จวกสันติบาลมั่ว จับสื่อลามก จ้องดิสเครดิต “สนธิ”

ระบอบทักษิณ ยังคงมีอยู่ทั่วทุกอณูของตำรวจ! อดีตผู้บริหาร"บูรพัฒน์"โต้ ตำรวจสันติบาลแถลงมั่ว จับหนังสือลามกอนาจาร ทั้งที่เป็นการ์ตูนลิขสิทธิ์ แนวกุ๊กกิ๊กอาโนเนะ และการ์ตูนการต่อสู้ ระบุ ต้องการดิสเครดิต"สนธิ ลิ้มทองกุล"

วันนี้ (18 ก.ย.) นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเดย์ ดอท คอม จำกัด กล่าวถึงกรณีพล.ต.ต.สมบัติ ศุภชีวะ ผบก.อก.บช.ส. เจ้าพนักงานการพิมพ์กรุงเทพมหานคร ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล 3 เพื่อพิจารณาสื่อสิ่งพิมพ์ที่เข้าข่ายลามากอนาจร และเข้าข่ายยั่วยุผิดต่อศีลธรรมอันดี หลังจากนั้น ได้ออกมาระบุว่า มีหนังสือในเครือสำนักพิมพ์บูรพัฒน์ โดยมีนายจิตตนาถ เป็นบรรณาธิการบริหารว่า ปัจจุบันตนทำหน้าที่เพียงที่ปรึกษาสำนักพิมพ์บูรพัฒน์ คอมมิคส์เท่านั้น ส่วนเรื่องการ์ตูนในเมืองไทยนั้นขออธิบายก่อนว่า แบ่งออกเป็น 2 จำพวก คือ จำพวกที่มีลิขสิทธ์ และไม่มีลิขสิทธ์ ซึ่งการ์ตูนโป๊ที่มีภาพการ่วมเพศเป็นส่วนใหญ่นั้นจะเป็นพวกที่ไม่มีลิขสิทธิ์ ส่วนการ์ตูนของบูรพัฒน์เป็นการ์ตูนที่มีลิขสิทธิ์ ที่ได้ซื้อมาจากญี่ปุ่น และได้ตรวจสอบแล้วว่าไม่ใช่การ์ตูนโป๊

นายจิตตนาถ กล่าวต่อว่า สำหรับการ์ตูนทั้ง 3 เรื่องนั้น มีเนื้อหาหลายประเภท หลายกลุ่ม โดยเรื่องตาอสูรย์พิฆาตมารนั้น เป็นเรื่องของซามูไรที่มีตามองเห็นอสูรได้ ต้องต่อสู้กับอสูรที่ต้องการยึดครองโลก อาจจะมีฉากโป๊วับๆแวมๆบ้าง แต่ได้ทำการเซ็นเซอร์แล้ว อีกทั้งเนื้อหาหลักก็เป็นเรื่องการต่อสู้ของซามูไร ไม่ได้เน้นเนื้อหาการร่วมเพศกัน ส่วนเรื่องคุณแม่จิ๊กกี้ แช่แข็ง นั้นเป็นเรื่องของนักวิทยาศาสตร์ คนหนึ่งที่ภรรยาคลอดลูกสาวออกมาแล้วเสียชีวิต จึงนำร่างของภรรยาไปไว้ในหลอดทดลองแช่แข็ง เวลาผ่านไปลูกสาวโตขึ้น ภรรยากลับฟื้นขึ้นมา ทำให้ทั้งหมดต้องปรับสภาพการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เช่นการที่ลูกสาวมีแม่ที่อายุไล่เลี่ยกัน ภรรยาที่มีสามีแก่กว่าเป็นสิบๆปี มีเรื่องตลกเฮฮาเหมือนหนังตลกทั่วไป อาจจะมีฉากทะลึ่งไปบ้าง ซึ่งก็ได้เซ็นเซอร์ไปแล้ว อีกทั้งก็ไม่ได้มีเนื้อหายุยงให้วัยรุ่นไปร่วมเพศกันแต่อย่างใด

ส่วนเรื่องเผ่าทรชนพันธุ์เถื่อนนั้น เป็นเรื่องราวของเด็กคนหนึ่งที่กำลังจะถูกพ่อซึ่งเป็นโรคจิตฆ่า แต่สายพันธุ์มนุษย์โบราณ ที่หลับอยู่ในตัวเกิดฟื้นขึ้นมา และเป็น 1 ใน 5 ของสายพันธุ์ที่ต้องต่อสู้กันเพื่อแย่งครอบครองโลก ซึ่งฉากสงครามของเรื่องดังกล่าวถ่ายทอดออกมาในรูปเป็นการ์ตูน ก็อาจจะมีฉากโป๊เปลือยบ้าง ซึ่งก็เซ็นเซอร์แล้ว และเนื้อหาก็ไม่ได้ว่าด้วยเรื่องของการร่วมเพศกันแต่อย่างใด

นายจิตตนาถ กล่าวต่อว่า การ์ตูนก็เหมือนละครหลังข่าวที่มีฉากเลิฟซีน หากละครมีฉากเลิฟซีนก็ต้องผ่านกองเซ็นเซอร์ ส่วนการ์ตูนก็ต้องผ่านการเซ็นเซอร์ของสำนักพิมพ์อยู่แล้ว ไม่มีทางที่จะปล่อยให้การ์ตูนโป๊ออกมาวางขาย อีกทั้งเนื้อเรื่องหลักก็ไม่ได้ยุยงให้เด็กไปทำมิดีมิร้าย หรือมีเพศสัมพันธ์กันแต่อย่างใด และขณะนี้ทุกสำนักพิมพ์ก็ถูกตำรวจสันติบาลตรวจสอบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น เนชั่น สยามอินเตอร์คอมมิคส์ บงกช ฯลฯ

"ขอถามตำรวจสันติบาลใช้มาตรฐานอะไรในการทำงาน ตำรวจกำลังเอาการ์ตูนที่มีลิขสิทธิ์ กับไม่มีลิขสิทธิ์มารวมกัน ไม่ได้ดูเลยว่าเนื้อหาของการ์ตูนนั้นชักนำเด็กให้ไปมีเพศสัมพันธ์กันหรือไม่ อีกทั้งการ์ตูนทั้ง 3 เรื่องนั้น ก็ออกมาตั้งแต่เมื่อ 3-4 ปี ที่แล้ว ในตลาดก็แทบจะไม่เหลืออยู่แล้วไม่ทราบว่าไปหากันมาได้อย่างไร หรือเพียงแค่เห็นชื่อผมสมัยทำการ์ตูน ก็เลยเอามาชูให้เป็นประเด็นข่าว และ การที่ตำรวจเปิดเผยชื่อออกมาเช่นนี้ เชื่อว่า ต้องการดิสเครดิตไปถึงนายสนธิ ลิ้มทองกุล" นายจิตตนาถ กล่าว

ทั้งนี้ นายจิตตนาถ ย้ำว่า ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่า การให้ข่าวของตำรวจครั้งนี้ จงใจเปิดเผยรายชื่อของตนทั้งที่หนังสือทั้งหมดตีพิมพ์หลายปีมาแล้ว พยายามจะค้นหาชื่อตนให้เจอ และ หากตำรวจแจ้งข้อหาเมื่อไหร่ตนก็พร้อมจะฟ้องกลับ เพื่อต่อสู้เช่นกัน

เรื่องดังกล่าว พล.ต.ต.สมบัติ กล่าวภายหลังการประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล 3 เพื่อพิจารณาสื่อสิ่งพิมพ์ที่เข้าข่ายลามากอนาจร และเข้าข่ายยั่วยุผิดต่อศีลธรรมอันดีว่า ทางตำรวจสันติบาลได้รับนโยบายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงยุติธรรม ให้ปราบปรามสื่อลามากอนาจาร ซึ่งปัจจุบันมีแฝงอยู่ในรูปแบบของหนังสือพ๊อกเก็ตบุ๊ค การ์ตูน นวนิยาย ซึ่งส่งผลเสียต่อเยาวชนเป็นอย่างมาก อย่างหนังสือบางเล่มดูภายนอกจะไม่รู้ว่าภายในหนังสือมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับการร่วมเพศอย่างโจ่งแจ้ง หนังสือการ์ตูนก็จะมีภาพที่แสดงการร่วมเพศท่าต่างๆ ซึ่งผู้ปกครองจะไม่รู้ว่าเด็กอ่านอะไร ที่สำคัญหนังสือเหล่านี้มีการวางจำหน่ายในร้านหนังสือทั่วไปและตามร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสันติบาลได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองเข้ามาเป็นจำนวนมาก

พล.ต.ต.สมบัติ กล่าวว่า วันนี้ได้มีการพิจารณาหนังสือ เพนท์เฮาส์และหนังสือคิ้วท์ พิจารณาแล้วเข้าข่ายยั่วยุกามารม ขัดต่อศีลธรรมอันดี ตาม พ.ร.บ.การพิมพ์มาตรา 9 ซึ่งเจ้าหน้าที่เคยทำหนังสือเตือนไปหลายครั้ง แต่มีการฝ่าฝืนวางจำหน่ายและต่อสู้ว่าไม่มีความผิดตามที่กล่าวหา ซึ่งเรื่องนี้ตำรวจก็จะดำเนินการยึดหนังสือและห้ามจำหน่ายเป็นรายเล่มตามทีกฎหมายให้อำนาจไว้

พล.ต.ต.สมบัติ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ได้มีการพิจารณาหนังสือการ์ตูน ของสำนักพิมพ์บูรพัฒน์ คอมมิคส์ มีชื่อนายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล เป็นบรรณาธิการบริหาร ซึ่งผลิตหนังสือการตูนย์ อาทิ เรื่องคุณแม่จิ๊กกี้ แช่แข็ง ตาอสูรย์พิฆาตมาร เผ่าทรชนพันธุ์เถื่อน รวม 8 เล่ม

นอกจากนี้ ยังมีนวนิยายของสำนักพิมพ์มันดี และสำนักพิมพ์พาเพลิน ที่มีเนื้อหาการร่วมเพศสอดแทรกอยู่ภายในอย่างชัดเจน อาทิ เรื่องเล่ห์อารมณ์ ทาร่าผู้น่ารัก ความสุขระหว่างทาง ซึ่งหนังสือทั้งหมดคณะกรรมการพิจารณาเข้าข่ายความผิดตามประมาวลกฎหมายอาญามาตรา 287 เผยแพร่สิ่งพิมพ์ลามกและสิ่งพิมพ์อนาจาร มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พันบาท ซึ่งเจ้าพนักงานจะทำหนังสือเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อไปแจ้งความดำเนินคดีที่สน.ปทุมวัน และจะขยายผลเพื่อขอหมายค้นไปเข้าตรวจสอบในสำนักพิมพ์ต่างๆ