เกิดเหตุสลด ด็อกเตอร์ใช้อาวุธปืนยิงลูกเมีย ก่อนลั่นไกปลิดชีพตัวเอง โชคดีลูกชายแค่สาหัส ลูกสาวรอด เพราะไม่อยู่ห้อง ในคอนโดฯ หรูกลางกรุงรวม 2 ศพ
วันนี้ (5 เม.ย.) เมื่อเวลา 07.30 น. ร.ต.ท.นพรัช ยังดำรงค์ ร้อยเวร สน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งเหตุยิงกันมีได้รับบาดเจ็บ ภายในอาคาร CASTLE SUITE คอนโดมิเนียม ตั้งอยู่เลขที่ 615 ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 5 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในห้องชุด 2 บี ภายในแบ่งเป็น 2 ห้องนอน โดยห้องนอนใหญ่ฝั่งซ้าย เจ้าหน้าพบร่างดร.วิรัช เหล่าศิริชน อายุ 58 ปี เจ้าของบริษัท ยิทเทิ่ลแอสเซส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทขายห้องชุดคอนโดมิเนียม และเปิดบริษัทเกี่ยวกับผลิตถังบรรจุแก๊สและถังเหล็กอื่นๆชื่อ บริษัท ชื่นศิริ จำกัด นอนหงายจมกองเลือดอยู่บนพื้นห้องข้างเตียงนอน ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินเข้ม ตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .22 เข้าที่กกหูขวาทะลุขมับซ้าย ใกล้กันพบอาวุธปืนขนาด .22 ตกอยู่ 1 กระบอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนที่ห้องนอนฝั่งขวาพบร่างนายเจนวิทย์ เหล่าศิริชน อายุ 26 ปี นักศึกษาปริญญาโท สถาบันศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นลูกชายของผู้ตายทั้งสอง มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล บี.เอ็น.เอช. แพทย์รีบนำตัวเข้าห้องไอซียูเพื่อช่วยชีวิตทันที โดยแพทย์ได้ผ่าตัดเอาหัวกระสุนนออกจากศีรษะแล้ว แต่อาการยังสาหัสอยู่
นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราย ซึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้แล้ว ทราบต่อมาชื่อนางพวงจันทร์ เหล่าศิริชน อายุ 53 ปี ภรรยาของดร.วิรัช โดยถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่บริเวณหลังใบหูซ้าย ทะลุใบหน้า อาการสาหัส แต่ต่อมา ทั้งดร.วิรัชและนางพวงจันทร์ เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ตำรวจสอบปากคำนายบุญเลิศ สำแดงวงษ์ ผู้ดูแลอาคาร ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00 น. มีเจ้าหน้าที่รปภ. พบเห็นนางพวงจันทร์ ได้รับบาดเจ็บมีเลือดอาบเต็มใบหน้า จึงรีบเรียกคนมาช่วยกันนำส่งรพ.บี.เอ็น.เอช หลังจากนั้น และเมื่อเจ้าหน้าที่อาคารกลับมายังคอนโดฯเพื่อตามหาดร.วิรัช กับนายเจนวิทย์ที่อาคารแต่ไม่พบ จึงขึ้นไปดูบนห้อง ก็พบทั้งคู่นอนหายใจรวยรินอยู่แล้ว จึงรีบนำส่งรพ. แต่ดร.วิรัชและนางพวงจันทร์ได้เสียชีวิตดังกล่าว
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า นายวิรัช กับนางพวงจันทร์ สองสามีภรรยาได้เปิดบริษัททำธุรกิจดังกล่าว แต่มาระยะหลังนายวิรัชมักมีปัญหาทะเลาะกับนางพวงจันทร์บ่อยครั้ง จนกระทั่งมีการจดทะเบียนหย่าแต่ยังอยู่ด้วยกัน อีกทั้งนายวิรัชยังมีอาการทางประสาท และเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา นางพวงจันทร์ได้ทำพินัยกรรมไว้ 1 ฉบับ มีใจความว่าจะยกสมบัติทั้งหมดให้นายเจนวิทย์ ลูกชาย และน้องของนางพวงจันทร์เป็นผู้จัดการมรดกทั้งหมด จึงคาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้นายวิรัชก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนางพวงจันทร์ ผู้เป็นภรรยาจนเสียชีวิต และยิง นายเจนวิทย์จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงตัวเองตายตาม
สำหรับ นายวิรัช และนางพวงจันทร์ ยังมีลูกสาวคนเล็กอีก 1 คน คือ น.ส.พิชญา เหล่าศิริชน ซึ่งระหว่างเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในห้องดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างนำตัวมาสอบปากคำหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป นอกจากนี้ น.ส.พิชญา เคยเป็นนักกีฬาเทนนิสเข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสเยาวชนนานาชาติ บังกลาเทศ ไอทีเอฟจูเนียร์ กรุ๊ป 3 ระหว่างวันที่ 16-20 กุมภาพันธ์ ปี 45 ที่เมืองดักกา ประเทศบังกลาเทศ ซึ่งเป็นมือวางอันดับ 1 แต่ไปได้แค่รอบรองชนะเลิศ ก่อนจะปราชัย หวัง ติงเวน ดาวรุ่งจีนไทเป 2-6, 2-6 และขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) และเป็นนักกีฬาเทนนิสของสถาบันเข้าร่วมแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 34 หรือ ราชพฤกษ์เกมส์ เมื่อช่วงเดือนมกราคม ที่ผ่านมาอีกด้วย
ด้าน พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกตัว น.ส.พิชญา เหล่าศิริชน ลูกสาวคนเล็กของผู้ตาย และ รปภ.ของคอนโดมิเนียมที่เข้าเวรช่วงเกิดเหตุ รวมทั้งคนขับรถของนายวิรัชมาทำการสอบปากคำ ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากเรื่องธุรกิจที่ประสบปัญหา