ตามหารัฐมนตรีฉีดเจ้าโลกไปเป็นพยานสู้คดีฉีดซิลิโคนทำให้เสียโฉม