xs
xsm
sm
md
lg

เปิดบันทึกสินบนยุบพรรค “พ-ช” นักวิ่งเต้น!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


เปิดบันทึก หนังสือแจ้งความร้องทุกข์ของ “วีระ สมความคิด” ให้ดำเนินคดีกับผู้วิ่งเต้นเพื่อติดสินบนตุลาการรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรค ปรากฏนาม “พินิจ สุเสารัจ และ พ.ต.อ.ชาญชัย เนติรัฐการ” ชัดเจน

วันนี้ (7 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ตามหนังสือร้องทุกข์ของ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น ที่ส่งถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รรท.ผบ.ตร.เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2550 เลขที่รับ 31489 โดยมี พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ เลขานุการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับเรื่อง ระบุว่า ข้าราชการตำรวจที่เป็นผู้วิ่งเต้นเสนอเงิน 30 ล้านบาท ให้กับ ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์ ตุลาการรัฐธรรมนูญ ในคดียุบพรรค เชื่อว่า คือ พ.ต.อ.ชาญชัย เนติรัฐการ อดีต ผกก.สภ.ต.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม เกษียณอายุราชการเมื่อปี 2548 และจบการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ.2509 ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม โดย นายวีระ ได้แนบทำเนียบรุ่น นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่น 2509 ฉบับล่าสุดจัดทำในปี 2546 โดยมีรูปของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อยู่ที่ปกหลังด้วย

ส่วนอีกรายซึ่งนายวีระอ้างถึงคำบอกเล่าของ นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่า นายสวัสดิ์ โชติพานิช ได้เรียกให้นายจรัญไปพบที่บ้านพัก พร้อมเล่าให้ฟังว่า นายสมชาย พงษธา ตุลาการรัฐธรรมนูญอีกคน ได้มาพบ และเล่าให้ฟังว่า นายสมชาย ถูกนายพินิจ สุเสารัจ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม มาวิ่งเต้นให้ช่วยเหลือคดียุบพรรค โดยเสนอผลประโยชน์เป็นเงิน 20 ล้านบาทนั้น หนังสือดังกล่าวของนายวีระ ที่มีไปถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ นั้น ปรากฏรายละเอียดดังนี้

เครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น
ที่ คปค.2550/079
22 มิถุนายน 2550
เรื่อง ขอให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดฐานให้สินบนเจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 167 และในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
เรียน รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
สิ่งที่ส่งมาด้วย 1.สำเนาภาพถ่ายเอกสารหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับที่ 10684 วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน 2550 จำนวน 1 แผ่น
2.สำเนาภาพถ่ายเอกสารหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับที่ 3881 วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน 2550 จำนวน 2 แผ่น
3.สำเนาภาพถ่ายเอกสารหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับที่ 10689 วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน 2550 จำนวน 1 แผ่น
4.สำเนาภาพถ่ายเอกสารหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับที่ 3883 วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน 2550 จำนวน 1 แผ่น
5.สำเนาภาพถ่ายเอกสารหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับที่ 10693 วันพุธที่ 20 มิถุนายน 2550 จำนวน 1 แผ่น
6.สำเนาเอกสารเสนอประธานศาลฎีกา ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 จำนวน 2 แผน
7.สำเนาเอกสารภาพถ่ายทำเนียบศิษย์เก่านิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ.2509 ฉบับล่าสุดจัดทำในปี 2546 จำนวน 3 แผ่น

ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนต่างๆ เกี่ยวกับกรณีที่มีผู้กระทำการวิ่งเต้นติดสินบนให้แก่ตุลาการรัฐธรรมนูญ ที่ทำการวินิจฉัยคดียุบพรรคเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 นั้น โดยมีข่าวปรากฏทางสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2550 ว่า “ในการปาฐกถาพิเศษเรื่อง “บทบาทของประชาชนต่อการมีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริตของหน่วยงานภาครัฐ” โดยนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ตอนหนึ่งมีข้อความว่า “แม้แต่ลูกของผมยังมีคำถามว่า ถ้าพ่อเก่งจริงดีจริง ทำไมจึงไม่รวย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เด็กสมัยนี้ มองคนที่ความรวย ไม่ใช่ความดี ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากคนพวกนี้ ที่เชื่อว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง เช่น นักการเมืองที่คิดว่า ทุกอย่างซื้อได้ จึงเอาเงินไล่ฟาดหัว อย่างคดีใหญ่ที่เพิ่งผ่านมา ก็มีการเอาเงินไล่ฟาด เพื่อให้เลี่ยงบทลงโทษตามกฎหมาย แต่ครั้งนี้ เจอคนที่ซื้อไม่ได้ ซึ่งคนพวกนี้ กลับไม่โทษตัวเองหรือคิดได้ แต่กลับโทษว่า คนที่เอาเงินไปซื้อนั้น ให้เงินน้อยไป เพราะไม่คิดถึงศีลธรรมใดๆ(รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1)

จากนั้นเป็นต้นมา ได้มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวออกมาอย่างต่อเนื่องถึงกรณีมีการติดสินบนให้กับตุลาการรัฐธรรมนูญบางคน เมื่อประมาณต้นเดือนมิถุนายน 2550 ข้าพเจ้าเป็นผู้หนึ่งที่รับทราบข้อมูลดังกล่าว พร้อมทั้งได้รับเอกสารเสนอประธานศาลฎีกา ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 จำนวน 2 แผ่น (รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 6) จากนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม โดย นายจรัญ ได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์ หนึ่งในตุลาการรัฐธรรมนูญ ที่ร่วมวินิจฉัยในคดียุบพรรค ได้เชิญ นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (อดีตประธานศาลฎีกา) นายอุดม เฟื่องฟุ้ง คณะกรรมการ คตส.(อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา) นายจิระนิติ หะวานันท์ คณะกรรมการ คตส.ไปพบเพื่อบอกเล่าถึงการที่ ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์ ถูกนายตำรวจผู้หนึ่งที่เป็นเพื่อนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรรมศาสตร์ รุ่นปี พ.ศ.2509 (เชื่อว่า คือ พ.ต.อ.ชาญชัย เนติรัฐการ) (รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 7) มาวิ่งเต้นกับท่านเกี่ยวกับคดีที่อยู่ในการวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญ มีการเสนอให้เงินจำนวน 30 ล้านบาท แต่ ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์ ได้ปฏิเสธไปอย่างสิ้นเชิง ในการบอกเล่าของ ม.ล.ไกรฤกษ์ ในครั้งนั้น ได้มีการมอบนามบัตรของนายตำรวจคนนั้นไว้ให้กับนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ด้วย กรณีดังกล่าวนี้ ต่อมาได้มีปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชน เช่น หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับที่ 3881 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน 2550 ว่า “แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช.เปิดเผยว่า หลักฐานที่นายจรัญนำมามอบให้ ป.ป.ช.ประกอบด้วย หนังสือบันทึกคำให้การของนายจรัฐที่เล่าว่า มีข้าราชการตำรวจนายหนึ่งที่เป็นนิติศาสตร์รุ่น 09 แต่ไม่มีการระบุชื่อว่าเป็นใคร มาวิ่งเต้นขอความช่วยเหลือในคดียุบพรรคจากตุลาการรัฐธรรมนูญ 2 คน โดยเสนอสินบนให้แก่ตุลาการรัฐธรรมนูญทั้ง 2 คน เป็นจำนวนคนละหลายสิบล้านบาท แต่ตุลาการรัฐธรรมนูญทั้งสองคนตอบปฏิเสธ 2.บันทึกของตุลาการรัฐธรรมนูญที่ทำเรื่องแจ้งให้ศาลยุติธรรมทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่นายจรัญนำมายื่นต่อ ป.ป.ช.ไม่มีหลักฐานที่ระบุว่า เป็นบันทึกเขียนด้วยลายมือของข้าราชการนิติศาสตร์รุ่น 09 ที่ทำถึงตุลาการรัฐธรรมนูญในการให้สินบนเรื่องคดียุบพรรค” (รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 3) แต่ขณะนั้น นายจรัญ ยังไม่ได้รับเอกสารดังกล่าว เพิ่งมาได้รับเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2550 ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้ ได้ถูกเปิดเผยเป็นข่าวทางสื่อมวลชน เช่น หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับที่ 3883 ประจำวันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน 2550ว่า “ยังมีรายงานว่า การล็อบบี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยข้าราชการระดับสูงผู้นี้ รับงานมาจากพรรคการเมืองหนึ่ง ช่วยล็อบบี้กับตุลาการฯไม่ให้ยุบพรรคของตน แต่ตุลาการฯ 2 คน ซึ่งยอมเปิดเผยเรื่องนี้ต่อนายจรัญไม่ได้รับข้อเสนอดังกล่าว และไม่แน่ใจว่า มีความพยายามติดสินบนตุลาการฯมากกว่า 2 คนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หนังสือดังกล่าว มีผู้ใหญ่ในวงการตุลาการเห็นมาแล้วหลายคน โดยเฉพาะนายชาญชัย” (รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 4)

และข่าวทางสื่อมวลชน เช่น หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับที่ 10693 ประจำวันพุธที่ 20 มิถุนายน 2550 ซึ่งลงข่าวว่า “นายสราวุธยังนำเอกสารหลักฐานที่นายจรัญส่งมอบให้สำนักประธานศาลฎีกา มี 2 แผ่น แผ่นที่ 1 เป็นเอกสารที่นายจรัญเขียนเป็นรายงานชี้แจงให้ทราบว่า ได้รับข้อมูลที่มีข้าราชการพยายามเสนอสินบนให้ตุลาการรัฐธรรมนูญ แต่นายจรัญไม่ระบุชื่อผู้เสนอสินบนว่าเป็นใคร และไม่ระบุชื่อตุลาการรัฐธรรมนูญที่ถูกเสนอให้สินบน ส่วนแผ่นที่ 2 เป็นบันทึกที่มีข้อความระบุถึงประธานตุลาการรัฐธรรมนูญและศาลรัฐธรรมนูญ ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 ปรากฏการลงลายมือชื่อ ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์ รองประธานศาลฎีกา หนึ่งในตุลาการรัฐธรรมนูญ เป็นผู้รับบันทึก โดยบันทึกดังกล่าว ระบุเป็นข้อความ 4 ข้อ ซึ่ง 1-3 เป็นการอ้างถึงกระบวนการพิจารณาของตุลาการรัฐธรรมนูญในการตัดสินยุบพรรคว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร ส่วนข้อที่ 4 อ้างถึงนิติศาสตร์ รุ่น 09 ว่า ภรรยาเป็นหนี้บุญคุณกับคุณหญิงอ้อ แต่ก็ไม่รู้ว่าอ้อไหน” (รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 5)

นอกจากนี้ นายจรัญ ยังเล่าให้ข้าพเจ้าฟังอีกว่า นายสวัสดิ์ โชติพานิช ได้เรียกนายจรัญไปพบที่บ้าน พร้อมเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการที่นายสมชาย ถูกนายพินิจ สุเสารัจ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม มาวิ่งเต้นให้ช่วยเหลือในคดียุบพรรค โดยเสนอผลประโยชน์เบื้องต้นเป็นเงินจำนวน 20 ล้านบาทก่อน หลังจากเสร็จสิ้นแล้ว จะให้อีก แต่ไม่ได้บอกจำนวนเงิน นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลยืนยันว่า ประมาณกลางปี 2549 เมื่อครั้งมีการพิจารณาคดีของคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายพินิจ สุเสารัจ ผู้นี้ ได้พยายามวิ่งเต้นเพื่อขอให้นายอำนวย ธันธรา อธิบดีศาลอาญาในขณะนั้นช่วยเหลือในคดี แต่นายอำนวยได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งต่อมา ได้ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชน เช่น หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับที่ 3881 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน 2550 ซึ่งลงข่าวว่า นายจรัญ ภักดีธนากุล ระบุว่า “คนให้สินบนเป็นข้าราชการระดับสูง ยังอยู่ในราชการ แต่ไม่ใช่เป็นข้าราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมของตน ที่ผ่านมาเคยพยายามวิ่งเต้นล้มคดีใหญ่มาแล้ว แต่ไม่สำเร็จ เช่น คดีที่อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถูกศาลอาญาพิพากษานั้น ข้าราชการคนนี้ ได้เคยพยายามติดสินบน แต่โชคดี อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาไม่ยอมวอกแวก หรือเอียงซ้ายเอียงขวา การตัดสินจึงผ่านมาได้อย่างตรงไปตรงมา คนคนนี้ เคยทำพฤติกรรมอย่างนี้มาแล้ว จนเป็นที่รู้จักกันดีในวงราชการ แต่ครั้งนี้ ยังกล้ามาทำอีก เราจะปล่อยไว้ไม่ได้ ยิ่งเป็นข้าราชการ เป็นคนระดับสูงในบ้านในเมือง ต้องมีการดำเนินการทางด้านวินัย อย่างน้อยต้องสอบกันดูว่า เรื่องนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร ไม่ใช่ปัดเข้าใต้พรมปล่อยให้มะเร็งตัวนี้งอกงามต่อไป” (รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2) นอกจากนี้ นายสวัสดิ์ โชติพานิช ที่ทราบเรื่องดังกล่าวนี้ แล้วยังมี นายจรัญ หัตถกรรม ตุลาการรัฐธรรมนูญ (และตุลากการศาลปกครองสูงสุด) ที่ทราบกรณีนี้ด้วย

ดังนั้น การกระทำดังกล่าวของนายพินิจ สุเสารัจ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และ พ.ต.อ.ชาญชัย เนติรัฐการ จึงเป็นควาามผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 167 ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ททรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด แก่เจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการ เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันใดอันมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท” สำหรับการกระทำผิดตามมาตราดังกล่าวนี้ ถึงแม้ นายสมชาย พงษธา และ ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์ ตุลาการรัฐธรรมนูญจะไม่ได้ลงมติตามที่ถูก นายพินิจ สุเสารัจ และ พ.ต.อ.ชาญชัย เนติรัฐการ ร้องขอ แต่ก็ถือว่าการกระทำดังกล่าวของ นายพินิจ สุเสารัจ และ พ.ต.อ.ชาญชัย เนติรัฐการ เป็นความผิดสำเร็จเสร็จสมบูรณ์แล้ว เมื่อมีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนแล้ว พนักงานสอบสวน ต้องรีบดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามกฎหมายโดยมิชักช้า สำหรับนายพินิจ สุเสารัจ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม นอกจากจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 167 แล้ว ยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 อีกด้วย

ข้าพเจ้า จึงขอร้องทุกข์กล่าวโทษมา เพื่อขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับ นายพินิจ สุเสารัจ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และ พ.ต.อ.ชาญชัย เนติรัฐการ ในความผิดดังกล่าวจนถึงที่สุด..........

“จรัญ” เชื่อลากคอ ขรก.วิ่งล็อบบี้คดียุบพรรคได้
ตร.จ่อหมายจับ “พ.ต.อ.” ติดสินบนยุบพรรค 30 ล้านพรุ่งนี้!
สั่งสอบวินัย บิ๊ก ขรก.ศาล เอี่ยวสินบนตุลาการ
ผลสอบ “สินบนตุลาการ” มีมูล พันบิ๊ก ขรก.ศาลวิ่งเต้นคดียุบพรรค
“วีระ” ให้ปากคำ-ยื่นหลักฐานคดีติดสินบนยุบพรรค
สินบน ตลก.ยุบพรรค ไม่คืบ!! ขยายเวลาสอบเพิ่ม อีก 15 วัน
เรียก “จรัล” สอบเพิ่มคดีติดสินบนตุลาการ
ยื่นชื่อ “พ.ต.อ.-คน ยธ.” ติดสินบนตุลาการให้ “เสรีพิศุทธ์” เชือด!
สินบนพ่นพิษ! “ไกรฤกษ์” แจ้ง ก.ต.พิจารณาการทำหน้าที่ “โฆษกศาล”
“ประมุขศาล” แจง ก.ต.ไม่มีสินบน! ขู่ “วีระ-จรัญ” ยื่นเท็จฟ้องกลับแน่
ปธ.ศาลฎีกาขอใบเสร็จ 2 บิ๊ก ขรก.ติดสินบนตุลาการ
“ประธานศาลฎีกา” กังวล! สั่งสอบภายในสินบนตุลาการ
กำลังโหลดความคิดเห็น