xs
xsm
sm
md
lg

รพ.ตำรวจแจงห้ามอดีตหมอใหญ่รักษาคนไข้!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ แจงสาเหตุที่ไม่สามารถให้อดีตแพทย์ใหญ่ของโรงพยาบาลรักษาคนไข้โรงหัวใจได้ เหตุ ไม่ผ่านการประเมินตามระเบียบราชการ ขณะที่อดีตแพทย์ใหญ่วอนให้เห็นใจคนไข้ด้วย

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) วันที่ 11 มิ.ย. พล.ต.ท.หญิงพจนี สุนทรเกตุ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ท.นุกูล เจียมอนุกูล อดีตนายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) ออกระบุว่า ถูกสั่งห้ามไม่ให้รักษาคนไข้ใน รพ.ตำรวจ ว่า ก่อนหน้านี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในสมัยที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ยังดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ได้ทำสัญญาจ้าง พล.ต.ท.นุกุล เจียมอนุกูลกิจ อดีตนายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) ซึ่งเกษียณอายุราชการไปแล้ว มาเป็นลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจรักษาโรคหัวใจ ประจำศูนย์หัวใจ รพ.ตำรวจ โดยได้รับเงินเดือนกว่า 6 หมื่นบาท แต่ปรากฏว่า ผลการประเมินการปฏิบัติงาน 6 เดือนไม่ผ่านเกณฑ์ เนื่องจาก พล.ต.ท.นุกุล รักษาเฉพาะคนไข้ซึ่งเป็นผู้ใหญ่เพียง 100 กว่าคน ขณะเดียวกัน ยังมีเรื่องร้องเรียนมายังที่สำนักงานจเรตำรวจเป็นจำนวนมาก เกี่ยวกับเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างสมัยที่ พล.ต.ท.นุกูล ยังดำรงตำแหน่งนายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) ตนเองจึงได้แต่งตั้งให้ พล.ต.ท.นุกูล มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) ซึ่งยังคงได้รับเงินเดือนตามปกติ

พล.ต.ท.หญิงพจนี กล่าวถึงเหตุผลที่ออกระเบียบห้าม พล.ต.ท.นุกูล และแพทย์คนอื่นๆ อีก 3 คน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้น ไม่ให้มารักษาคนไข้ เนื่องจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้ส่งรายชื่อนายตำรวจทั้ง 4 มาปฏิบัติราชการที่ รพ.ตำรวจ ซึ่งตามระเบียบทาง ตร.จะต้องส่งรายชื่อมาจึงจะสามารถออกตรวจคนไข้ได้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นไปตามระเบียบ ทั้งนี้ สมัยที่ตนเองยังเป็นรองนายแพทย์ใหญ่ (สบ 7) และถูกย้ายไปเป็นรองผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.ตนเองเคยทำหนังสือถึง พล.ต.อ.โกวิท เพื่อขอออกตรวจคนไข้ แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งตนก็ยอมรับ และไม่ได้ออกตรวจคนไข้ สำหรับที่ศูนย์หัวใจได้ให้แพทย์คนอื่นที่มีความรู้ความสามารถมาทำหน้าที่แทน โดยคนไข้เองก็ไม่ได้เดือดร้อน เพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีอยู่เพียงพอในการดูแลคนไข้อยู่แล้ว

“ยืนยันว่า ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกับ พล.ต.ท.นุกูล เป็นการส่วนตัว หรือมีเจตนากลั่นแกล้ง ทุกอย่างทำตามระเบียบ และหลักการปฏิบัติงานตามปกติเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่า พล.ต.ท.นุกูล เองก็น่าจะเข้าใจระเบียบเหล่านี้เป็นอย่างดี ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือชี้แจงไปยัง ตร.เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ใหญ่ก็เข้าใจดี” นายแพทย์ใหญ่ กล่าว

ก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.นุกูล เจียมอนุกูลกิจ อดีตนายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ท.หญิงพจนี สุนทรเกตุ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) มีประกาศโรงพยาบาลตำรวจ ห้ามตนเองประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือกระทำการใดๆ ที่เกี่ยวข้องในสังกัดโรงพยาบาลตำรวจ ว่า ตามสัญญาจ้างซึ่งทำกันไว้ก่อนหน้านี้ จ้างตนมาทำงานในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจรักษาโรคหัวใจ โดยมีกำหนดระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2549 และสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2550 กระทั่งเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.หญิงพจนีย์ ได้มีคำสั่งดังกล่าวออกมา ทำให้ตนไม่สามารถรักษาคนไข้ได้ หรือหากรักษา ห้องยาก็จะไม่จ่ายยาให้ โดยอ้างว่าติดคำสั่งดังกล่าว

พล.ต.ท.นุกูล กล่าวว่า ระยะเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาตนได้ทุ่มเทกำลังทำงานอย่างเต็มที่ โดยในระยะเวลา 8 เดือนที่ทำงาน ตนได้รักษาคนไข้ทั้งหมด 838 ราย เฉลี่ยเดือนละ 100 ราย หรือประมาณวันละ 50 ราย แสดงให้เห็นว่า ตนรับผิดชอบงานในหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งแม้จะถูกสั่งห้ามดังกล่าวตนก็มาลงชื่อทำงานตามปกติ ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวตนเองไม่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากยังได้รับเงินเดือนตามปกติตามที่ระบุในสัญญาจ้าง แต่เห็นว่า ผู้เสียหายกลับเป็นตัวคนไข้เองที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะคนไข้ประจำ จึงอยากขอความเป็นธรรมให้ตนได้ทำการรักษาคนไข้ในฐานะแพทย์คนหนึ่งเท่านั้น

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.หญิงพจนี สุนทรเกตุ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) มีประกาศโรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างเต็มกำลังความสามารถและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยส่วนรวม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ห้ามบุคคลประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือกระทำการใดๆ ที่เกี่ยวข้องในสังกัดโรงพยาบาลตำรวจ ว่า พล.ต.ท.วรพจน์ เลิศลักขณา อดีตนายแพทย์ใหญ่ ปัจจุบันเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ต.จิระศักดิ์ ปาณินท์ ผบก.ทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายอำนวยการประจำผู้ช่วย ผบ.ตร.(พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส) พล.ต.ต.อานุภาพ ธรรมพิพิธ ผบก.ทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายอำนวยการประจำผู้ช่วย ผบ.ตร.(พล.ต.ท.ถาวรศักดิ์ เทพชาตรี) และ พล.ต.ท.นุกูล เจียมอนุกูลกิจ อดีตนายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) ที่ปัจจุบันเป็นลูกจ้างชั่วคราวโรงพยาบาลตำรวจ ปฏิบัติหน้าที่ที่ปรึกษานายแพทย์ใหญ่ (สบ 8)

ประกาศดังกล่าวยังระบุด้วยว่า หากมีการฝ่าฝืนหรือกระทำการใดๆ อันส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อโรงพยาบาลตำรวจและต่อทางราชการโดยส่วนรวม จะพิจารณาดำเนินการทางวินัย ตามกฎหมายและระเบียบ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา พล.ต.ท.หญิงพจนี มีคำสั่งโรงพยาบาลตำรวจ ที่ 676/2550 เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของลูกจ้างชั่วคราว ให้ พล.ต.ท.นุกูล พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาของศูนย์หัวใจและหลอดเลือด และพ้นจากภารกิจทั้งมวลที่เกี่ยวข้องกับงานอายุรกรรม และศูนย์หัวใจและหลอดเลือด และตั้งให้เป็นที่ปรึกษานายแพทย์ใหญ่ (สบ8) แทน โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากโรงพยาบาลตำรวจมีแพทย์ด้านการตรวจรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดเพียงพอต่อผู้ป่วยแล้ว ก่อนจะมีประกาศดังกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับศูนย์โรคหัวใจ รพ.ตำรวจ ปัจจุบันมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เพียง 3 คนเท่านั้น จากเดิมที่เคยมีอยู่ถึง 7 คน แต่ได้ลาออกจากราชการไปแล้ว ส่วนคนไข้ที่มาทำการรักษาที่ศูนย์ ที่เปิดในวันพุธจะตกวันละ 200 ราย ส่วนวันธรรมดาอื่นๆก็มีเข้ามาทำการรักษาทุกวัน ส่วนการจ้างลูกจ้างชั่วคราวของ รพ.ตำรวจปัจจุบันมีการจ้างแพทย์ภายนอกมาทำการรักษาประมาณ 25 คน เพราะแพทย์ของ รพ.ตำรวจมีเพียง 147 รายเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับคนไข้ที่เข้ามาทำการรักษาวันละ 2,000-2,500 คน
กำลังโหลดความคิดเห็น