แกนนำม็อบสวนปาล์มเข้ามอบตัวต่อตำรวจ สน.ปทุมวัน ปฏิเสธไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา อ้างเหตุรวมตัวเนื่องจากเกรงบริษัทได้ที่ดินมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
วันนี้ (28 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ สน.ปทุมวัน นายอารี เพ็ชรสวัสดิ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/2 ม.8 ต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง จ.ตรัง ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เลขที่ 295/2550 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2550 ในข้อหาร่วมกันบุกรุกยึดถือครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อาคม จันทนลาช รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน เพื่อมอบตัวรับทราบข้อกล่าวหา ภายหลังนายอารี พร้อมพวกพาประชาชนนับพันคน บุกยึดสวนปาล์มของบริษัท ทักษิณ ปาล์ม (2521) จำกัด ม.12 ต.ท่าขนอน อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี
นายอารี กล่าวว่า ตนเองเป็นแกนนำเข้าไปในที่ดินดังกล่าวในนามองค์การพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรภาคใต้ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับชาวบ้านกว่า 4,500 คนที่เข้าไปปักหลักในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านทั้งหมดเข้าไปในพื้นที่เอง โดยที่ทางกลุ่มไม่ได้มีการชักชวนหรือหลอกลวงให้เข้าไปแต่อย่างใด ส่วนกรณีมีการเรียกเก็บเงินจากบ้านนั้นตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะเงินทั้งหมดที่ดำเนินการต่างๆ ตนและแกนนำอื่นๆ เป็นผู้ออกเองทั้งหมด ไม่มีการเรี่ยไรจากชาวบ้านแต่อย่างใด
นายอารี กล่าวถึงเหตุผลที่บุกรุกเข้าไปในพื้นที่สวนปาล์มทั้งที่รู้ว่า บริษัท ทักษิณปาล์ม เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ว่า ทางกลุ่มเห็นว่าบริษัทดังกล่าวอาจได้ที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรืออาจมีการบุกรุกที่ป่าสงวน ประกอบกับที่ดินที่บริษัทดังกล่าวครอบครองอยู่มีพื้นที่มากเกินไป จึงเข้าไปตรวจสอบ แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากเจ้าของบริษัท ขณะเดียวกันยังได้ยื่นหนังสือถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ตรวจสอบที่มาของที่ดิน แต่ไม่ได้รับความสนใจ ทั้งนี้ หากพบว่าที่ดินดังกล่าวได้มาโดยไม่ถูกต้องทางกลุ่มก็จะทำการจัดสรรให้เป็นที่ทำกินของชาวบ้าน โดยที่กลุ่มแกนนำไม่มีผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านเท่านั้น
"หลังเกิดเหตุได้หลบไปอยู่ที่บ้านของคนรู้จักในจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ถูกข่มขู่คุกคาม จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจเดินทางมามอบตัว เพื่อขอต่อสู้คดีในชั้นศาลเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เนื่องจากผมไม่ได้บุกรุกพื้นที่ของใคร เพียงแต่นำชาวบ้านเข้าไปในพื้นที่ เพื่อหาความจริงว่าที่ดินผืนดังกล่าวใครเป็นผู้ครอบครองที่แท้จริงเท่านั้น"นายอารีกล่าว
พ.ต.ท.อาคม กล่าวว่า ภายหลังแจ้งข้อกล่าวหาให้นายอารีรับทราบโดยละเอียดแล้ว หลังจากนี้จะได้ควบคุมตัวนายอารีส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง


วันนี้ (28 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ สน.ปทุมวัน นายอารี เพ็ชรสวัสดิ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/2 ม.8 ต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง จ.ตรัง ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เลขที่ 295/2550 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2550 ในข้อหาร่วมกันบุกรุกยึดถือครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อาคม จันทนลาช รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน เพื่อมอบตัวรับทราบข้อกล่าวหา ภายหลังนายอารี พร้อมพวกพาประชาชนนับพันคน บุกยึดสวนปาล์มของบริษัท ทักษิณ ปาล์ม (2521) จำกัด ม.12 ต.ท่าขนอน อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี
นายอารี กล่าวว่า ตนเองเป็นแกนนำเข้าไปในที่ดินดังกล่าวในนามองค์การพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรภาคใต้ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับชาวบ้านกว่า 4,500 คนที่เข้าไปปักหลักในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านทั้งหมดเข้าไปในพื้นที่เอง โดยที่ทางกลุ่มไม่ได้มีการชักชวนหรือหลอกลวงให้เข้าไปแต่อย่างใด ส่วนกรณีมีการเรียกเก็บเงินจากบ้านนั้นตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะเงินทั้งหมดที่ดำเนินการต่างๆ ตนและแกนนำอื่นๆ เป็นผู้ออกเองทั้งหมด ไม่มีการเรี่ยไรจากชาวบ้านแต่อย่างใด
นายอารี กล่าวถึงเหตุผลที่บุกรุกเข้าไปในพื้นที่สวนปาล์มทั้งที่รู้ว่า บริษัท ทักษิณปาล์ม เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ว่า ทางกลุ่มเห็นว่าบริษัทดังกล่าวอาจได้ที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรืออาจมีการบุกรุกที่ป่าสงวน ประกอบกับที่ดินที่บริษัทดังกล่าวครอบครองอยู่มีพื้นที่มากเกินไป จึงเข้าไปตรวจสอบ แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากเจ้าของบริษัท ขณะเดียวกันยังได้ยื่นหนังสือถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ตรวจสอบที่มาของที่ดิน แต่ไม่ได้รับความสนใจ ทั้งนี้ หากพบว่าที่ดินดังกล่าวได้มาโดยไม่ถูกต้องทางกลุ่มก็จะทำการจัดสรรให้เป็นที่ทำกินของชาวบ้าน โดยที่กลุ่มแกนนำไม่มีผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านเท่านั้น
"หลังเกิดเหตุได้หลบไปอยู่ที่บ้านของคนรู้จักในจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ถูกข่มขู่คุกคาม จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจเดินทางมามอบตัว เพื่อขอต่อสู้คดีในชั้นศาลเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เนื่องจากผมไม่ได้บุกรุกพื้นที่ของใคร เพียงแต่นำชาวบ้านเข้าไปในพื้นที่ เพื่อหาความจริงว่าที่ดินผืนดังกล่าวใครเป็นผู้ครอบครองที่แท้จริงเท่านั้น"นายอารีกล่าว
พ.ต.ท.อาคม กล่าวว่า ภายหลังแจ้งข้อกล่าวหาให้นายอารีรับทราบโดยละเอียดแล้ว หลังจากนี้จะได้ควบคุมตัวนายอารีส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง