xs
xsm
sm
md
lg

นรต.ฝึกหัดกร่างอ้าง “อากู..เสธ.ไอซ์” พังผับยับ!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

แม้จะยังเรียนไม่จบ สวมเครื่องแบบนายร้อยได้ไม่เต็มตัว แต่แววกร่างเริ่มออก นรต.ฝึกหัด สน.ห้วยขวาง เข้าไปดื่มในผับกับพรรคพวกแล้วเกิดทะเลาะกันเอง รปภ.ร้านเข้าไปห้ามปราม แยกศึก เกิดอาการไม่พอใจ เบ่งใส่ รปภ.“กูเป็นตำรวจ สน.ห้วยขวาง พ่อกูชื่อเฮียตือ มึงรู้จักหรือเปล่า อากูก็ เสธ.ไอซ์” จากนั้นเข้าไปขว้างขวดขว้างแก้ว ยกเก้าอี้ทุ่มใส่เคาน์เตอร์ จนร้านพังเสียหาย พร้อมข่มขู่จะให้ผู้เป็นอาพาทหารมาปิดร้าน ทั้งที่เจ้าของร้านยกมือไหว้ขอร้องแล้ว

วันนี้ (20 ก.ย.) เมื่อเวลา 05.30 น. นางสุดใจ สุขโชค อายุ 56 ปี เจ้าของผับลาลิก้า ตั้งอยู่ถนนเทียมร่วมมิตร แขวงและเขตห้วยขวาง เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.วิญญู สัจจา ร้อยเวร สน.ห้วยขวาง ว่า ถูก นรต.สุทธิรักษณ์ ลัคนาลิขิต นักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) ฝึกหัดของ สน.ห้วยขวาง เข้าไปก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายพนักงาน รปภ.ของร้าน และทำลายข้าวของในร้านเสียหาย คิดเป็นมูลค่าหลายแสนบาท

ทั้งนี้ นางจินตนา ดินราบรัมย์ อายุ 34 ปี รอง ผจก.ร้านลาลิก้า กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ นรต.สุทธิรักษณ์ พร้อมเพื่อนชายหญิง รวมกว่า 30 คน ได้เข้าไปจัดงานวันเกิดภายในร้าน จากนั้น มีการทะเลาะวิวาทกันเองในกลุ่ม ทาง รปภ.ของร้าน จึงเข้าไประงับเหตุ และกลุ่ม นรต.สุทธิรักษณ์ได้ทยอยเดินทางกันกลับ แต่ระหว่างที่ยืนรอขึ้นรถที่หน้าร้าน ก็ได้มีการทะเลาะวิวาทกันอีกรอบ โดยมีหญิงสาวคนหนึ่งกระโดดถีบรถ จยย.ของเพื่อนที่มาด้วยกัน ทาง รปภ.ของร้านจึงเข้าไประงับเหตุอีกครั้ง ขณะนั้นเอง นรต.สุทธิรักษณ์ ซึ่งอยู่บนรถเก๋งของตนเอง ได้ลดกระจกลงแล้วถาม รปภ.ไปว่า “มึงเป็นใคร” ทาง รปภ.ได้ตอบกลับไปว่า “เขาจ้างมาดูแลร้าน” แต่นรต.สุทธิรักษณ์ สวนกลับไปว่า “กูเป็นตำรวจ สน.ห้วยขวาง พ่อกูชื่อเฮียตือ มึงรู้จักหรือเปล่า อากูก็ เสธ.ไอซ์” จากนั้น ตนเห็นว่า เหตุการณ์จะบานปลาย จึงบอกให้ทาง รปภ.คนดังกล่าวเข้าไปหลบภายในร้าน เพื่อให้เรื่องยุติ

นางจินตนา กล่าวต่อว่า เมื่อ รปภ.เดินกลับเข้ามาในร้าน ปรากฏว่า กลุ่มของ นรต.สุทธิรักษณ์เดินตามมาพร้อมกับพวกรวม 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน จากนั้นเข้าไปรุมทำร้าย รปภ.คนดังกล่าว ทางพนักงานเสิร์ฟจึงพยายามเข้าไปห้ามปราม และแยกให้ทั้งสองฝ่ายออกจากกัน จากนั้นได้พา รปภ.ออกไปหลบทางหลังร้าน แต่ปรากฏว่า กลุ่มของ นรต.สุทธิรักษณ์ เอะอะโวยวายและด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมทั้งตะโกนเรียกให้เจ้าของร้านมาพบ แต่แล้วพวกของ นรต.สุทธิรักษณ์ ก็เริ่มทำลายข้าวของ ด้วยการใช้ขวด แก้ว ลังโซดา และเก้าอี้ เขวี้ยงและทุ่มเข้าใส่เคาน์เตอร์เก็บเงิน ส่งผลให้สุรา 20 ขวด ได้รับความเสียหาย กระจกร้านแตกละเอียด แก้วเหล้า ตู้แช่น้ำ โต๊ะเก้าอี้ พังระเนระนาดเกลื่อนร้าน ตนกับเจ้าของร้าน ได้ยกมือไหว้ ขอร้องให้หยุด แต่ นรต.สุทธรักษณ์ กับพวกกลับไม่ฟัง ยังคงทำลายข้าวของภายในร้านต่อไป

“ขณะที่เขากำลังทำลายข้าวของภายในร้าน นรต.สุทธิรักษณ์ ตะโกนออกมาว่า “มึงไม่รู้ซะแล้วว่าใครใหญ่ พ่อกูเฮียตือ เดี๋ยวพรุ่งนี้ กูจะให้อากู เสธ.ไอซ์ เอาทหารมาปิดร้านมึง” ซึ่งต่อมามีตำรวจจาก สน.ห้วยขวาง มาระงับเหตุ ทั้งหมดจึงพากันแยกย้ายกลับไป โดยไม่มีการคุมตัวนรต.สุทธิรักษณ์ ไปโรงพัก ดิฉันกับเจ้าของร้าน จึงเดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง ซึ่งเบื้องต้นตำรวจไม่ให้ความร่วมมือในการลงบันทึกประจำวัน แต่ภายหลังจึงยอม และระหว่างที่กำลังแจ้งความอยู่นั้น ได้มีชายอ้างเป็นเฮียตือ พ่อของ นรต.สุทธิรักษณ์ เดินทางมายัง สน. พร้อมกับยืนยันว่า ลูกชายเขาไม่ผิด แต่ทาง รปภ.ได้อุ้ม นรต.สุทธิรักษณ์ ไปรุมซ้อม” นางจินตนา กล่าว

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ร้านลาลิก้า พบว่า สภาพร้านพังยับเยิน มีเศษขวดแก้ว กระจัดกระจาย กระจกหน้าเคาน์เตอร์แตกละเอียด และทางเจ้าของร้านได้เปิดกล้องวงจรปิดให้ผู้สื่อข่าวดู ในภาพปรากฏว่า กลุ่ม นรต.สุทธิรักษณ์ กำลังก่อเหตุ ปาข้าวข้องเข้าไปยังเคาน์เตอร์ โดยกล้องสามารถจับภาพ นรต.สุทธิรักษณ์ พร้อมพี่ชายและเพื่อน กำลังยกเก้าอี้ทุ่มเข้าไปยังเคาน์เตอร์ ทำลายทรัพย์สิน ส่วน นรต.สุทธิรักษณ์ นั้นทราบว่า อีก 7 วัน ก็จะทำการฝึดหัดงานที่ สน.ห้วยขวาง เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ก็มาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นก่อน

ด้าน พ.ต.อ.ทรงพล วัธนะชัย ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นจากพนักงานสอบสวนแล้ว ว่า มีเหตุทะเลาะวิวาท และทำร้ายร่างกายในผับลาลิก้า โดยมีผู้บาดเจ็บและทรัพย์สินในร้านเสียหาย ซึ่งทางผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนจะมีผู้ใดเกี่ยวข้องบ้างนั้น ต้องรอตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

พ.ต.อ.ทรงพล กล่าวต่อว่า สำหรับ นรต.สุทธิรักษณ์ นั้น ทราบว่า หลังจากออกเวรปฏิบัติหน้าที่ ได้มีพี่ชายมารับไปรับประทานอาหาร แต่ไม่ทราบว่า ออกไปที่ร้านใด ส่วนเรื่องที่ทางเจ้าของร้าน แจ้งว่า นรต.สุทธิรักษณ์ เป็นผู้เข้าไปก่อเหตุที่ร้าน ต้องตรวจสอบจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดให้ชัดเจน หากพบว่า มีความผิดจริง ก็จะเรียกตัวมาสอบปากคำ และดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมหักคะแนนความประพฤติในส่วนที่กำลังฝึกงาน และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาของโรงเรียนนายร้อยตำรวจทราบถึงพฤติกรรมของ นรต.สุทธิรักษณ์ ในครั้งนี้

“เรื่องนี้ หากตรวจสอบพบว่า มีการกระทำความผิดจริง จะดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ส่วนจะถึงขั้นต้องให้ออกจากราชการหรือไม่นั้น ต้องรอดูหลักฐานและพยานที่เกิดเหตุอีกครั้งว่า เพียงพอหรือไม่ ทุกครั้งที่มี นรต.มาฝึกงานประจำที่ สน.ห้วยขวาาง ก็มีกฎข้อบังคับ และมีการอบรมชี้แนะการปฏิบัติตัวของนักเรียนนายร้อยอยู่แล้ว เรื่องนี้ เกิดขึ้นมา ถือว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล” พ.ต.อ.ทรงพล กล่าว

ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.น.กล่าวว่า หากหลักฐานชี้ชัดว่า นรต.สุทธิรักษณ์ก่อเหตุวิวาทและทำลายทรัพย์สินในร้านลาลิก้าจริง ก็ต้องดำเนินคดีไม่มีละเว้น แม้เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจฝึกงานก็ตาม และขณะนี้ได้มีคำสั่งไปยังทุก สน.ในสังกัด “ห้ามนักเรียนนายร้อยตำรวจฝึกงานที่ออกเวรไปสถานบันเทิงเด็ดขาด” และได้ให้นักเรียนนายร้อยตำรวจสุทธิรักษณ์ ทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว เท่าที่ทราบมีการกล่าวอ้างว่าเป็นหลานเสนาธิการทหารคนดังจริง แต่ยังไม่มีใครยอมรับว่าเป็นคนพูด ทั้งนี้ เจ้าตัวยอมรับว่า หลังออกเวรในเวลา 24.00 น.ได้ไปที่ร้านลาลิก้ากับพี่ชายและเพื่อนอีก 4-5 คน โดยไม่ได้พกอาวุธ ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ทรงพล วัธนะชัย ผกก.สน.ห้วยขวาง เรียกเจ้าตัวมาสอบถาม รวมทั้งให้พยานดูตัว หากผิดจริงให้รายงานให้ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผบช.รร.นรต.รับทราบด้วย
ร้านลาลีก้า ที่เกิดเหตุ




กำลังโหลดความคิดเห็น