ศาลอาญาพิพากษาจำคุก เสธ.แดง 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา คดีกล่าวหา เสรีพิศุทธ์ เป็น “ไอ้โม่ง” เกี่ยวข้องบ่อนลอยฟ้าเจ้าตัวใช้ตำแหน่งยื่นประกัน เตรียมยื่น อุทธรณ์ใน 30 วัน เผยอดีตทนายคู่ใจ“สุกิจ พูนศรีเกษม” ถูกถอนใบอนุญาติว่าความแล้ว
วันนี้( 19 มิ.ย.)ที่ห้องพิจารณา 812 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.1491/2549 ที่ พล.ต.อ เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษา ผบ.ตร. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 20 - 21 ก.พ.49 พล.ต.ขัตติยะ ให้สัมภาษณ์พาดพิงโจทก์ ว่า ในการปฏิบัติหน้าที่จับบ่อน พนัน ปอ ประตู น้ำ เพื่อหวังสร้างผลงานเพื่อให้ได้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. และพยายาม ที่จะสนับสนุนให้ พล.ต.ท. ถาวรศักดิ์ เทพชาตรี ผู้บัญชาการประจำ สนง.ผบ.ตร. พี่ชายภรรยา ได้เป็น ผบช.น. แทน พล.ต.อ.วิโรจน์ จันทรังษี ต่อมาวันที่ 25 เม.ย.50 โจทก์ได้ถอนฟ้องจำเลยที่ 2
ศาลพิเคราะห์แล้วคดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลย กระทำผิดตามฟ้องโจทก์หรือไม่ ในชั้นพิจารณาโจทก์ นำสืบว่า เมื่อวันที่ 20 ก.พ.49 จำเลย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงการปฏิบัติหน้าที่ของโจทก์ โดยสาเหตุที่จำเลยออกมาให้สัมภาษณ์ดังกล่าว เนื่องมาจากเมื่อวันที่ 1 ก.พ.49 พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี ขณะนั้นมีคำสั่งแต่งตั้ง ให้โจทก์เป็นประธานอนุกรรมการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ต่อมาโจทก์ได้ตั้งชุดเฉพาะกิจปราบปรามผู้มีอิทธิพลและอบายมุข ก่อนทำการจับกุมบ่อนการพนัน ปอ ประตูน้ำ โดย นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 21 ก.พ.49 ได้ตีพิมพ์ข้อความว่า “ เรื่องนี้มองออกว่า การที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกมาสร้างผลงาน โจมตีตำรวจนครบาล เพื่อหวังเป็น ผบ.ตร. และดัน พล.ต.ท. ถาวรศักดิ์ เทพชาตรี ผู้บัญชาการประจำ สนง.ผบ.ตร. พี่ชายภรรยา ได้เป็น ผบช.น. แทน พล.ต.อ.วิโรจน์ จันทรังษี นอกจากนี้ยังมีไอ้โม่งบางคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับบ่อนลอยฟ้า ปิ่นเกล้า”
ทั้งนี้จากหลักฐานที่โจทก์นำสืบ ยังปรากฏด้วยว่า นอกจาก นสพ.แนวหน้าแล้ว นสพ.ไทยโพสต์ , เดลินิวส์ , เว็บไซด์เสธ.แดง ด็อทคอม เว็บไซด์ผู้จัดการออนไลน์ และสถานีโทรทัศน์โมเดิร์น ไนน์ ทีวี ยังร่วมเผยแพร่ข้อความคำสัมภาษณ์ของจำเลยด้วย จึงเชื่อว่าสื่อมวลชนเผยแพร่ข้อความดังกล่าวตามที่จำเลย ให้สัมภาษณ์จริง เพราะหากข้อความไม่ตรงตามคำสัมภาษณ์จำเลยน่าจะได้ทักท้วง ซึ่งข้อความที่จำเลย ระบุว่า “ มีไอ้โม่งบางคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับบ่อนลอยฟ้าปิ่นเกล้า” เห็นว่า แม้จำเลย ไม่ได้ระบุชื่อโจทก์ แต่ก่อนหน้านี้จำเลยก็เคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนระบุชื่อโจทก์ว่าปฏิบัติหน้าที่บุกจับบ่อนพนันเพื่อหวังประโยชน์ส่วนตัว ต้องการให้นักพนันไปบ่อนลอยฟ้า ดังนั้นคำว่า “ไอ้โม่ง” ที่จำเลยกล่าวถึงย่อมหมายถึงตัวโจทก์ ซึ่งการกระทำของจำเลย ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดคิดว่าโจทก์ซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กระทำผิดกฎหมายเสียเอง ทั้งที่โจทก์กระทำการไปตามหน้าที่ ซึ่งทำให้โจทก์ต้องถูกดูหมิ่นและเสื่อมเสียชื่อเสียง ดังนั้นจำเลย จึงความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน นอกจากนี้ที่สื่อมวล ชนเผยแพร่คำสัมภาษณ์จำเลย ยังถือเป็นการหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ด้วย อีกทั้งการทำหน้าที่ของโจทก์เป็นไปการทำตามหน้าที่ จึงเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานทีทำการตามหน้าที่อีกด้วย
พิพากษาว่า จำเลย มีความผิดตามมาตรา 136 ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานที่ทำการตามหน้าที่ และมาตรา 328 ฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ให้ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 4 เดือนโดยไม่รอการลงโทษ ซึ่งแม้ว่าจำเลย จะไม่เคยได้รับโทษทางอาญามาก่อนแต่จำเลย เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ดังนั้นมีการการกล่าวหาบุคคลอื่นย่อมทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าเป็นเรื่องจริง จึงถือเป็นเรื่องร้ายแรงไม่สมควร ให้รอการลงโทษ และให้ลงโฆษณาคำพิพากษาลงในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ,แนวหน้า ,และไทยโพสต์เป็นเวลา 7 วันโดยจำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ภายหลัง พล.ต.ขัตติยะ หรือ เสธ.แดง ได้ใช้ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก สังกัดสำนักงานผู้บังคับบัญชา กองทัพบก เงินเดือน ระดับ น.6 ชั้น 16.5 เงินเดือน 53,040 บาท คำนวณมูลค่าเป็น10 เท่าของเงินเดือนได้เท่ากับ 5.3 แสนบาทเศษ เป็นหลักประกันในการยื่นขอประกันตัว โดยศาลพิจารณาแล้วจึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว พล.ต.ขัตติยะ โดยตีราคาประกัน 50,000 บาท
ขณะที่ เสธ.แดง กล่าวว่า เตรียมจะยื่นอุทธรณ์คดีภายใน 30 วันโดยจะยื่นต่อสู้ประเด็นข้อเท็จจริงว่า คำสั่ง พล.อ.ชิดชัย รองนายกรัฐมนตรี ที่แต่งตั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นประธานอนุกรมการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ม.ค.49 ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่ชุดเฉพาะกิจจะบุกจับบ่อน ปอ ประตูน้ำ ในวันที่ 4 ก.พ.49 ดังนั้นจึงถือได้ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่มีอำนาจดำเนินการใด ๆ แล้ว นอกจากนี้ยังจะยื่นต่อสู้เรื่องความไม่พร้อมในจัดหาทนายความเพื่อว่าความในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้นด้วย เนื่องจากระหว่างพิจารณานายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความของตนได้ถอนตัวจากการเป็นทนาย ดังนั้นจึงทำให้ตนไม่สามารถหาทนายอื่นเพื่อจัดเตรียมพยานจำเลยขึ้นเบิกความสู้คดีได้ ซึ่งตนไม่ได้โกรธแค้นนาสุกิจ แต่อย่างใดที่ถอนตัวจากคดีไปโดยไม่มีเหตุผล แต่เชื่อว่าเวรกรมมีจริง เพราะขณะนี้ทราบว่านายสุกิจ ถูกสภาทนายความ ถอนใบอนุญาตว่าความแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ศาลเคยออกหมายจับ เสธ แดง. ให้มาฟังคำพิพากษา เนื่องจาก เสธ.แดง อ้างเหตุต้องเดินทางไปต่างประเทศอย่างกระทันหัน ซึ่งมีพฤติกรรมจงใจหลีกเลี่ยงไม่มาศาลตามที่นัดอ่านคำพิพากษาไว้ก่อนแล้วในวันที่ 18 พ.ค. ทั้งนี้สำหรับคดีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยื่นฟ้อง เสธ.แดง ฐานหมิ่นประมาท ฯ นั้นยังมีคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญา และศาลอาญากรุงเทพใต้อีกร่วม 30 คดี