คนร้ายย่องเบาขึ้นบ้าน “ครูอ้วน” มณีนุช เสมรสุต ขนเอาคอมพ์และซีพียูมากองไว้หน้าบ้าน ในขณะเดียวกัน ตำรวจสายตรวจ สน.พระโขนง จับกุมคนร้ายท่าทีมีพิรุธได้หน้าปากซอย 1 คนแต่ยังปากแข็งปฏิเสธ
วันนี้ (23 พ.ค.) เมื่อเวลา 03.00 น. ขณะที่ ร.ต.ต.ถาวร ทองวงศ์ หัวหน้าสายตรวจ สน.พระโขนง และ ด.ต.บุญลือ ใจศิริ ผบ.หมู่ ป.สน.พระโขนง ออกตรวจพื้นที่มาถึงหน้าปากซอยปุณณวิถี 38 แยกซอยสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. พบชายต้องสงสัยท่าทีมีพิรุธ 1 คน ทราบต่อมาชื่อ นายณรงค์ โคตุดร อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 2 ต.สนม อ.สนม จ.สุรินทร์ ยืนสะพายเป้อยู่ที่หน้าปากซอยดังกล่าวจึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นภายในเป้ พบเสื้อผ้าจำนวนหนึ่ง ไขควงยาว 1 ฟุต จำนวน 1 อัน และผ้าเทปพันสายไฟฟ้า 1 ม้วน จึงควบคุมตัวไว้สอบปากคำ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายจึงออกตรวจพื้นที่บริเวณใกล้เคียง จนกระทั่งมาถึงที่หน้าบ้านเลขที่ 1048/11 ซึ่งเป็นอาคารทรงยุโรปสูง 3 ชั้น โดยด้านหน้าเปิดเป็นสำนักงานชื่อ STARMAHER CO.LTD ซึ่งอยู่ห่างจากปากซอยมาประมาณ 100 เมตร ก็พบเครื่องซีพียู จำนวน 5 เครื่อง จอเครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง และแป้นพิมพ์ 1 อัน วางอยู่ริมกำแพงบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงกดกริ่งเรียกคนในบ้านเพื่อให้ออกมาตรวจสอบดูว่าเป็นทรัพย์สินของตัวเองหรือไม่
ต่อมาก็ได้มี น.ส.มณีนุช เสมรสุต อายุ 46 ปี หรือครูอ้วน อาจารย์สอนร้องเพลงชื่อดัง และเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว พร้อมกับคนในบ้านได้ออกมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมยืนยันว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดเป็นของตัวเองที่ตั้งอยู่ในบริษัทฯ จากนั้นจึงพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบในบริษัท ก็พบว่าบริเวณขอบประตูทางเข้ามีร่องรอยการถูกงัดเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้ควบคุมตัวนายณรงค์กลับไปสอบปากคำที่ สน.พระโขนง
จากการสอบสวน นายณรงค์ให้การปฏิเสธโดยอ้างว่าตัวเองมีอาชีพขายไฟแช็กแก๊สอยู่ย่านสนามหลวง เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (22 พ.ค.) ได้มีเพื่อนชื่อต่อไปเที่ยวหาผู้หญิงที่สนามหลวง ก่อนจะแวะมาชวนตนไปนั่งดื่มเหล้าต่อภายในซอยที่เกิดเหตุ หลังจากเลิกดื่มตนก็ได้เดินออกมารอรถจักรยานยนต์รับจ้าง ระหว่างนั้นก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้น
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบประวัติก็พบว่า นายณรงค์เคยถูกจับกุมคดียาบ้าเมื่อปี 37 และเพิ่งพ้นโทษออกมา จึงทำการตรวจปัสสาวะก็พบว่าเป็นสีม่วง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติด
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (23 พ.ค.) น.ส.มณีนุช ก็ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.สมเด่น แดงเครื่อง ร้อยเวร สน.พระโขนง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมหลังจากถูกคนร้ายบุกเข้าไปลักเครื่องคอมพิวเตอร์ภายในบริษัท แต่โชคดีที่ตำรวจมาพบทรัพย์สินเสียก่อน ก่อนเปิดเผยว่าเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนดังกล่าวเพิ่งนำมาจากโรงเรียนสอนดนตรีสาขาอื่นเพื่อเอามาทำงานและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนร้องเพลง โดยเมื่อช่วงหัวค่ำหลังกลับมาจากทำงานก็ได้มานั่งดูรายการตีสิบกับแม่ของตนจนดึกจึงได้ขึ้นไปนอนพักผ่อน จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปกดกริ่งเรียกจึงรู้ว่าบริษัทถูกคนร้ายงัดเข้าไปลักทรัพย์
“ปกติที่บ้านมีคนพักอยู่หลายคน แต่ก็คอยระวังมาตลอด เนื่องจากรู้ข่าวมาว่าบ้านที่อยู่ใกล้ๆ กันเคยถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์มาแล้วหลายบ้าน ซึ่งต่อไปนี้คงจะจ้างบริษัทมาติดกล้องวงจรปิด เพื่อเป็นการป้องกันทรัพย์สินและชีวิตคนในบ้านอีกทางหนึ่ง” น.ส.มณีนุช กล่าว
หลังจากทำการสอบปากคำเบื้องต้นแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานกองพิสูจน์หลักฐาน เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและเก็บรอยนิ้วมือของคนร้ายเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับนายณรงค์ ผู้ต้องสงสัย เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป



วันนี้ (23 พ.ค.) เมื่อเวลา 03.00 น. ขณะที่ ร.ต.ต.ถาวร ทองวงศ์ หัวหน้าสายตรวจ สน.พระโขนง และ ด.ต.บุญลือ ใจศิริ ผบ.หมู่ ป.สน.พระโขนง ออกตรวจพื้นที่มาถึงหน้าปากซอยปุณณวิถี 38 แยกซอยสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. พบชายต้องสงสัยท่าทีมีพิรุธ 1 คน ทราบต่อมาชื่อ นายณรงค์ โคตุดร อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 2 ต.สนม อ.สนม จ.สุรินทร์ ยืนสะพายเป้อยู่ที่หน้าปากซอยดังกล่าวจึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นภายในเป้ พบเสื้อผ้าจำนวนหนึ่ง ไขควงยาว 1 ฟุต จำนวน 1 อัน และผ้าเทปพันสายไฟฟ้า 1 ม้วน จึงควบคุมตัวไว้สอบปากคำ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายจึงออกตรวจพื้นที่บริเวณใกล้เคียง จนกระทั่งมาถึงที่หน้าบ้านเลขที่ 1048/11 ซึ่งเป็นอาคารทรงยุโรปสูง 3 ชั้น โดยด้านหน้าเปิดเป็นสำนักงานชื่อ STARMAHER CO.LTD ซึ่งอยู่ห่างจากปากซอยมาประมาณ 100 เมตร ก็พบเครื่องซีพียู จำนวน 5 เครื่อง จอเครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง และแป้นพิมพ์ 1 อัน วางอยู่ริมกำแพงบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงกดกริ่งเรียกคนในบ้านเพื่อให้ออกมาตรวจสอบดูว่าเป็นทรัพย์สินของตัวเองหรือไม่
ต่อมาก็ได้มี น.ส.มณีนุช เสมรสุต อายุ 46 ปี หรือครูอ้วน อาจารย์สอนร้องเพลงชื่อดัง และเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว พร้อมกับคนในบ้านได้ออกมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมยืนยันว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดเป็นของตัวเองที่ตั้งอยู่ในบริษัทฯ จากนั้นจึงพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบในบริษัท ก็พบว่าบริเวณขอบประตูทางเข้ามีร่องรอยการถูกงัดเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้ควบคุมตัวนายณรงค์กลับไปสอบปากคำที่ สน.พระโขนง
จากการสอบสวน นายณรงค์ให้การปฏิเสธโดยอ้างว่าตัวเองมีอาชีพขายไฟแช็กแก๊สอยู่ย่านสนามหลวง เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (22 พ.ค.) ได้มีเพื่อนชื่อต่อไปเที่ยวหาผู้หญิงที่สนามหลวง ก่อนจะแวะมาชวนตนไปนั่งดื่มเหล้าต่อภายในซอยที่เกิดเหตุ หลังจากเลิกดื่มตนก็ได้เดินออกมารอรถจักรยานยนต์รับจ้าง ระหว่างนั้นก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้น
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบประวัติก็พบว่า นายณรงค์เคยถูกจับกุมคดียาบ้าเมื่อปี 37 และเพิ่งพ้นโทษออกมา จึงทำการตรวจปัสสาวะก็พบว่าเป็นสีม่วง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติด
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (23 พ.ค.) น.ส.มณีนุช ก็ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.สมเด่น แดงเครื่อง ร้อยเวร สน.พระโขนง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมหลังจากถูกคนร้ายบุกเข้าไปลักเครื่องคอมพิวเตอร์ภายในบริษัท แต่โชคดีที่ตำรวจมาพบทรัพย์สินเสียก่อน ก่อนเปิดเผยว่าเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนดังกล่าวเพิ่งนำมาจากโรงเรียนสอนดนตรีสาขาอื่นเพื่อเอามาทำงานและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนร้องเพลง โดยเมื่อช่วงหัวค่ำหลังกลับมาจากทำงานก็ได้มานั่งดูรายการตีสิบกับแม่ของตนจนดึกจึงได้ขึ้นไปนอนพักผ่อน จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปกดกริ่งเรียกจึงรู้ว่าบริษัทถูกคนร้ายงัดเข้าไปลักทรัพย์
“ปกติที่บ้านมีคนพักอยู่หลายคน แต่ก็คอยระวังมาตลอด เนื่องจากรู้ข่าวมาว่าบ้านที่อยู่ใกล้ๆ กันเคยถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์มาแล้วหลายบ้าน ซึ่งต่อไปนี้คงจะจ้างบริษัทมาติดกล้องวงจรปิด เพื่อเป็นการป้องกันทรัพย์สินและชีวิตคนในบ้านอีกทางหนึ่ง” น.ส.มณีนุช กล่าว
หลังจากทำการสอบปากคำเบื้องต้นแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานกองพิสูจน์หลักฐาน เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและเก็บรอยนิ้วมือของคนร้ายเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับนายณรงค์ ผู้ต้องสงสัย เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป