ตำรวจศูนย์สืบสวนภาค 1 และตำรวจอยุธยา ตามจับกุม 6 ทรชนเยาว์วัย ลากนักเรียนหญิง ม.2 ที่ไปรอขึ้นรถไปโรงเรียนจากศาลาผู้โดยสารริมทางไปข่มขืนแล้วฆ่าหมกบ่อน้ำอย่างเหี้ยมโหดได้ครบเซต สารภาพพฤติกรรมชั่วทุกขั้นตอน เหี้ยมโหดเกินวัยที่เยาวชนพึงกระทำ
วันนี้ (18 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.วิทยา ประยงค์พันธ์ รอง ผบก.หน.ศูนย์สืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 (ศสส.บช.ภ.1) แถลงการจับกุมผู้ต้องหาคดีฆ่าข่มขืน ด.ญ.แนน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นผู้ต้องหานำศพไปทิ้งในบ่อน้ำกลางทุ่งนา เขตหมู่ 2 ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ก.ย. และมีผู้ไปพบศพ ด.ญ.เคราะห์ร้ายเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุได้ทั้งหมด 6 คนประกอบด้วย ด.ช.อ๊อด (นามสมมติ) อายุ 14 ปี หัวหน้าแก๊ง นายไกค์ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ด.ช.ชง (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นายบอย (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นายโบ๊ต (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และนายบิ๊ก (นามสมมติ) อายุ 16 ปี โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหาแต่ละคน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 7 ต.บ่อโพรง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ตามหมายจับของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว
พล.ต.ท.เอก แถลงว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 6 คนให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุฉุดด.ญ.แนน ไปข่มขืนและฆ่าทิ้งจริง โดยเมื่อวันที่ 10 ก.ย.เวลาประมาณ 06.00 น. ด.ช.อ๊อด หัวหน้าแก๊ง พร้อมเพื่อนได้ขี่รถจักรยานยนต์รวม 4 คันไปขับวนดูที่บ้าน ด.ญ.แนนก่อน แต่ไม่พบตัว จึงพากันขี่รถไปยังศาลาที่พักผู้โดยสารริมถนนสายช่างแสง-หันตรา ก็พบ ด.ญ.แนน นั่งรอรถเพื่อเดินทางไปยังโรงเรียน แต่ในศาลาที่พักผู้โดยสารดังกล่าวมีพนักงานโรงงานเป็นชาย 1 คน หญิงอีก 2 คนนั่งรอรถอยู่ด้วย ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาต้องขี่รถเลยไปจอดยังป้อมสัญญาณกั้นรถของการรถไฟ(นิ๊งหน่อง) และได้พบกับพนักงานกั้นสัญญาณ ซึ่งได้สอบถามกลุ่มมผู้ต้องหาว่าจะพากันไปเที่ยวไหน นายอ๊อดตอบกลับไปว่ามารอเพื่อน และเมื่อรถรับส่งพนักงานมาจอดรับ 3 คนงานชายหญิงไปแล้ว กลุ่มนายอ๊อดจึงวกรถจักรยานยนต์มายังศาลาที่พักผู้โดยสาร ซึ่งมี ด.ญ.แนน นั่งรอรถอยู่เพียงคนเดียว
พล.ต.ท.เอก กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย นายไกด์ นายบิ๊ก ด.ช.ชง และนายบอย พากันเข้าไปในศาลาที่พักผู้โดยสาร โดย ด.ช.ชง ตรงเข้าไปปัดกระเป๋านักเรียนของ ด.ญ.แนนทิ้ง จากนั้นช่วยกันฉุดลาก ด.ญ.แนนไปขึ้นรถจักรยานยนต์ของนายไกด์ โดยมี ด.ช.ชงนั่งประกบท้ายและใช้เสื้อปิดปาก ด.ญ.แนนไว้ แล้วพากันขี่รถออกไปจากศาลาที่พักผู้โดยสาร ลอดใต้สะพานเข้าทางหมู่บ้านดาบ เลาะถนนลูกรังไปยังบ้านพักของ ด.ช.อ๊อด เมื่อถึงบ้าน ด.ช.ชงกับนายบิ๊ก ช่วยกันฉุดลาก ด.ญ.แนนเข้าไปในบ้าน และผลัดกันข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อเสร็จกิจ ทั้งหมดพา ด.ญ.แนนขึ้นรถจักรยานยนต์ไปยังบ่อน้ำบริเวณหลังโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช โดยตลอดทางผู้ต้องหานำเสื้อคลุมศีรษะ ด.ญ.แนนไว้ และเมื่อไปถึง นายไกด์ นายบิ๊ก ด.ช.ชง และนายโบ๊ต ช่วยกันลากร่าง ด.ญ.แนน ไปข่มขืนซ้ำอีกครั้งที่ใต้ต้นกระถิน ซึ่งเป็นจุดที่พบสายคล้องโทรศัพท์ของ ด.ญ.แนนตกอยู่ โดยมี ด.ช.อ๊อด และนายบอยคอยนั่งดูต้นทางอยู่ที่ต้นมะม่วง
ผบช.ภ.1 กล่าวต่อว่า เมื่อผู้ต้องหารุมขืนใจ ด.ญ.แนนซ้ำอีกครั้งแล้ว ด.ช.อ๊อดได้ตรงเข้าไปประคอง ด.ญ.แนน ไปที่บ่อน้ำ จากนั้นนายบิ๊กได้ใช้ไม้ตีเข้าที่กรามด้านซ้ายของ ด.ญ.แนน แต่ไม่สลบ จึงตีเข้าที่กรามขวาอีกครั้งจน ด.ญ.แนนสลบ จากนั้นนายไกด์ นายบิ๊ก และด.ช.ชง ช่วยกันจับร่าง ด.ญ.แนนโยงลงในบ่อน้ำ ก่อนที่ ด.ช.ชงจะตามลงไปกดร่างให้จมน้ำและหมกศพเข้าไปในก่อหญ้า จากนั้น ด.ช.อ๊อด กับนายบอยนำมีดที่เตรียมมาไปตัดทางมะพร้าวมาปิดบังศพทับอีกชั้น และ ด.ช.อ๊อด ขึ้นไปเหยียบซ้ำให้ศพจมลงน้ำ ก่อนที่ทั้งหมดจะพากันแยกย้ายหลบหนีไป จนกระทั่งมีผู้ไปพบศพ ด.ญ.แนน ลอยขึ้นอืด และตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเเหตุได้ทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังตำรวจแถลงข่าวการจับกุมเสร็จสิ้น ด.ช.อ๊อด ได้ยกมือไหว้ กราบขอขมามารดา ด.ญ.แนนที่ร่ำไห้ สอบถามผู้ต้องหากลับไปว่า “ทำได้อย่างไร ไม่นึกบ้างหรือว่าถ้าเป็นหนูถูกทำอย่างนี้บ้างจะรู้สึกอย่างไร”
ด้านญาติ ด.ญ.แนน ที่เดินทางมาด้วยกล่าวว่า รู้สึกพอใจที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด แต่ความจริงต้องการให้แก้กฎหมายให้มีบทลงโทษที่รุนแรงมากขึ้น เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นเยาวชน เมื่อถูกจับแล้วอาจจะถูกปล่อยตัวออกมาอีก อาจจะทำให้เด็กได้ใจมาตั้งแก๊งกระทำการในลักษณะดังกล่าวอีก และขอให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องแนนเป็นรายสุดท้ายที่ถูกกระทำเช่นนี้
พล.ต.ท.เอก กล่าวอีกครั้งว่า อยากให้ทางผู้ปกครองดูแลพฤติกรรมบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพราะผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยังเป็นเยาวชนทั้งหมด จะได้ไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา และร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน




วันนี้ (18 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.วิทยา ประยงค์พันธ์ รอง ผบก.หน.ศูนย์สืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 (ศสส.บช.ภ.1) แถลงการจับกุมผู้ต้องหาคดีฆ่าข่มขืน ด.ญ.แนน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นผู้ต้องหานำศพไปทิ้งในบ่อน้ำกลางทุ่งนา เขตหมู่ 2 ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ก.ย. และมีผู้ไปพบศพ ด.ญ.เคราะห์ร้ายเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุได้ทั้งหมด 6 คนประกอบด้วย ด.ช.อ๊อด (นามสมมติ) อายุ 14 ปี หัวหน้าแก๊ง นายไกค์ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ด.ช.ชง (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นายบอย (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นายโบ๊ต (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และนายบิ๊ก (นามสมมติ) อายุ 16 ปี โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหาแต่ละคน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 7 ต.บ่อโพรง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ตามหมายจับของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว
พล.ต.ท.เอก แถลงว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 6 คนให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุฉุดด.ญ.แนน ไปข่มขืนและฆ่าทิ้งจริง โดยเมื่อวันที่ 10 ก.ย.เวลาประมาณ 06.00 น. ด.ช.อ๊อด หัวหน้าแก๊ง พร้อมเพื่อนได้ขี่รถจักรยานยนต์รวม 4 คันไปขับวนดูที่บ้าน ด.ญ.แนนก่อน แต่ไม่พบตัว จึงพากันขี่รถไปยังศาลาที่พักผู้โดยสารริมถนนสายช่างแสง-หันตรา ก็พบ ด.ญ.แนน นั่งรอรถเพื่อเดินทางไปยังโรงเรียน แต่ในศาลาที่พักผู้โดยสารดังกล่าวมีพนักงานโรงงานเป็นชาย 1 คน หญิงอีก 2 คนนั่งรอรถอยู่ด้วย ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาต้องขี่รถเลยไปจอดยังป้อมสัญญาณกั้นรถของการรถไฟ(นิ๊งหน่อง) และได้พบกับพนักงานกั้นสัญญาณ ซึ่งได้สอบถามกลุ่มมผู้ต้องหาว่าจะพากันไปเที่ยวไหน นายอ๊อดตอบกลับไปว่ามารอเพื่อน และเมื่อรถรับส่งพนักงานมาจอดรับ 3 คนงานชายหญิงไปแล้ว กลุ่มนายอ๊อดจึงวกรถจักรยานยนต์มายังศาลาที่พักผู้โดยสาร ซึ่งมี ด.ญ.แนน นั่งรอรถอยู่เพียงคนเดียว
พล.ต.ท.เอก กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย นายไกด์ นายบิ๊ก ด.ช.ชง และนายบอย พากันเข้าไปในศาลาที่พักผู้โดยสาร โดย ด.ช.ชง ตรงเข้าไปปัดกระเป๋านักเรียนของ ด.ญ.แนนทิ้ง จากนั้นช่วยกันฉุดลาก ด.ญ.แนนไปขึ้นรถจักรยานยนต์ของนายไกด์ โดยมี ด.ช.ชงนั่งประกบท้ายและใช้เสื้อปิดปาก ด.ญ.แนนไว้ แล้วพากันขี่รถออกไปจากศาลาที่พักผู้โดยสาร ลอดใต้สะพานเข้าทางหมู่บ้านดาบ เลาะถนนลูกรังไปยังบ้านพักของ ด.ช.อ๊อด เมื่อถึงบ้าน ด.ช.ชงกับนายบิ๊ก ช่วยกันฉุดลาก ด.ญ.แนนเข้าไปในบ้าน และผลัดกันข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อเสร็จกิจ ทั้งหมดพา ด.ญ.แนนขึ้นรถจักรยานยนต์ไปยังบ่อน้ำบริเวณหลังโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช โดยตลอดทางผู้ต้องหานำเสื้อคลุมศีรษะ ด.ญ.แนนไว้ และเมื่อไปถึง นายไกด์ นายบิ๊ก ด.ช.ชง และนายโบ๊ต ช่วยกันลากร่าง ด.ญ.แนน ไปข่มขืนซ้ำอีกครั้งที่ใต้ต้นกระถิน ซึ่งเป็นจุดที่พบสายคล้องโทรศัพท์ของ ด.ญ.แนนตกอยู่ โดยมี ด.ช.อ๊อด และนายบอยคอยนั่งดูต้นทางอยู่ที่ต้นมะม่วง
ผบช.ภ.1 กล่าวต่อว่า เมื่อผู้ต้องหารุมขืนใจ ด.ญ.แนนซ้ำอีกครั้งแล้ว ด.ช.อ๊อดได้ตรงเข้าไปประคอง ด.ญ.แนน ไปที่บ่อน้ำ จากนั้นนายบิ๊กได้ใช้ไม้ตีเข้าที่กรามด้านซ้ายของ ด.ญ.แนน แต่ไม่สลบ จึงตีเข้าที่กรามขวาอีกครั้งจน ด.ญ.แนนสลบ จากนั้นนายไกด์ นายบิ๊ก และด.ช.ชง ช่วยกันจับร่าง ด.ญ.แนนโยงลงในบ่อน้ำ ก่อนที่ ด.ช.ชงจะตามลงไปกดร่างให้จมน้ำและหมกศพเข้าไปในก่อหญ้า จากนั้น ด.ช.อ๊อด กับนายบอยนำมีดที่เตรียมมาไปตัดทางมะพร้าวมาปิดบังศพทับอีกชั้น และ ด.ช.อ๊อด ขึ้นไปเหยียบซ้ำให้ศพจมลงน้ำ ก่อนที่ทั้งหมดจะพากันแยกย้ายหลบหนีไป จนกระทั่งมีผู้ไปพบศพ ด.ญ.แนน ลอยขึ้นอืด และตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเเหตุได้ทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังตำรวจแถลงข่าวการจับกุมเสร็จสิ้น ด.ช.อ๊อด ได้ยกมือไหว้ กราบขอขมามารดา ด.ญ.แนนที่ร่ำไห้ สอบถามผู้ต้องหากลับไปว่า “ทำได้อย่างไร ไม่นึกบ้างหรือว่าถ้าเป็นหนูถูกทำอย่างนี้บ้างจะรู้สึกอย่างไร”
ด้านญาติ ด.ญ.แนน ที่เดินทางมาด้วยกล่าวว่า รู้สึกพอใจที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด แต่ความจริงต้องการให้แก้กฎหมายให้มีบทลงโทษที่รุนแรงมากขึ้น เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นเยาวชน เมื่อถูกจับแล้วอาจจะถูกปล่อยตัวออกมาอีก อาจจะทำให้เด็กได้ใจมาตั้งแก๊งกระทำการในลักษณะดังกล่าวอีก และขอให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องแนนเป็นรายสุดท้ายที่ถูกกระทำเช่นนี้
พล.ต.ท.เอก กล่าวอีกครั้งว่า อยากให้ทางผู้ปกครองดูแลพฤติกรรมบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพราะผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยังเป็นเยาวชนทั้งหมด จะได้ไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา และร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน