xs
xsm
sm
md
lg

อ้างเป็นลูก ผจก.แบงก์กรุงเทพ ซิ่งเบนซ์ปาดหน้า-ชักมีดขู่แทงพ่อ “กวาง AB NORMAL”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


พ่อนักร้องหนุ่ม “กวาง AB NORMAL” ขับเบนซ์พาครอบครัวกลับบ้านหลังฉลองวันเกิดลูกชาย เจอหนุ่มขี้เมาซิ่งเบนซ์เปิดไฟสูงใส่-ตะโกนด่า ไม่หนำใจวกรถกลับมาตามปาดหน้าแถมชักมีดขู่แทง ก่อนที่หนุ่มกวางจะตามมาเจอแล้วจับส่งตำรวจ อ้างเป็นนักเรียนนอก ลูก ผจก.แบงก์บัวหลวง โดนฝั่งพ่อนักร้องคนดังด่าใส่ก่อน สุดท้ายตำรวจปล่อยตัวกลับบ้าน แต่ยังไม่วายซิ่งเบนซ์อีกคันไปชนเสาไฟฟ้ากลางถนน ตำรวจตามไปเจอกลับอาศัยทีเผลอวิ่งขึ้นแท็กซี่หนี สุดท้ายไปจนมุมที่ด่านตรวจ ต้องกลับมาโรงพักอีกรอบ

เมื่อเวลา 23.30 น.วานนี้ (14 ส.ค.) ขณะที่ พ.ต.ท.มงคล ภูวประภาชาติ รอง ผกก.สส.สน.ธรรมศาลา กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพักก็ได้มี นพ.เชษฐ์ โชติวิจิตร อายุ 54 ปี พ่อของนายศิริศิลป์ โชติวิจิตร อายุ 25 ปี หรือ “กวาง AB NORMAL” นักร้องชื่อดัง ควบคุมตัว นายธนัท บุญยะสาระนันท์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102/11 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงและเขตดินแดง มาส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแจ้งความว่าถูกนายธนัทขับรถไล่ตามแล้วปาดหน้า พร้อมทั้งพยายามจะใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกาย

โดย นพ.เชษฐ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองพร้อมครอบครัว คือภรรยา ลูกชาย ลูกสาว แฟนของลูกสาว และเพื่อนบ้าน ได้เดินทางไปกินข้าวฉลองวันเกิดของกวางที่ร้านอาหาร หลังจากกินข้าวเสร็จเดินทางกลับบ้านในหมู่บ้านกฤษฎานคร โครงการ 39 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา โดยตนเองขับรถเบนซ์ รุ่นอี 220 สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ศศ-3118 กทม.กลับมาพร้อมกับภรรยา ลูกสาว และแฟนของลูกสาว ส่วนกวางขับรถอีกคันตามหลังมา และโดยมีเพื่อนบ้านขับรถตามมาอีก 1 คัน

นพ.เชษฐ์ กล่าวต่อว่า ตนได้ขับรถเลี้ยวเข้าทางหมู่บ้านกฤษฎานครโครงการ 18 เพื่อจะตรงเข้าโครงการ 39 แต่เมื่อขับมาได้สักระยะก็มีรถเบนซ์รุ่นซีคลาส สีบรอนซ์เงิน เปิดไฟสูงขับสวนมา ตนจึงเปิดไฟสูงเตือนกลับไป แต่หลังจากนั้นคนขับรถคันดังกล่าวได้เปิดกระจกแล้วตะโกนด่าพ่อตน แต่ตนก็ไม่ได้สนใจเพราะเห็นว่าคนขับเป็นชายวัยรุ่น และน่าจะอยู่ในอาการมึนเมาสุราจึงขับรถต่อไป แต่หลังจากนั้นคนขับรถคันดังกล่าวก็ไปวกรถกลับมาแล้วขับรถปาดหน้ารถตนอีก 4-5 ครั้ง ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะขับรถแซงหน้ารถตนไปแล้วจะขวางลำกลางถนน

นพ.เชษฐ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นนายธนัทซึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่าวได้เดินลงมาจากรถพร้อมถืออาวุธมีดยาวประมาณ 6 นิ้ว ตรงเข้ามาพยายามจะทำร้ายตน ตนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบถอยรถออกทันที พร้อมโทร.เรียกกวางให้รีบขับรถตามมาหาตน เมื่อนายธนัทเห็นตนถอยรถหนีก็พยายามวิ่งไล่ตาม พร้อมกับขว้างมีดใส่แต่ไม่โดนรถตน ขณะนั้นเองรถของกวางและรถของเพื่อนบ้านก็ขับรถตามมาทัน เมื่อนายธนัทเห็นว่าฝั่งตนมีรถมาหลายคันจึงรีบวิ่งหนีขึ้นรถแล้วขับหายไปจนกระทั่งถูกกวางกับเพื่อนบ้านขับรถตามไปจนพบตัวแล้วพาตัวมาส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

จากการสอบปากคำนายธนัท ซึ่งอยู่ในสภาพมึนเมาให้การอ้างว่า ตนเองเป็นลูกชายของผู้จัดการธนาคารกรุงเทพสาขาใหญ่ และกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 ด้านการตลาด ที่รัฐนิวแฮมเชียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถพาแฟนสาวไปนั่งกินที่ร้านหมูกระทะเจ๊อี๊ด ในละแวกที่เกิดเหตุ เนื่องในโอกาสที่ครบรอบที่คบหากันมา โดยตนดื่มเบียร์ไป 2 แก้ว เมื่อกินเสร็จแล้วก็ขับรถไปส่งแฟนสาวที่บ้าน

“พอมาถึงจุดเกิดเหตุ รถของคู่กรณีก็เปิดไฟสูงใส่รถผม แล้วก็เปิดกระจกรถด่าผมก่อนว่า มองหน้าหาอะไร ตนจึงตะโกนกลับไปว่า กูไม่ได้มองหน้าอะไรเลย หลังจากนั้นผมก็หนีออกมาจน ถูกฝ่ายเขากรูกันเข้ามาคุมตัวส่งตำรวจ ถ้าตอนแรกเขาบอกผมว่าเขาเป็นเด็กแกรมมี่ ผมก็ไม่ทำอะไรหรอก น่าคุยกันได้เพราะผมรู้จักคนในนั้น ส่วนมีดเล่มนั้นผมเก็บไว้ในรถ ถ้าไม่จำเป็นไม่เอาออกมา แต่เขาไปค้นรถผมแล้ว ถ้าผมจะแทงเขาจริงๆ ผมไปแทงลับหลังไม่ดีกว่าหรือ ผมจะมาแทงต่อหน้าคนเยอะๆ ทำไม” นายธนัท กล่าวอ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับปล่อยตัวนายธนัทกลับบ้านไปก่อน เพราะเนื่องจากบริเวณจุดเกิดเหตุ เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจตรวจแอลกอฮอล์หรือปัสสาวะของนายธนัท โดยหลังจากนั้นนายธนัท ได้ขับรถเบนซ์ รุ่นอี 240 สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน วษ-9189 กทม.ซึ่งเป็นคนละคันกับที่ขับไปก่อเหตุที่หมู่บ้านกฤษฎานคร ออกจาก สน.ธรรมศาลา ไปทันที

ด้าน นายศิริศิลป์ หรือกวาง นักร้องหนุ่มชื่อดัง เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า หลังจากที่ตนขับรถตามมาถึงเกิดเหตุ ก็เห็นนายธนัท รีบวิ่งรถเบนซ์ขับหลบหนีไป จึงรีบขับรถตามไปเพื่อจะดูหมายเลขทะเบียนไว้ เพราะคิดว่าอย่างนายธนัทก็ไม่น่าจะขับออกจากหมู่บ้านไปได้ จนกระทั่งพบว่า นายธนัทขับรถเบนซ์ รุ่นซีคลาส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ชบ-2928 กทม.จอดดับเครื่องปิดไฟอยู่ในมุมมืดแห่งหนึ่งของหมู่บ้าน ตนจึงดับเครื่องปิดไฟรถเพื่อดักซุ่มรอให้นายธนัทขับรถออกมาจากบริเวณดังกล่าว

นายศิริศิลป์ กล่าวต่อว่า กระทั่งเวลาผ่านไปสักพัก นายธนัทก็ขับรถออกมาจากบริเวณดังกล่าว ตนจึงรีบขับรถออกไปดัก ทำให้นายธนัทตกใจรีบตีวงเลี้ยงรถหนี แต่ก็ไปไม่รอดเพราะ รถเกิดเสียหลักพุ่งไปเกยกับไหล่ทางจนไม่สามารถขับต่อไปได้ จากนั้นนายธนัทซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาก็ลงมาจากรถ พร้อมทั้งขอโทษและพยายามจะพูดจาไกล่เกลี่ยกับฝ่ายตนด้วยเงิน แต่ตนเห็นว่านายธนัทพยายามจะใช้อาวุธมีดทำร้ายพ่อของตน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องอันตราย ยอมความไม่ได้ จึงควบคุมตัวมาส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

“ถ้าตอนแรกเขาพูดดีๆ ก็ไม่น่าจะมีอะไร แต่เขาว่าหาพ่อผมลงไปหาเรื่องก่อน และพยายามจะใช้มีดทำร้ายพ่อผมด้วย ผมเลยยอมไม่ได้ อีกทั้งตัวเขาก็หลุดปากบอกผมมาว่าตัวเขาเมาทั้งโคเคน เมาทั้งยาไอซ์ แล้วดื่มเหล้าเข้าไปอีก ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตำรวจถึงปล่อยตัวออกไป” นักร้องหนุ่มคนดังกล่าว

ต่อมาเวลาประมาณ 01.30 น.วันนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรของ สน.ธรรมศาลา ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าส่องทางถนนพุทธมณฑล สาย 3 ฝั่งมุ่งหน้าตัดแยกศาลาธรรมสพน์ แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา จึงรุดไปตรวจสอบทันที เมื่อไปถึงก็พบรถเบนซ์ รุ่นอี 240 สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน วษ-9189 กทม.เสียหลักเกยอยู่บนเกาะกลางถนนชนเสาไฟฟ้าส่องทางตรงจุดกลับรถบนถนนดังกล่าว โดยสภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน

ขณะเดียวกันก็พบตัวนายธนัท คู่กรณีของ นพ.เชษฐ์ ที่เพิ่งจะออกมาจาก สน.ธรรมศาลา อยู่ในรถ จึงเชิญตัวออกมาจากรถ แต่นายธนัทได้อาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่เผลอเรียกรถแท็กซี่สีขาว-แดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงรีบแจ้งวิทยุสกัดจับรถแท็กซี่คันดังกล่าวทันที

หลังจากนั้น พ.ต.ท.ภพธร จิตต์หมั่น รอง ผกก.ป.สน.ธรรมศาลา ซึ่งนำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ ตั้งด่านตรวจอยู่บนถนนบรมราชชนนี ฝั่งขาเขา บริเวณหน้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา พบรถแท็กซี่ต้องสงสัยคันดังกล่าวจึงเรียกตรวจก็พบตัวนายธนัท จึงควบคุมตัวไว้ที่ด่านตรวจ โดยเบื้องต้นนายธนัทอ้างว่ารถเบนซ์อี 240 สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน วษ-9189 กทม.ที่ตนขับชนเสาไฟฟ้านั้นเป็นของพ่อตนเอง เป็นคนละคันกับที่ตนขับไปเจอกลุ่มของคู่กรณี ซึ่งหลังจากที่ขับออกมาจาก สน.ธรรมศาลา ก็รีบขับรถตรงกลับบ้านหาพ่อ แต่ตนขับมาเร็วมากจึงเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่ง ร.ต.ท.นิธิกร จันสิน พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน.ธรรมมศาลา ทำการสอบปากคำ

หลังสอบปากคำ ร.ต.ท.นิธิกร เปิดเผยว่า สำหรับคดีทำร้ายร่างกายนั้น นายธนัท ให้การปฏิเสธ ซึ่งถือว่าเป็นสิทธิ์ที่เจ้าตัวสามารถทำได้ ส่วนคดีขับรถพุ่งชนเสาไฟฟ้านั้นยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาอะไรกัยนายธนัท ต้องรอให้เจ้าของทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายเข้ามาแจ้งความเสียก่อน โดยหลังจากสอบปากคำเสร็จก็ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ พร้อมทั้งปล่อยตัวกลับไป

ร.ต.ท.นิธิกร กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ และตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดนั้น พ.ต.ท.มงคล ภูวประภาชาติ รอง ผกก.สส.สน.ธรรมศาลา ได้ทำการตรวจไปตั้งแต่ช่วงสอบปากคำคดีพยายามทำร้ายร่างกาย นพ.เชษฐ์แล้ว ต้องสอบถามผลการตรวจจาก พ.ต.ท.มงคล


โดนตำรวจตั้งด่านสกัดจับเอาไว้ได้ เลยต้องมานั่งเซ็งอยู่ที่ด่านตรวจ
กำลังโหลดความคิดเห็น