ตร.ชงเพิ่มตำแหน่งใหม่ สารวัตรสืบสวนปราบปราม 1,500 อัตราทั่วประเทศ พร้อมโละพนักงานสอบสวนตำรวจเด็กออกจาก 3 จว.ใต้
วันนี้ (13 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ต้องมาปรับแก้การทำงานของตำรวจในหลายด้านโดยเฉพาะจะเพิ่มพนักงานสอบสวนระดับ สบ.2 เทียบเท่าสารวัตร และ สบ.3 รองผกก. เข้าไปประจำสถานีตำรวจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากพบว่าพบว่า 98% ของพนักงานสอบสวน สภ.ในพื้นที่เป็นพนักงานสอบสวน (สบ.1) เทียบเท่ารองสารวัตร ซึ่งขาดประสบการณ์ ขณะที่พนักงานสอบสวน สบ.2 และ สบ.3 ประจำอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ และสภ.ใน จ.สงขลา ทำให้เมื่อเกิดระเบิด หรือเหตุปะทะพนักงานงานสอบสวน สบ.1 ซึ่งยังเด็กอยู่ไม่สามารถทำงานได้ จึงต้องมีการปรับเกลี่ยกำลังจากสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ให้ได้
“สัดส่วนที่เหมาะสม ทำงานได้ โดยได้สั่งการให้ บช.ภ.9 ไปสำรวจแล้ว ถือเป็นเรื่องต้องเร่งดำเนินการ ซึ่งผมสามารถออกคำสั่งแต่งตั้งได้ทันที ขณะเดียวกันก็สั่งการให้ตรวจสอบพนักงาสอบสวนทั่วประเทศด้วย ว่าที่แต่งตั้งพนักงานสอบสวนลงไป ปัจจุบันนั้นเป็นอย่างไร เพราะที่ผ่านมาเป็นอำนาจผู้บัญชาการภาคในการแต่งตั้ง ก็ไม่รู้ว่าทำไปเหมาะสมหรือไม่” รรท.ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ตร.ยังมีความจำเป็นต้องเพิ่มตำแหน่งสารวัตรสืบสวนปราบปรามอาชญากรรม บรรจุในสถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่อให้สอดรับกับการแบ่งานระดับ ตร. ที่มีรอง ผบ.ตร.ฝ่ายสืบสวนปราบปราม โดยสารวัตรสืบสวนปราบปรามเป็นตำแหน่งใหม่ที่ทำหน้าสืบสวนปราบปรามการทำผิดตาม พ.ร.บ.ต่างๆ เช่นคดีทางเพศ คดีความมั่นคง ส่วนสารวัตรสืบสวนสอบสวนเดิมที่มีอยู่แล้วก็จะรับผิดชอบในการสืบสวนสอบสวนคดีอาญา ลัก วิ่ง ชิงปล้น ส่วนสารวัตรปราบปรามก็ยังมีอยู่ มีหน้าที่ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งงานจะไม่ซ้ำซ้อนกัน มีการแบ่งงานกันชัดเจนสามารถช่วยการทำงานในโรงพักได้ดียิ่งขึ้น
รรท.ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังจะเสนอยกฐานะหัวหน้าสถานีที่เดิมมีรองสารวัตรเป็นหัวหน้าสถานี ให้มีระดับสารวัตรมาเป็นหัวหน้าสถานีแทน เชื่อจะได้ทำงานได้ดีขึ้น ทั้งนี้เมื่อรวมกับตำแหน่งสารวัตรสืบสวนปราบปรามประจำใน 1,447 สถานีตำรวจทั่วประเทศแล้ว จะเสนอต่อคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในการประชุมครั้งหน้า เพื่ออนุมัติตำแหน่งสารวัตรใหม่รวมประมาณ 1,500 ตำแหน่ง ขณะที่จะเสนอเปลี่ยนชื่อสถานีตำรวจภูธรอำเภอ (สภ.อ.) และสภ.ต.ใหม่ โดยตัดคำว่าอำเภอ และตำบลออกเป็นสถานีตำรวจภูธรเฉยๆ และหลังจากนี้จะมีการพิจารณาตั้งสถานีตำรวจเพิ่มใหม่เพื่อให้รองรับกับสภาพพื้นที่และปริมาณงานต่อไป