xs
xsm
sm
md
lg

ตระกูล “ตังทัตสวัสดิ์” ฟ้องแย่งสมบัติ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

“รัชนี ตังทัตสวัสดิ์” นักธุรกิจการโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์ เปิดฉากฟ้อง ลูก และหลาน ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง รวม 9 คน ฐานอมหุ้นมูลค่า 763 ล้านบาท เรียกสินสมรสคืน, เพิกถอนการโอนหุ้น และขอให้ศาลมีคำสั่งให้นิติกรรมเป็นโมฆะ

วันนี้ (10 ส.ค.) ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง สนามหลวง นางรัชนี ตังทัตสวัสดิ์ อายุ 88 ปี นักธุรกิจการโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์ เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.ต.น.พ.กำพล ตังทัตสวัสดิ์ อายุ 69 ปี อดีตแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ, นายสิงห์ ตังทัตสวัสดิ์ อายุ 65 ปี กรรมการผู้อำนวยการธนาคารกรุงเทพ อดีต ผู้จัดการและกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, นายอนันต์ ตังทัตสวัสดิ์ อายุ 57 ปี อดีตกรรมการผู้อำนวยการธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบุตรของ นางรัชนี เป็นจำเลยที่ 1-3 และฟ้องหลานๆ อีก 6 คน คือ น.ส.กุลวรา, น.ส.กุลธิรา, น.ส.วีริศา, นายจิรพล, น.ส.ลลิตา และ น.ส.ริรินดา ตังทัตสวัสดิ์ เป็นจำเลยที่ 4-9 เรื่องเรียกสินสมรสคืน, เพิกถอนการโอนหุ้น และขอให้ศาลมีคำสั่งให้นิติกรรมเป็นโมฆะ

ฟ้องโจทก์ระบุความผิดสรุปว่า โจทก์จดทะเบียนสมรสกับ นายกัญจน ตังทัตสวัสดิ์ เจ้าของโรงแรมแกรนด์เดอวิลล์ ย่านสะพานหัน และนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เขตพระนคร มีบุตรชายหญิงรวม 8 คน ซึ่ง 3 ใน 8 คน เป็นจำเลยในคดีนี้ โจทก์กับ นายกัญจน มีสินสมรสเป็นที่ดิน เงินสด และหุ้นในบริษัท กาญจนทัต จำกัด และบริษัทอื่นๆ รวม 11 รายการ มูลค่า 821.7 ล้านบาท และโจทก์กับ นายกัญจน ร่วมกันตั้งบริษัท กาญจนทัต จำกัด เมื่อปี 2514 มีทรัพย์สิน 3 รายการ รวมมูลค่า 1,171 ล้านบาท

ต่อมาวันที่ 11 ก.พ.2550 นายกัญจน ได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจขณะอายุ 92 ปี และศาลจังหวัดพระโขนง มีคำสั่งให้โจทก์เป็นผู้จัดการมรดก โดยโจทก์มีหน้าที่รวบรวมทรัพย์สินและแจกจ่ายมรดกแก่ทายาท จนเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2550 โจทก์เรียกประชุมทายาท และให้ส่งมอบสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท กาญจนทัต จึงทราบว่า เมื่อปี 2549 หุ้นของบริษัท กาญจนทัต ในส่วนที่เป็นสินสมรสของนายกัญจน กับโจทก์ ที่อยู่ในชื่อของนายกัญจน ได้ถูกโอนให้จำเลยที่ 1 ถึง 3 รวม 11,535 หุ้น อันเป็นการให้โดยเสน่หา มูลค่า 763 ล้านบาทเศษ คงเหลือให้โจทก์เพียง 505 หุ้น ทั้งๆ ที่หุ้นดังกล่าวเป็นสินสมรสของโจทก์กับผู้ตาย และการโอนหุ้นต้องได้รับความยินยอมจากโจทก์ก่อนตามกฎหมาย แต่โจทก์ไม่เคยให้ความยินยอมใดๆ จากนั้นจำเลยที่ 1 ถึง 3 ก็โอนหุ้นต่อให้จำเลยที่ 4 ถึง 9 ซึ่งเป็นหลานของโจทก์ ทำให้สินสมรสของโจทก์เหลือเพียง 58.2 ล้านบาท จากเดิมที่เคยมีถึง 821 ล้านบาท

โจทก์ในฐานะภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายจึงมีสิทธิเรียกสินสมรสคืน และมีสิทธิตามหน้าที่ของผู้จัดการมรดก โจทก์ไม่มีหนทางใดที่จะบังคับจำเลยได้ จึงนำคดีมาฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยทั้ง 9 โอนหุ้นมูลค่า 763,511,399 บาทคืนแก่โจทก์ด้วย ศาลรับฟ้องไว้ เป็นคดีดำที่ 1685/50 และนัดพิจารณาคดีวันที่ 9 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ด้าน นายพจน์ คมอนันต์ ทนายความโจทก์ เผยว่า นางรัชนี ต้องการเพียงทรัพย์สินของตนเองกลับคืนมาให้ถูกต้องเท่านั้น ตอนนี้ นางรัชนี ยังทำธุรกิจอยู่ โดยมี นายอนันต์ จำเลยที่ 3 เป็นคนดูแล แต่ต้องฟ้อง นายอนันต์ ด้วยก็เพราะเป็นผู้รับโอนหุ้น หากจำเลยยื่นคำให้การปฏิเสธคำฟ้องและฟ้องแย้งโจทก์ ก็เป็นสิทธิที่ทำได้ หรือหากมีการเสนอให้ไกล่เกลี่ยก็จะรับไว้พิจารณา


กำลังโหลดความคิดเห็น