เมียผู้ต้องสงสัยเป็นผู้พามือปืนสาดกระสุนสังหารรองผู้การ น.9 รุดเข้าพบตำรวจ อ้างสามีบริสุทธิ์ โดยยืนยันไม่ได้เป็นผู้พาผู้ต้องหาหลบหนี ขณะที่ตำรวจระดมกำลังไล่ล่ามือปืนทุกทิศที่พบเบาะแส เชื่อยังหลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศ
วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 (บก.น.9) นางขวัญใจ จุเติบ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/11 หมู่ 4 ซอยอนามัยงามเจริญ แขวงและเขตท่าข้าม ภรรยาของ นายสนิท หรือ ติ๊ก จุเติบ ที่ตกเป็นข่าวว่า เป็นคนพา นายมนตรี แสนคำ หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ มีเพียร ผบก.น.9 พร้อมญาติอีก 3 คน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่า สามีไม่ได้เป็นคนพาผู้ต้องหาหลบหนีตามที่ตกเป็นข่าว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการพูดคุย
นางขวัญใจ เปิดเผยว่า ตนเองแต่งงานจดทะเบียนกับนายสนิท แต่ไม่ได้พักอาศัยอยู่ด้วยกัน โดยตนเองพักอยู่ กทม.แต่สามีทำบ่อเลี้ยงกุ้งอยู่ที่ซอยวัดชีผ้าขาว ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งในวันเกิดเหตุขณะที่ตนเอง นางนิตยา แซ่อึ้ง อดีตภรรยาของนายมนตรี ผู้ต้องหา ได้โทรศัพท์เข้ามาที่เครื่องสามีตนเอง แต่สามีตนไม่รับ จึงมีการโอนสายมาที่โทรศัพท์เครื่องของตน แต่ตนก็ไม่ได้รับสายเช่นเดียวกัน จากนั้นได้คุยกับสามีจนถึงเวลาประมาณ 01.00 น.จึงทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด และสามีจะมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตนห้ามไว้เพราะเห็นว่าดึกแล้ว ให้มาพบตอนเช้าจะดีกว่า ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ไม่สามารถติดต่อกับสามีได้อีกเลย
นางขวัญใจ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ไม่ทราบว่าสามีอยู่ที่ไหน แต่ยืนยันว่า สามีไม่ได้เป็นคนพานายมนตรี หลบหนี ตามที่เป็นข่าวแน่นอน เพราะมีญาติของสามีติดต่อมาหาตน ว่า สามีติดต่อมาทางญาติๆ และปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นคนพานายมนตรีหลบหนี ในวันนี้ตนจึงรีบเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจแทนสามี และจะให้สามีเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจอีกครั้งหนึ่ง
“มั่นใจว่า เขาไม่ได้เป็นคนพาหนีอย่างแน่นอน เพราะเขายังมีลูก มีเมียอยู่ อีกทั้งวันเกิดเหตุมีพยานเห็นเขายังอยู่ที่บ่อกุ้ง เนื่องจากปกติเขาจะปิดเครื่องสูบน้ำเข้าบ่อกุ้งเวลาประมาณ 5 ทุ่ม นอกจากนี้ รถกระบะโตโยต้า สีเขียว ของเขาก็ยังจอดอยู่ที่บ้านญาติไม่ได้ใช้ขับไปไหน เพราะเขาเอารถไปพ่นกันสนิมตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่องอีก สามารถไปตรวจสอบเลขไมล์รถได้” นางขวัญใจ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เรียกประชุมคณะทำงาน ที่มี พ.ต.อ.สักกฉัฐ กิตติขจร กับ พ.ต.อ.ชำนาญ เครือบัว รอง ผบก.น.9 เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีนี้ เพื่อมาดูสำนวน ว่า มีการสอบพยานหลักฐานไปเรียบร้อยแล้วหรือยัง ส่วนที่ภรรยาของ นายสนิท จุเติบ ที่มีข่าวว่าเป็นคนพานายมนตรีหลบหนี เดินทางเข้ามาพบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่า นายสนิทไม่ได้เป็นพานายมนตรีหลบหนีนั้น ก็จะติดต่อให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันต่อไป
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการประสานงานกันหลายฝ่ายอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นจาก บช.ก.กำลังจากศูนย์สืบสวนนครบาล และกำลังจาก บช.ภ.2 แบ่งหน้าที่กันติดตามจับกุมตัว นายมนตรี เพื่อไม่ให้ทำงานซ้ำซ้อนกัน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ผู้ต้องหายังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย แต่อยู่ระหว่างตัดสินใจสำนึกผิด ถ้าหากตัดสินใจว่า จะเข้ามอบตัวก็ถือว่าเป็นประโยชน์กับตัวนายมนตรีเอง เพราะนายมนตรียังมีลูกเล็กๆ อยู่อีก 2 คน
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจพานายมนตรีหลบหนีไปทางจังหวัดตากนั้น ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะมั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่มีพฤติกรรมแบบนั้นแน่นอน แม้จะเป็นเพื่อนกันก็ตาม ก็น่าจะแยกแยะออกระหว่างภาระหน้าที่กับเรื่องส่วนตัว ส่วนที่มีข่าวว่า นายมนตรี ติดต่อจะเข้ามอบตัวกับทางกองปราบปราบในวันนี้นั้น หากมามอบตัวจริง ทางกองปราบจะส่งตัวผู้ต้องหาไปให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จากนั้นทาง สน.ท่าข้าม ก็จะเดินทางไปรับตัวมาสอบสวน และทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป
ตร.ตัดปมชู้สาว! เหตุอดีตสามีสังหาร “รอง ผบก.น.9”
พ.ต.ท.ยังสาหัส ตับ-ม้าม-ถุงน้ำดี-กระบังลม-กระเพาะฉีก!
ตั้ง 6 ข้อหาฉกรรจ์มือยิงรองผู้การ - เผยนาทีสังหารจ่อยิงหัวซ้ำ!
“เสรีพิศุทธ์” สั่งล่าตัวมือปืนฆ่าโหดรอง ผบก.น.9 ลั่น! ขัดขืนจับตาย
พิษรักแรงหึงกระหน่ำยิงดับ!! “รอง ผบก.น.9” กับคนสนิทรวม 3 ศพ
วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 (บก.น.9) นางขวัญใจ จุเติบ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/11 หมู่ 4 ซอยอนามัยงามเจริญ แขวงและเขตท่าข้าม ภรรยาของ นายสนิท หรือ ติ๊ก จุเติบ ที่ตกเป็นข่าวว่า เป็นคนพา นายมนตรี แสนคำ หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ มีเพียร ผบก.น.9 พร้อมญาติอีก 3 คน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่า สามีไม่ได้เป็นคนพาผู้ต้องหาหลบหนีตามที่ตกเป็นข่าว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการพูดคุย
นางขวัญใจ เปิดเผยว่า ตนเองแต่งงานจดทะเบียนกับนายสนิท แต่ไม่ได้พักอาศัยอยู่ด้วยกัน โดยตนเองพักอยู่ กทม.แต่สามีทำบ่อเลี้ยงกุ้งอยู่ที่ซอยวัดชีผ้าขาว ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งในวันเกิดเหตุขณะที่ตนเอง นางนิตยา แซ่อึ้ง อดีตภรรยาของนายมนตรี ผู้ต้องหา ได้โทรศัพท์เข้ามาที่เครื่องสามีตนเอง แต่สามีตนไม่รับ จึงมีการโอนสายมาที่โทรศัพท์เครื่องของตน แต่ตนก็ไม่ได้รับสายเช่นเดียวกัน จากนั้นได้คุยกับสามีจนถึงเวลาประมาณ 01.00 น.จึงทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด และสามีจะมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตนห้ามไว้เพราะเห็นว่าดึกแล้ว ให้มาพบตอนเช้าจะดีกว่า ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ไม่สามารถติดต่อกับสามีได้อีกเลย
นางขวัญใจ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ไม่ทราบว่าสามีอยู่ที่ไหน แต่ยืนยันว่า สามีไม่ได้เป็นคนพานายมนตรี หลบหนี ตามที่เป็นข่าวแน่นอน เพราะมีญาติของสามีติดต่อมาหาตน ว่า สามีติดต่อมาทางญาติๆ และปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นคนพานายมนตรีหลบหนี ในวันนี้ตนจึงรีบเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจแทนสามี และจะให้สามีเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจอีกครั้งหนึ่ง
“มั่นใจว่า เขาไม่ได้เป็นคนพาหนีอย่างแน่นอน เพราะเขายังมีลูก มีเมียอยู่ อีกทั้งวันเกิดเหตุมีพยานเห็นเขายังอยู่ที่บ่อกุ้ง เนื่องจากปกติเขาจะปิดเครื่องสูบน้ำเข้าบ่อกุ้งเวลาประมาณ 5 ทุ่ม นอกจากนี้ รถกระบะโตโยต้า สีเขียว ของเขาก็ยังจอดอยู่ที่บ้านญาติไม่ได้ใช้ขับไปไหน เพราะเขาเอารถไปพ่นกันสนิมตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่องอีก สามารถไปตรวจสอบเลขไมล์รถได้” นางขวัญใจ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เรียกประชุมคณะทำงาน ที่มี พ.ต.อ.สักกฉัฐ กิตติขจร กับ พ.ต.อ.ชำนาญ เครือบัว รอง ผบก.น.9 เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีนี้ เพื่อมาดูสำนวน ว่า มีการสอบพยานหลักฐานไปเรียบร้อยแล้วหรือยัง ส่วนที่ภรรยาของ นายสนิท จุเติบ ที่มีข่าวว่าเป็นคนพานายมนตรีหลบหนี เดินทางเข้ามาพบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่า นายสนิทไม่ได้เป็นพานายมนตรีหลบหนีนั้น ก็จะติดต่อให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันต่อไป
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการประสานงานกันหลายฝ่ายอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นจาก บช.ก.กำลังจากศูนย์สืบสวนนครบาล และกำลังจาก บช.ภ.2 แบ่งหน้าที่กันติดตามจับกุมตัว นายมนตรี เพื่อไม่ให้ทำงานซ้ำซ้อนกัน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ผู้ต้องหายังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย แต่อยู่ระหว่างตัดสินใจสำนึกผิด ถ้าหากตัดสินใจว่า จะเข้ามอบตัวก็ถือว่าเป็นประโยชน์กับตัวนายมนตรีเอง เพราะนายมนตรียังมีลูกเล็กๆ อยู่อีก 2 คน
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจพานายมนตรีหลบหนีไปทางจังหวัดตากนั้น ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะมั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่มีพฤติกรรมแบบนั้นแน่นอน แม้จะเป็นเพื่อนกันก็ตาม ก็น่าจะแยกแยะออกระหว่างภาระหน้าที่กับเรื่องส่วนตัว ส่วนที่มีข่าวว่า นายมนตรี ติดต่อจะเข้ามอบตัวกับทางกองปราบปราบในวันนี้นั้น หากมามอบตัวจริง ทางกองปราบจะส่งตัวผู้ต้องหาไปให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จากนั้นทาง สน.ท่าข้าม ก็จะเดินทางไปรับตัวมาสอบสวน และทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป
ตร.ตัดปมชู้สาว! เหตุอดีตสามีสังหาร “รอง ผบก.น.9”
พ.ต.ท.ยังสาหัส ตับ-ม้าม-ถุงน้ำดี-กระบังลม-กระเพาะฉีก!
ตั้ง 6 ข้อหาฉกรรจ์มือยิงรองผู้การ - เผยนาทีสังหารจ่อยิงหัวซ้ำ!
“เสรีพิศุทธ์” สั่งล่าตัวมือปืนฆ่าโหดรอง ผบก.น.9 ลั่น! ขัดขืนจับตาย
พิษรักแรงหึงกระหน่ำยิงดับ!! “รอง ผบก.น.9” กับคนสนิทรวม 3 ศพ
