ตำรวจ ปศท.ผนึกกำลังกรมทรัพย์สินทางปัญญา นำหมายศาลอาญากรุงเทพใต้ ตรวจค้นบริษัทมิลเลี่ยน ซิลเวอร์ โกลด์ หรือบริษัท 307 กรุ๊ป จำกัด ในอาคารโบ๊เบ๊พลาซ่าอพาร์ทเมนต์ ยึดเครื่องปั๊มซีดีเถื่อนมูลค่าร่วม 100 ล้าน
วันนี้ (20 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธีระจิตร์ อุตมะ ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปศท.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ปศท.นายบรรยง ลิ้มประยูรวงศ์ รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา และเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา นำหมายศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 271/2550 ลงวันที่ 20 มิ.ย. เข้าตรวจค้นบริษัท มิลเลี่ยน ซิลเวอร์ โกลด์ หรือบริษัท 307 กรุ๊ป จำกัด เลขที่ 307 ซอยถนนพระราม 6 ซอย 15 (ซอยวัดบรมนิวาส) ถนนพระราม 6 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. หลังจากสืบทราบว่าลักลอบผลิตซีดีละเมิดลิขสิทธิ์
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารโบ๊เบ๊พลาซ่าอพาร์ทเมนต์ให้เช่า สูง 4 ชั้น ด้านล่างข้างในเป็นพื้นที่ให้เช่าเปิดเป็นบริษัท 307 กรุ๊ป ผลิตซีดี กว้างประมาณ 70 ตารางเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเครื่องจักรปั๊มแผ่นซีดีขนาดใหญ่จำนวน 3 เครื่อง ประกอบด้วย เครื่องจักรผลิตซีดี 1 เครื่อง ยี่ห้อ Diseyet.600 เครื่องผลิตและเครื่องป้อนข้อมูล จำนวน 1 เครื่อง เครื่องสกรีนแผ่นซีดี ยี่ห้อ HANKY นอกจากนี้ยังพบเครื่องดูดเมล็ดพลาสติกสำหรับผลิตแผ่นซีดี จำนวน 1 เครื่อง เม็ดพลาสติกสำหรับผลิตแผ่นซีดี 1 ถุงใหญ่ ซีดีลามกอนาจารที่ผลิตเสร็จแล้วอีกประมาณ 20,000 แผ่น โดยมีนายณรงค์เดช เพ้ยจันทึก อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/1 ม.14 ต.วังโรงใหญ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา และนายวัชระ แซ่ตั้ง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ม.10 ต.ปอภาร อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด เป็นผู้ควบคุมเครื่องทั้งหมดอยู่
จากการสอบสวน นายณรงค์เดชให้การรับสารภาพว่ามีเพื่อนแนะนำให้มาทำงานที่บริษัทดังกล่าวมาแล้ว 5 เดือน โดยได้ค่าจ้างวันละ 200 บาท ทำงานตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.ซึ่งจะเป็นคนคอยควบคุมเครื่องสกรีนแผ่นซีดี จากนั้นจะนำไปแพกใส่ถุงพลาสติกและใส่กล่องเพื่อรอคนมารับไปจำหน่าย ส่วนมากจะเป็นซีดีลามก และซีดีการ์ตูนเรดอาร์ โดยจะผลิตตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งมา วันหนึ่งจะผลิตประมาณ 3,000 แผ่น โดยจะทำงานร่วมกับเพื่อนอีกคนหนึ่งคือนายวัชระ ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมเครื่องฉีดแผ่นป้อนข้อมูลลงแผ่น โดยได้ค่าจ้างเท่ากัน ส่วนเจ้าของบริษัทพวกตนไม่ทราบว่าเป็นใคร
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ เปิดเผยว่า การตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนเฝ้าติดตามบริษัทดังกล่าวมาแล้วประมาณ 2 เดือน จนกระทั่งทราบว่ามีการกระทำผิดจริงจึงได้ขออนุมัติหมายค้นและนำกำลังเข้าตรวจค้นซึ่งจากการตรวจค้นพบเครื่องปั๊มขนาดใหญ่ซึ่งนำเข้ามาจากต่างประเทศมูลค่า 100 กว่าล้านบาท โดยบริษัทดังกล่าวแจ้งขออนุญาตผลิตซีดีและดีวีดีกับทางกรมทรัพย์สินทางปัญญา แต่ปรากฏว่าบริษัทดังกล่าวได้มีการดัดแปลงหมายเลขเครื่องผลิตและผลิตซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ รวมทั้งผลิตซีดีลามกอนาจารอีกด้วย
ผบก.ปศท.กล่าวอีกว่า ส่วนขั้นตอนการผลิตจะนำเมล็ดพลาสติกใส่เครื่องดูดเม็ดพลาสติกเพื่อส่งต่อไปตามท่อและปั๊มเป็นแผ่นซีดีก่อนจะป้อนข้อมูลใส่แผ่น จากนั้นจะส่งไปยังเครื่องสกรีนเพื่อลงสี ซึ่งการผลิตดังกล่าวเครื่องสามารถมีพลังผลิตได้ 40,000-50,000 แผ่นต่อ 1 วัน ซึ่งทางบริษัทจะผลิตตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งมา ส่วนเจ้าของบริษัทยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นผู้ใด เบื้องต้นการผลิตดังกล่าวมีความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ และ พ.ร.บ.กรมทรัพย์สินทางปัญญา ข้อหาผลิตซีดีภาพยนตร์ เพลง ละเมิดลิขสิทธิ์ ผลิตซีดีลามกอนาจาร และดัดแปลงเครื่องผลิต
นายบรรยง กล่าวว่า บริษัทดังกล่าวได้แจ้งครอบครองเครื่องในวันที่ 26 ก.ย.2548 จากนั้นได้มาแจ้งการผลิตในวันที่ 30 ต.ค.2548 โดยทางกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ออกหมายเลขโค๊ดให้ทางบริษัท DIP-0003-A ของโรงงานจะปั๊มแผ่นแล้วจะมีโค้ดดังกล่าวแสดงบนแผ่นซึ่งจะได้ทราบที่มาของแผ่นว่าผลิตมาจากบริษัทใด แต่ทางบริษัทได้ดัดแปลงเครื่องและไม่ปั๊มหมายเลขโค้ดดังกล่าวลงไปในแผ่นที่ผลิตซึ่งเชื่อได้ว่าต้องเป็นแผ่นที่ละเมิดลิขสิทธิ์อย่างแน่นอนทางบริษัทจึงไม่ใส่โค้ดลงไปยังแผ่นซีดีเพื่อไม่ให้ทราบที่มา แต่อย่างไรก็ตาม แผ่นซีดีนั้นเราสามารถตรวจสอบได้ว่ามาจากบริษัทใดโดยใช้วิธีการทางนิติวิทยาศาสตร์ในการตรวจ