ขสมก. สาย 84 พุ่งชน รถพ่วง18 ล้อบรรทุกเสาเข็มอย่างแรงกลางคันขณะกลับรถ โชคดีที่ยังไม่ได้รับผู้โดยสาร แต่คนขับถูกอัดติดหน้ารถเจ็บสาหัสทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต ส่วนภรรยาที่เป็นกระเป๋ารถก็อาการสาหัส ตำรวจคาดคุยกันเพลินจนไม่เห็นรถพ่วง
วันนี้(14 ก.ค.) เมื่อเวลา 05.30น. ร.ต.ต.เปรม จันทโชติ ร้อยเวร สน.หลักสอง ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทางพุ่งชนรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกเสาเข็ม ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณ ถ.พุทธมณฑลสาย2 ระหว่างซอย 6 กับ8 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมสายตรวจจราจร และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ในที่เกิดเหตุพบรถพ่วง 18 ล้อบรรทุกเสาเข็มยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 80-5155 ปราจีนบุรี ของ บ.อิตาเลี่ยนไทย จอดขวางอยู่กลางถนนโดยมีรถโดยสารประจำทาง ขสมก. สาย 84 สีครีมแดง ทะเบียน 12-0106 กทม. หมายเลขข้างรถ 650398 วิ่งประจำเส้นทาง อ้อมใหญ่- คลองสาน สภาพรถประจำทางอัดติดอยู่กลางรถพ่วงจนเสาเข็มที่อยู่บนรถพ่วงหัก ภายในรถประจำทางมีผู้บาดเจ็บจำนวน 2 คน คือ น.ส.ศิริพร ดำดง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 185 แขวงบางยี่ขัน เขตธนบุรี กทม. เป็นกระเป๋ารถเมล์ ได้รับบาดเจ็บสาหัสเนื่องจากใบหน้ากระแทกพื้นรถ เจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.เกษมราษฎร์บางแค และอีกคนคือนายวินิจ บุญบุตร อายุ 42 ปี บ้านเลขที่เดียวกัน เป็นพนักงานขับรถและสามีของนางศิริพร ถูกอัดติดอยู่คาพวงมาลัย มีบาดแผลฉกรรจ์ที่บริเวณขาขวาจนเลือดไหลไม่หยุด ส่วนหน้าอกถูกกระทำกอย่างแรง เจ้าหน้าที่จึงรีบใช้เครื่องตัดถ่างงัดรถ และต่อเครื่องช่วยหายใจ พร้อมให้น้ำเกลือเนื่องจากผู้บาดเจ็บเสียเลือดมาก โดยต้องใช้เวลาประมาณ 40 นาที จึงช่วยเหลือออกมาได้และนำส่ง รพ.เกษมราษฎร์บางแค แต่นายวินิจ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ตำรวจสอบสวน นายโชคชัย สุริยะ อายุ 22 ปี คนขับรถพ่วงให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับมาจาก ถ.บรมราชชนนี แล้วเลี้ยวเข้ามาที่ ถ.พุทธมณฑลสาย 2 เพื่อจะนำเสาเข็มไปส่งที่โครงการขยายช่องทางเดินรถให้เป็น 8 ช่องทาง ใกล้กับที่เกิดเหตุ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้กลับรถเพื่อจะเข้าโครงการ จึงให้ภรรยาลงไปโบกรถให้สัญญาณรถที่วิ่งผ่าน ให้หยุด ซึ่งปกติรถส่วนใหญ่ก็จะหยุด แต่รถเมล์คันดังกล่าวซึ่งขับมาด้วยความเร็วสูงและไม่ได้เปิดไฟหน้า ได้พุ่งชนอย่างแรงจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
ด้าน นายปัญญา เฉยชิด อายุ 50 ปี ผู้จัดการอู่รถสาย 84 ให้การว่า คนที่อยู่ในรถประจำทางสาย 84 ที่เกิดอุบัติเหตุทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน โดยผู้ตายเข้ามาทำงานเป็นพนักงานขับรถประจำทางสาย 84 ตั้งแต่ปี 2543 ประวัติการทำงานตลอด 7 ปี ก็ไม่เคยมีปัญหามาก่อน อีกทั้งผู้ตายเป็นคนไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ จนกระทั่งปี 2548 ก็ได้พาภรรยามาสมัครเป็นกระเป๋ารถ ซึ่งทั้งคู่จะออกทำงานด้วยกันตลอด ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุทั้งคู่ได้มารับรถเวลา 05.00น. เพื่อขับรถไปอ้อมใหญ่รับผู้โดยสารเที่ยวแรก คาดว่าก่อนเกิดอุบัติเหตุทั้งคู่น่าจะคุยกันอยู่ จึงไม่ทันสังเกตรถพ่วงที่กำลังกลับรถ ประกอบกับบริเวณกลางรถพ่วงไม่มีสัญญาณไฟ เบื้องต้นทางบริษัทก็ได้ให้การช่วยเหลือโดยมีเงินในส่วนของฌาปนกิจของบริษัท ขสมก. และเงินทดแทนส่วนของพนักงานที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งเงินประกันชีวิตต่อไป
วันนี้(14 ก.ค.) เมื่อเวลา 05.30น. ร.ต.ต.เปรม จันทโชติ ร้อยเวร สน.หลักสอง ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทางพุ่งชนรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกเสาเข็ม ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณ ถ.พุทธมณฑลสาย2 ระหว่างซอย 6 กับ8 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมสายตรวจจราจร และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ในที่เกิดเหตุพบรถพ่วง 18 ล้อบรรทุกเสาเข็มยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 80-5155 ปราจีนบุรี ของ บ.อิตาเลี่ยนไทย จอดขวางอยู่กลางถนนโดยมีรถโดยสารประจำทาง ขสมก. สาย 84 สีครีมแดง ทะเบียน 12-0106 กทม. หมายเลขข้างรถ 650398 วิ่งประจำเส้นทาง อ้อมใหญ่- คลองสาน สภาพรถประจำทางอัดติดอยู่กลางรถพ่วงจนเสาเข็มที่อยู่บนรถพ่วงหัก ภายในรถประจำทางมีผู้บาดเจ็บจำนวน 2 คน คือ น.ส.ศิริพร ดำดง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 185 แขวงบางยี่ขัน เขตธนบุรี กทม. เป็นกระเป๋ารถเมล์ ได้รับบาดเจ็บสาหัสเนื่องจากใบหน้ากระแทกพื้นรถ เจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.เกษมราษฎร์บางแค และอีกคนคือนายวินิจ บุญบุตร อายุ 42 ปี บ้านเลขที่เดียวกัน เป็นพนักงานขับรถและสามีของนางศิริพร ถูกอัดติดอยู่คาพวงมาลัย มีบาดแผลฉกรรจ์ที่บริเวณขาขวาจนเลือดไหลไม่หยุด ส่วนหน้าอกถูกกระทำกอย่างแรง เจ้าหน้าที่จึงรีบใช้เครื่องตัดถ่างงัดรถ และต่อเครื่องช่วยหายใจ พร้อมให้น้ำเกลือเนื่องจากผู้บาดเจ็บเสียเลือดมาก โดยต้องใช้เวลาประมาณ 40 นาที จึงช่วยเหลือออกมาได้และนำส่ง รพ.เกษมราษฎร์บางแค แต่นายวินิจ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ตำรวจสอบสวน นายโชคชัย สุริยะ อายุ 22 ปี คนขับรถพ่วงให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับมาจาก ถ.บรมราชชนนี แล้วเลี้ยวเข้ามาที่ ถ.พุทธมณฑลสาย 2 เพื่อจะนำเสาเข็มไปส่งที่โครงการขยายช่องทางเดินรถให้เป็น 8 ช่องทาง ใกล้กับที่เกิดเหตุ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้กลับรถเพื่อจะเข้าโครงการ จึงให้ภรรยาลงไปโบกรถให้สัญญาณรถที่วิ่งผ่าน ให้หยุด ซึ่งปกติรถส่วนใหญ่ก็จะหยุด แต่รถเมล์คันดังกล่าวซึ่งขับมาด้วยความเร็วสูงและไม่ได้เปิดไฟหน้า ได้พุ่งชนอย่างแรงจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
ด้าน นายปัญญา เฉยชิด อายุ 50 ปี ผู้จัดการอู่รถสาย 84 ให้การว่า คนที่อยู่ในรถประจำทางสาย 84 ที่เกิดอุบัติเหตุทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน โดยผู้ตายเข้ามาทำงานเป็นพนักงานขับรถประจำทางสาย 84 ตั้งแต่ปี 2543 ประวัติการทำงานตลอด 7 ปี ก็ไม่เคยมีปัญหามาก่อน อีกทั้งผู้ตายเป็นคนไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ จนกระทั่งปี 2548 ก็ได้พาภรรยามาสมัครเป็นกระเป๋ารถ ซึ่งทั้งคู่จะออกทำงานด้วยกันตลอด ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุทั้งคู่ได้มารับรถเวลา 05.00น. เพื่อขับรถไปอ้อมใหญ่รับผู้โดยสารเที่ยวแรก คาดว่าก่อนเกิดอุบัติเหตุทั้งคู่น่าจะคุยกันอยู่ จึงไม่ทันสังเกตรถพ่วงที่กำลังกลับรถ ประกอบกับบริเวณกลางรถพ่วงไม่มีสัญญาณไฟ เบื้องต้นทางบริษัทก็ได้ให้การช่วยเหลือโดยมีเงินในส่วนของฌาปนกิจของบริษัท ขสมก. และเงินทดแทนส่วนของพนักงานที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งเงินประกันชีวิตต่อไป
