3 โจรใจบุกปล้นบ้านเศรษฐีชาวสวีเดน เจอคนรับใช้ใจเด็ดฮึดสู้คว้ามีดฟัน-แทงดับคาที่ 1 ศพ ส่วนอีก 2 เผ่นหนี เผยคนร้ายที่ตายเคยไปมาหาสู่พาเจ้าของบ้านไปวิ่งออกกำลังกายสวนลุมฯ ตร.คาดร้อนเงินฉวยจังหวะพาพวกบุกปล้น
เมื่อเวลา 20.00 น.วันนี้ (16 พ.ค.) พ.ต.ท.ธีระ เชื้อสุวรรณ สวป.สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเข้าไปปล้นทรัพย์และถูกฆ่าตาย เหตุเกิดในบ้านเลขที่ 60/3 ซ.หลังสวน 2 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.6 พ.ต.อ.สุธน ดิษยบุตร ผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย สว.สส.สน.ลุมพินี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกบนเนื้อที่ 1 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด ของนายปีเตอร์ นักธุรกิจชาวสวีเดน ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่อยู่บ้าน บริเวณที่พักคนรับใช้ซึ่งอยู่หลังบ้านพบศพนายอานนท์ หรือต๊ะ แสงเสริม อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/93 ม.1 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อยืดสีเหลือง นุ่งกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน สวมรองเท้าแตะ สวมถุงมือสีดำ มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งจน กรามขวาหัก หน้าผากและไหปลาร้าด้านขวามีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคม ที่เอวพบปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์เหน็บอยู่ 1 กระบอก ใกล้กันพบปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 1 กระบอก นอกจากนี้บริเวณริมประตูรั้วบ้านพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า โซนิค สีน้ำเงินคาดเหลือง หมายเลขทะเบียน ปยต-323 กทม.ของคนร้ายจอดอยู่ 1 คัน
ขณะเดียวกันยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลพญาไท 1 จำนวน 3 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุวัฒน์ โคกจินดา อายุ 52 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกแทงที่หัวไหล่ซ้าย 1 แผล หัวไหล่ขวาและต้นแขนขวา รวม 2 แผล นางชูนิช ราม อายุ 70 ปี ชาวอินเดีย และนายบูนามซิงค์ มาน อายุ 85 ปี ชาวอินเดียทั้งสองคนมีบาดแผลถูกตีด้วยแข็งที่ศีรษะ
สอบสวนนายสุวัฒน์ ให้การว่า ตนเองเป็นคนดูแลบ้าน ก่อนเกิดเหตุตนอยู่บนห้องพัก ได้ยินเสียงคนร้อง และมีเสียงกุกกักบริเวณห้องรับแขก จึงลงมาดูและพบคนร้าย 3 คน หนึ่งในจำนวนนั้นมีนายอานนท์ซึ่งจำได้ว่าเคยไปมาหาสู่ที่บ้านบ่อยครั้ง โดยทันทีที่เห็นตน กลุ่มคนร้ายได้เดินเข้ามาพร้อมทั้งอาวุธมีดหมายจะทำร้าย ก่อนที่จะจับตนมัด หลังจากนั้นคนร้ายได้แยกย้ายกันรื้อค้นข้าวของ ระหว่างนั้นตนพยายามแก้มัดออก และวิ่งไปหยิบอาวุธปืนที่อยู่บนห้องพัก เพื่อมาขู่คนร้าย แต่คนร้ายได้หันมาแย่งปืนจนปืนตกกระเด็นไป และชุลมุนต่อสู้กับคนร้าย ระหว่างนั้นตนจึงคว้าท่อนเหล็กที่อยู่ใกล้มือกระหน่ำตีคนร้าย จากนั้นตนจึงได้หยิบปืนที่หล่นอยู่บนพื้นยิงขู่ขึ้นฟ้า ทำให้คนร้ายอีก 2 คนที่เหลือตกใจ วิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ที่รมิมรั้วหน้าบ้านขับหลบหนีไป
ขณะที่ นายบูนามซิงค์ คนดูแลบ้านอีกคน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้นั่งดูโทรทัศน์กับนางชูนิช ซึ่งเป็นแม่บ้าน บริเวณห้องรับแขกระหว่างนั้นก็มีเสียงคนมากดออดหน้าประตูรั้ว จึงเดินไปดู และพบกับนายอานนท์ ซึ่งเคยไปมาหาสู่ขับรถพานายปีเตอร์ไปวิ่งที่สวนลุมพินี โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 500-1,000 บาท ระหว่างนั้นได้มีคนร้ายวัยรุ่นอีก 2 คน ตรงเข้ามาพร้อมกับใช้ด้ามปืนตีที่ศีรษะจนสลบไป จนฟื้นมาอีกทีก็พบว่านายอานนท์เสียชีวิตแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่านายอานนท์น่าจะร้อนเงิน จึงอาศัยจังหวะที่นายปีเตอร์ไม่อยู่บ้านพาพวกมาปล้นบ้าน แต่โชคร้ายถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เรียกญาติของผู้ตายมาสอบปากคำเพื่อหาเบาะแสของเพื่อนร่วมแก๊ง ขณะเดียวกัน ได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนออกติดตามตัวคนร้ายที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป