เหยื่อลูกอดีตนางสาวไทย เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ตำรวจทองหล่อเตรียมแจ้งข้อหาหนัก ฆ่าคนตาย ขณะที่ผู้ก่อเหตุยังคงรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมิติเวชจากเหตุถูกรุมประชาทัณฑ์ ขณะที่ลูกผู้เสียชีวิตวอนตำรวจให้ความเป็นธรรม และไม่รู้ว่าจะดำเนินชีวิตไปอย่างไร เพราะอยู่กับแม่มาตั้งแต่เด็ก ส่วนพ่อได้หย่าร้างกับแม่ตั้งแต่ยังเล็ก
วันนี้ (5 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุ นายกัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ อายุ 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ลูกชายนางสาวิณี ปัจฉิมสวัสดิ์ อดีตนางสาวไทยปี 2527 และอดีตดารานักแสดงรุ่นเก่า ก่อเหตุขับรถเบนซ์พุ่งชนผู้โดยสารรถเมล์สาย 513 ระหว่างรอเปลี่ยนรถ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 คน และเจ็บเล็กน้อยอีกกว่า 10 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา บริเวณปากซอยสุขุมวิท 26 ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งจากญาติของนางสายชล หลวงแสง อายุ 42 ปี หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสซึ่งถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ว่านางสายชลได้เสียชีวิตลงแล้ว
ส่วนที่ สน.ทองหล่อ น.ส.สุชีรา อินทร์สุวรรณ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/50 ซ.16 (เจริญ 1) ถ.อมรเดช ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ลูกของผู้ตาย พร้อมญาติ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ญาณวุฒิ เลี่ยมแก้ว พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่นางสายชล หลวงแสง อายุ 42 ปี มารดา ซึ่งเป็นพนักงานการเงินของ ขสมก.ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
น.ส.สุชีรา กล่าวว่า ตนได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำเอกสารไปรับศพมารดาที่นิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์
“เหตุการณ์ดังกล่าวทราบจากเพื่อนของแม่ซึ่งเดินทางไปกับแม่ในวันเกิดเหตุเพื่อไปธุระ ในช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่มครึ่งว่า แม่ถูกรถชนได้รับบาดเจ็บจึงเดินทางไปที่ รพ.จุฬาฯ ตอนแรกไม่คิดว่าจะเสียชีวิต แต่หลังจากเดินทางไป รพ.ทราบจากแพทย์ว่าแม่อาการหนักและบอกว่าให้ทำใจ ตอนนั้นแม่ไม่ได้สติเลย จนกระทั่งเวลาประมาณตี 1 แม่ก็เสียชีวิต โดยแพทย์แจ้งว่าสาเหตุจากรถทับบริเวณหน้าอก และลำตัว ทำให้ซี่โครงหักและไปทิ่มอวัยวะภายใน กระดูกเชิงกรานแตกละเอียด ถึงกับช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะไม่คิดว่าจะรุนแรงขนาดนี้ หลังจากนั้นได้ปรึกษากับพี่น้องและญาติของแม่ จากนั้นก็เดินทางมาที่ สน.โดยจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด” น.ส.สุชีรา กล่าว
น.ส.สุชีรา กล่าวต่อว่า จะนำศพแม่ไปจัดพิธีทางศาสนาที่วัดทองคง อ.ปากน้ำ จ.สมุทรปราการ กำหนดสวดพระอภิธรรมศพ 7 วัน จากนั้นจะนำศพแม่มอบให้กับสภากาชาดไทย เนื่องจากแม่ให้มอบร่างกายให้เป็นประโยชน์ ส่วนเรื่องคดีนั้นต้องว่ากันไป เนื่องจากทราบว่านายกัณฑ์พิทักษ์จงใจขับรถชน ทั้งๆ ที่แม่ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทะเลาะวิวาทระหว่างคนขับรถและนายกัณฑ์พิทักษ์แต่อย่างใด ดังนั้น จึงอยากจะขอความเป็นธรรมต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งขณะนี้ตนไม่รู้ว่าจะดำเนินชีวิตไปอย่างไร เพราะอยู่กับแม่มาตั้งแต่เด็ก ส่วนพ่อได้หย่าร้างกับแม่ตั้งแต่ตนยังเล็กแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า เบื้องต้นแเจ้งข้อหากับนายกัณฑ์พิทักษ์ 2 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บ และขับรถโดยประมาท อย่างไรก็ตามจะสอบปากคำเพิ่มเติมจากผู้บาดเจ็บและผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย หลังจากสอบปากคำแล้วจะเข้าข่ายข้อหาใดอีกก็เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติม หลังจากที่มีคนตายในข้อหาพยายามฆ่าและฆ่าคนตาย โดยวันนี้เวลา 11.00 น.จะรายงานให้ ผบช.น.ทราบด้วย ส่วนนายกัณฑ์พิทักษ์ทราบว่ายังบาดเจ็บอยู่ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท โดยได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สุนทร โตรอด รอง ผกก.สส.ไปสอบสวน ดำเนินคดี และแจ้งให้ญาติของนายกัณฑ์พิทักษ์ว่ามีคนตายเพื่อเข้าไปช่วยเหลือ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติการรักษาตัวของนายกัณฑ์พิทักษ์ พบว่า เคยเข้ารับการรักษาอาการทางสมองที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าหลังจากที่นายกัณฑ์พิทักษ์ถูกรถประจำทางเฉี่ยวชนเกิดอาการเครียดจนทำให้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ด.ต.นุกูล เดชพันธ์ ผบ.ม.จร.สน.ทองหล่อ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์กล่าว่า ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณป้อมจราจร สุขุมวิท 26 นายกัณฑ์พิทักษ์ขับรถเบนซ์มาแจ้งว่าถูกรถประจำทางเฉี่ยวชน และชี้ไปที่รถเมล์คันดังกล่าว ตนจึงโบกรถเมล์ให้จอด จากนั้นคนขับรถเมล์ได้ลงมา ระหว่างนั้นตนได้เดินไปดูจุดที่รถเฉี่ยว พอหันมาอีกครั้งทั้งสองคนก็เกิดการชกต่อยกันขึ้นจึงเข้าไปห้ามและบอกว่าทำไมต้องชกต่อยกันด้วย ระหว่างนั้นตนจะไปกดไฟเขียว ไฟแดง เห็นนายกัณฑ์พิทักษ์เดินไปขึ้นรถเบนซ์แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายสถาพร อรุณศิริ อายุ 37 ปี คนขับรถเมล์กล่าวว่า ขณะรถจอดติดไฟแดงบริเวณซอยนานา นายกัณฑ์พิทักษ์มาเคาะกระจกรถเมื่อตนเปิดหน้าต่างถามว่ามีอะไร นายกัณฑ์พิทักษ์ บอกว่า “คุณเกี่ยวรถผม” ตนจึงบอกไปว่าจะเกี่ยวได้อย่างไรในเมื่อขับรถตามกันมาตลอด จากนั้นนายกัณฑ์พิทักษ์เดินกลับไปที่รถ แต่เมื่อรถขับมาถึงแยกอารีย์ ตรงข้ามซอยสุขุมวิท 26 ก็มีตำรวจโบกให้หยุด เมื่อลงจากรถก็ถูกนายกัณฑ์พิทักษ์หยิบก้อนหินมาต่อยที่ใบหน้าเป็นแผลแตกเลือดอาบ ก่อนที่กลับไปขึ้นรถเบนซ์ขับออกไป และมีพลเมืองดีช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล
นางรัชนี แซ่จิว อายุ 58 ปี กล่าวว่า กระเป๋ารถเมล์บอกให้ผู้โดยสารยืนรอที่ฟุตปาธเพื่อเปลี่ยนรถ จากนั้นไม่ถึง 5 นาที คนขับรถเบนซ์ที่จอดอยู่ท้ายรถเมล์ได้ขับขึ้นมาพุ่งชนผู้โดยสารที่ยืนอยู่บนฟุตปาธจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และคนขับรถเบนซ์ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
ลูกชายอดีตนางสาวไทย ต่อยคนขับรถเมล์-ตะบึงเบนซ์ชนคนเจ็บอื้อ
วันนี้ (5 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุ นายกัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ อายุ 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ลูกชายนางสาวิณี ปัจฉิมสวัสดิ์ อดีตนางสาวไทยปี 2527 และอดีตดารานักแสดงรุ่นเก่า ก่อเหตุขับรถเบนซ์พุ่งชนผู้โดยสารรถเมล์สาย 513 ระหว่างรอเปลี่ยนรถ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 คน และเจ็บเล็กน้อยอีกกว่า 10 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา บริเวณปากซอยสุขุมวิท 26 ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งจากญาติของนางสายชล หลวงแสง อายุ 42 ปี หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสซึ่งถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ว่านางสายชลได้เสียชีวิตลงแล้ว
ส่วนที่ สน.ทองหล่อ น.ส.สุชีรา อินทร์สุวรรณ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/50 ซ.16 (เจริญ 1) ถ.อมรเดช ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ลูกของผู้ตาย พร้อมญาติ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ญาณวุฒิ เลี่ยมแก้ว พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่นางสายชล หลวงแสง อายุ 42 ปี มารดา ซึ่งเป็นพนักงานการเงินของ ขสมก.ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
น.ส.สุชีรา กล่าวว่า ตนได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำเอกสารไปรับศพมารดาที่นิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์
“เหตุการณ์ดังกล่าวทราบจากเพื่อนของแม่ซึ่งเดินทางไปกับแม่ในวันเกิดเหตุเพื่อไปธุระ ในช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่มครึ่งว่า แม่ถูกรถชนได้รับบาดเจ็บจึงเดินทางไปที่ รพ.จุฬาฯ ตอนแรกไม่คิดว่าจะเสียชีวิต แต่หลังจากเดินทางไป รพ.ทราบจากแพทย์ว่าแม่อาการหนักและบอกว่าให้ทำใจ ตอนนั้นแม่ไม่ได้สติเลย จนกระทั่งเวลาประมาณตี 1 แม่ก็เสียชีวิต โดยแพทย์แจ้งว่าสาเหตุจากรถทับบริเวณหน้าอก และลำตัว ทำให้ซี่โครงหักและไปทิ่มอวัยวะภายใน กระดูกเชิงกรานแตกละเอียด ถึงกับช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะไม่คิดว่าจะรุนแรงขนาดนี้ หลังจากนั้นได้ปรึกษากับพี่น้องและญาติของแม่ จากนั้นก็เดินทางมาที่ สน.โดยจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด” น.ส.สุชีรา กล่าว
น.ส.สุชีรา กล่าวต่อว่า จะนำศพแม่ไปจัดพิธีทางศาสนาที่วัดทองคง อ.ปากน้ำ จ.สมุทรปราการ กำหนดสวดพระอภิธรรมศพ 7 วัน จากนั้นจะนำศพแม่มอบให้กับสภากาชาดไทย เนื่องจากแม่ให้มอบร่างกายให้เป็นประโยชน์ ส่วนเรื่องคดีนั้นต้องว่ากันไป เนื่องจากทราบว่านายกัณฑ์พิทักษ์จงใจขับรถชน ทั้งๆ ที่แม่ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทะเลาะวิวาทระหว่างคนขับรถและนายกัณฑ์พิทักษ์แต่อย่างใด ดังนั้น จึงอยากจะขอความเป็นธรรมต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งขณะนี้ตนไม่รู้ว่าจะดำเนินชีวิตไปอย่างไร เพราะอยู่กับแม่มาตั้งแต่เด็ก ส่วนพ่อได้หย่าร้างกับแม่ตั้งแต่ตนยังเล็กแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า เบื้องต้นแเจ้งข้อหากับนายกัณฑ์พิทักษ์ 2 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บ และขับรถโดยประมาท อย่างไรก็ตามจะสอบปากคำเพิ่มเติมจากผู้บาดเจ็บและผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย หลังจากสอบปากคำแล้วจะเข้าข่ายข้อหาใดอีกก็เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติม หลังจากที่มีคนตายในข้อหาพยายามฆ่าและฆ่าคนตาย โดยวันนี้เวลา 11.00 น.จะรายงานให้ ผบช.น.ทราบด้วย ส่วนนายกัณฑ์พิทักษ์ทราบว่ายังบาดเจ็บอยู่ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท โดยได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สุนทร โตรอด รอง ผกก.สส.ไปสอบสวน ดำเนินคดี และแจ้งให้ญาติของนายกัณฑ์พิทักษ์ว่ามีคนตายเพื่อเข้าไปช่วยเหลือ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติการรักษาตัวของนายกัณฑ์พิทักษ์ พบว่า เคยเข้ารับการรักษาอาการทางสมองที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าหลังจากที่นายกัณฑ์พิทักษ์ถูกรถประจำทางเฉี่ยวชนเกิดอาการเครียดจนทำให้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ด.ต.นุกูล เดชพันธ์ ผบ.ม.จร.สน.ทองหล่อ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์กล่าว่า ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณป้อมจราจร สุขุมวิท 26 นายกัณฑ์พิทักษ์ขับรถเบนซ์มาแจ้งว่าถูกรถประจำทางเฉี่ยวชน และชี้ไปที่รถเมล์คันดังกล่าว ตนจึงโบกรถเมล์ให้จอด จากนั้นคนขับรถเมล์ได้ลงมา ระหว่างนั้นตนได้เดินไปดูจุดที่รถเฉี่ยว พอหันมาอีกครั้งทั้งสองคนก็เกิดการชกต่อยกันขึ้นจึงเข้าไปห้ามและบอกว่าทำไมต้องชกต่อยกันด้วย ระหว่างนั้นตนจะไปกดไฟเขียว ไฟแดง เห็นนายกัณฑ์พิทักษ์เดินไปขึ้นรถเบนซ์แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายสถาพร อรุณศิริ อายุ 37 ปี คนขับรถเมล์กล่าวว่า ขณะรถจอดติดไฟแดงบริเวณซอยนานา นายกัณฑ์พิทักษ์มาเคาะกระจกรถเมื่อตนเปิดหน้าต่างถามว่ามีอะไร นายกัณฑ์พิทักษ์ บอกว่า “คุณเกี่ยวรถผม” ตนจึงบอกไปว่าจะเกี่ยวได้อย่างไรในเมื่อขับรถตามกันมาตลอด จากนั้นนายกัณฑ์พิทักษ์เดินกลับไปที่รถ แต่เมื่อรถขับมาถึงแยกอารีย์ ตรงข้ามซอยสุขุมวิท 26 ก็มีตำรวจโบกให้หยุด เมื่อลงจากรถก็ถูกนายกัณฑ์พิทักษ์หยิบก้อนหินมาต่อยที่ใบหน้าเป็นแผลแตกเลือดอาบ ก่อนที่กลับไปขึ้นรถเบนซ์ขับออกไป และมีพลเมืองดีช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล
นางรัชนี แซ่จิว อายุ 58 ปี กล่าวว่า กระเป๋ารถเมล์บอกให้ผู้โดยสารยืนรอที่ฟุตปาธเพื่อเปลี่ยนรถ จากนั้นไม่ถึง 5 นาที คนขับรถเบนซ์ที่จอดอยู่ท้ายรถเมล์ได้ขับขึ้นมาพุ่งชนผู้โดยสารที่ยืนอยู่บนฟุตปาธจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และคนขับรถเบนซ์ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
ลูกชายอดีตนางสาวไทย ต่อยคนขับรถเมล์-ตะบึงเบนซ์ชนคนเจ็บอื้อ
