ผู้ใช้รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เผารถจำลองหน้าสถานทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ประท้วงที่ไอเสียจากรถเข้าไปในห้องโดยสาร ระบุ เป็น "โตโยฆ่า” ต้องตายผ่อนส่ง
วันนี้ (2 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สถานทูตญี่ปุ่น นายปรีชา สันติจิรกุล อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154/15 หมู่ 7 ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม และนายปราณ ปานน้อย อายุ 43 ปี ตัวแทนจากกลุ่มประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่บกพร่องเป็นอันตรายต่อสุขภาพชีวิตและทรัพย์สิน เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนเจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่น ว่า รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ มีปัญหาก๊าซพิษไหลย้อนกลับเข้าภายในห้องผู้โดยสาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปรีชา ได้ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียนศว-1436 กทม.มาจอดที่ด้านหน้าสถานทูต โดยด้านขวาของรถมีป้ายเขียนว่า “โตโยฆ่า ฟอร์จูนเนอร์ ไอเสียย้อนเข้าในห้องโดยสาร ด้านหลังมีป้ายแปะว่า “อันตราย ไอเสียย้อนเข้าในห้องโดยสาร หยุด เอฟทีเอ ไทย-ญี่ปุ่น รถญี่ปุ่นที่ไม่รับผิดชอบชีวิตคนไทย” นอกจากนี้ ยังมีรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ จำลองทำจากกระดาษวางไว้บนรถเพื่อเตรียมมาเผาประท้วงด้วย
นายปรีชา กล่าวว่า ที่มาในวันนี้ เพราะมีวัตุประสงค์ 3 ประการ คือ 1.เพื่อส่งสัญญาณเตือนภัยถึงผู้ใช้รถฟอร์จูนเนอร์ให้ระมัดระวังปัญหาก๊าซพิษไอเสียไหลย้อนกลับเข้ามาภายในห้องโดยสารทางช่องระบายอากาศหลังรถ ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ข้อ 2.เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นกดดันบริษัท โตโยต้า ญี่ปุ่นให้ออกหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรและรับผิดชอบต่อข้อบกพร่องของรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่เกิดปัญหาก๊าซพิษไหลย้อนกลับเข้ามาในห้องโดยสารทางช่องระบายอากาศหลังรถ และปัญหาระบบเบรกที่บกพร่อง อย่างเป็นทางการ ตามวิถีทางประชาธิปไตย และข้อสุดท้าย เพื่อต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลไทยชะลอการลงนามในการตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจ ไทย-ญี่ปุ่น จนกว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะแสดงความจริงใจและรับผิดชอบต่อสินค้าโตโยาต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่เกิดข้อบกพร่องดังกล่าว
นายปรีชา กล่าวต่อว่า ตนเองและผู้ใช้รถฟอร์จูนเนอร์จำนวนมาก ตรวจพบคราบเขม่าดำ จากไอเสียที่ไหลย้อนกลับมาในห้องโดยสาร ทำให้ผู้ใช้รถเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย และง่วงนอน หากอยู่ในห้องโดยสารเป็นเวลานานโดยเฉพาะผู้ที่เป็นภูมิแพ้และเด็ก รวมไปถึงผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ก็จะทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น ซึ่งเบื้องตันสันนิษฐานว่า มาจากก๊าซพิษคาร์บอนมอนอกไซด์ ที่ไอเสียไหลย้อนกลับมา และยังมีผู้ใช้รถอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการแจ้งเตือนภัยนี้ จึงเหมือนเป็นการตายผ่อนส่งโดยไม่รู้ตัว
นายปรีชา กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อ 2 ปีก่อน วันที่ 27 ต.ค.2548 ตนเองเคยไปร้องเรียนเรื่องเบรกที่ศูนย์โตโยต้าลิบร้า มาแล้วครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งประท้วงด้วยการเผาดิสก์เบรกที่หน้าศูนย์ดังกล่าว ซึ่งทางโตโยต้าก็รีบออกมาชี้แจงกับลูกค้าในวันนั้นทันที ว่า ระบบเบรกรถฟอร์จูนเนอร์ทุกคันมีคุณภาพมาตรฐาน แต่ต่อมาวันที่ 15 ก.พ.2549 ทางโตโยต้ากลับทำหนังสือชี้แจงไปยัง สคบ.ว่า ผลการทดสอบเบรกไม่พบรอยแตกร้าว แต่มีอุณหภูมิของผ้าเบรกสูงสุดถึง 550 องศาเซลเซียส ทำให้ความสามารถในการหยุดรถลดลง ซึ่งถือว่าอาจะทำให้เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถได้
นายปรีชา กล่าวอีกว่า การที่โตโยต้าทำแบบนี้ถือว่าเป็นการปกปิดข้อมูลข้อบกพร่องของรถฟอร์จูนเนอร์ไม่ให้ผู้บริโภครับรู้ และในวันนี้ตนจึงเดินทางมาแจ้งเตือนให้ผู้ที่ใช้รถรุ่นดังกล่าวรับรู้ถึงอันตรายของระบบเบรกที่ไม่ได้มาตรฐาน และก๊าซพิษที่จะไหลย้อนกลับเข้ามาในห้องโดยสาร และหลังจากนี้ตนเองจะไม่ขอมาร้องเรียนอะไรอีกแน่นอน
จากนั้น นายปรีชา ได้นำรถฟอร์จูนเนอร์จำลองมาใส่ถาดเหล็ก ก่อนใช้น้ำมันราดแล้วจุดไฟเผารถคันดังกล่าว ก่อนที่จะใช้ถังดับเพลิงที่เตรียมมาฉีดดับ ซึ่งหลังจากนั้น ได้มี นายยะซึยูกิ นาริซาอะ เลขานุการโท และผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจเดินทางออกมารับหนังสือร้องเรียน จากนั้นนายปรีชาจึงเดินทางกลับ
หนุ่มวิศวกรสุดทน! ทุบ “ฟอร์จูนเนอร์” ประจาน




วันนี้ (2 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สถานทูตญี่ปุ่น นายปรีชา สันติจิรกุล อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154/15 หมู่ 7 ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม และนายปราณ ปานน้อย อายุ 43 ปี ตัวแทนจากกลุ่มประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่บกพร่องเป็นอันตรายต่อสุขภาพชีวิตและทรัพย์สิน เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนเจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่น ว่า รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ มีปัญหาก๊าซพิษไหลย้อนกลับเข้าภายในห้องผู้โดยสาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปรีชา ได้ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียนศว-1436 กทม.มาจอดที่ด้านหน้าสถานทูต โดยด้านขวาของรถมีป้ายเขียนว่า “โตโยฆ่า ฟอร์จูนเนอร์ ไอเสียย้อนเข้าในห้องโดยสาร ด้านหลังมีป้ายแปะว่า “อันตราย ไอเสียย้อนเข้าในห้องโดยสาร หยุด เอฟทีเอ ไทย-ญี่ปุ่น รถญี่ปุ่นที่ไม่รับผิดชอบชีวิตคนไทย” นอกจากนี้ ยังมีรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ จำลองทำจากกระดาษวางไว้บนรถเพื่อเตรียมมาเผาประท้วงด้วย
นายปรีชา กล่าวว่า ที่มาในวันนี้ เพราะมีวัตุประสงค์ 3 ประการ คือ 1.เพื่อส่งสัญญาณเตือนภัยถึงผู้ใช้รถฟอร์จูนเนอร์ให้ระมัดระวังปัญหาก๊าซพิษไอเสียไหลย้อนกลับเข้ามาภายในห้องโดยสารทางช่องระบายอากาศหลังรถ ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ข้อ 2.เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นกดดันบริษัท โตโยต้า ญี่ปุ่นให้ออกหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรและรับผิดชอบต่อข้อบกพร่องของรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่เกิดปัญหาก๊าซพิษไหลย้อนกลับเข้ามาในห้องโดยสารทางช่องระบายอากาศหลังรถ และปัญหาระบบเบรกที่บกพร่อง อย่างเป็นทางการ ตามวิถีทางประชาธิปไตย และข้อสุดท้าย เพื่อต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลไทยชะลอการลงนามในการตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจ ไทย-ญี่ปุ่น จนกว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะแสดงความจริงใจและรับผิดชอบต่อสินค้าโตโยาต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่เกิดข้อบกพร่องดังกล่าว
นายปรีชา กล่าวต่อว่า ตนเองและผู้ใช้รถฟอร์จูนเนอร์จำนวนมาก ตรวจพบคราบเขม่าดำ จากไอเสียที่ไหลย้อนกลับมาในห้องโดยสาร ทำให้ผู้ใช้รถเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย และง่วงนอน หากอยู่ในห้องโดยสารเป็นเวลานานโดยเฉพาะผู้ที่เป็นภูมิแพ้และเด็ก รวมไปถึงผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ก็จะทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น ซึ่งเบื้องตันสันนิษฐานว่า มาจากก๊าซพิษคาร์บอนมอนอกไซด์ ที่ไอเสียไหลย้อนกลับมา และยังมีผู้ใช้รถอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการแจ้งเตือนภัยนี้ จึงเหมือนเป็นการตายผ่อนส่งโดยไม่รู้ตัว
นายปรีชา กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อ 2 ปีก่อน วันที่ 27 ต.ค.2548 ตนเองเคยไปร้องเรียนเรื่องเบรกที่ศูนย์โตโยต้าลิบร้า มาแล้วครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งประท้วงด้วยการเผาดิสก์เบรกที่หน้าศูนย์ดังกล่าว ซึ่งทางโตโยต้าก็รีบออกมาชี้แจงกับลูกค้าในวันนั้นทันที ว่า ระบบเบรกรถฟอร์จูนเนอร์ทุกคันมีคุณภาพมาตรฐาน แต่ต่อมาวันที่ 15 ก.พ.2549 ทางโตโยต้ากลับทำหนังสือชี้แจงไปยัง สคบ.ว่า ผลการทดสอบเบรกไม่พบรอยแตกร้าว แต่มีอุณหภูมิของผ้าเบรกสูงสุดถึง 550 องศาเซลเซียส ทำให้ความสามารถในการหยุดรถลดลง ซึ่งถือว่าอาจะทำให้เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถได้
นายปรีชา กล่าวอีกว่า การที่โตโยต้าทำแบบนี้ถือว่าเป็นการปกปิดข้อมูลข้อบกพร่องของรถฟอร์จูนเนอร์ไม่ให้ผู้บริโภครับรู้ และในวันนี้ตนจึงเดินทางมาแจ้งเตือนให้ผู้ที่ใช้รถรุ่นดังกล่าวรับรู้ถึงอันตรายของระบบเบรกที่ไม่ได้มาตรฐาน และก๊าซพิษที่จะไหลย้อนกลับเข้ามาในห้องโดยสาร และหลังจากนี้ตนเองจะไม่ขอมาร้องเรียนอะไรอีกแน่นอน
จากนั้น นายปรีชา ได้นำรถฟอร์จูนเนอร์จำลองมาใส่ถาดเหล็ก ก่อนใช้น้ำมันราดแล้วจุดไฟเผารถคันดังกล่าว ก่อนที่จะใช้ถังดับเพลิงที่เตรียมมาฉีดดับ ซึ่งหลังจากนั้น ได้มี นายยะซึยูกิ นาริซาอะ เลขานุการโท และผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจเดินทางออกมารับหนังสือร้องเรียน จากนั้นนายปรีชาจึงเดินทางกลับ
หนุ่มวิศวกรสุดทน! ทุบ “ฟอร์จูนเนอร์” ประจาน