สาวพนักงานการเงินโรงแรม “โนโวเทล” หายตัวไร้ร่องรอยขณะหอบเงินสดร่วมล้านฝากแบงก์ พ่อโร่แจ้งความตำรวจ เชื่อลูกสาวตายแล้ว ตร.เรียกพนักงานขับรถสอบเครียด พบพิรุธอื้อแต่ยังไม่มีหลักฐานมัด จำต้องปล่อยตัว สุดท้ายหายเข้ากลีบเมฆ
เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 27 มี.ค.50 นายรัชดา เมฆลอย อายุ 49 ปี พร้อมด้วยนายวริทธิ์ชัย ขันธบุตร อายุ 32 ปี หัวหน้าฝ่ายควบคุมต้นทุนโรงแรมโนโวเทล สาขาศรีนครินทร์ กทม. เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า ผกก.สส.น.5 เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของ น.ส.สุกานดา เมฆลอย อายุ 27 ปี พนักงานฝ่ายการเงิน โรงแรมโนโวเทล บุตรสาวของนายรัชดา ซึ่งนำเงินของโรงแรมโนโวเทล ศรีนครินทร์ ไปฝากธนาคาร โดยหลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.จักรภัณฑ์ จันทรอุทัย สว.สส.สน.บางนา เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา
นายวริทธิ์ชัย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา น.ส.สุกานดา ซึ่งมีหน้าที่นำเงินของโรงแรมเพื่อไปฝากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาแยกหนองบอน ถ.ศรีนครินทร์ โดยได้นำเงินจำนวน 4 แสนบาท และเงินต่างประเทศคิดเป็นเงินไทยประมาณ 5 แสนบาท ซึ่งเงินตราต่างประเทศจะนำไปแลกเป็นเงินสกุลไทยที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ก่อนนำไปฝากที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาซีคอนสแควร์ โดยก่อนที่จะนำเงินไปฝากเจ้าหน้าที่ของโรงแรมได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่ธนาคารไทยพาณิชย์ว่าจะนำเงินไปเข้าบัญชี กระทั่งเวลา 15.00 น.วันที่ 26 มี.ค.ทางธนาคารโทรศัพท์กลับมาแจ้งที่โรงแรมว่ายังไม่มีใครนำเงินมาฝาก และธนาคารกำลังจะปิดทำการแล้ว
นายวริทธิ์ชัย กล่าวต่อไปว่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ของโรงแรมจึงได้โทรศัพท์ไปหา น.ส.สุกานดา แต่ปรากฏว่าไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้ติดต่อไปยัง นายภาดินัย จันทร์วิมาน อายุ 46 ปี คนขับรถของโรงแรมที่เคยนำเงินไปฝากกับ น.ส.สุกานดา แต่ไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน
“จากนั้นได้ติดต่อเพื่อนของ น.ส.สุกานดา ก็ทราบว่าช่วงเที่ยง น.ส.สุกานดาไปนั่งรับประทานอาหารกับเพื่อนที่ห้องอาหารของโรงแรมโนโวเทล ในที่ทำงาน ซึ่งระหว่างรับประทานอาหาร น.ส.สุกานดา ถามหาคนนายภาดินัย คนขับรถซึ่งได้นัดเจอที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยวไก่ ข้างรั้วโรงแรมเพื่อที่จะนำเงินไปฝากธนาคาร จนกระทั่งเที่ยงกว่า น.ส.สุกานดาก็เดินไปหาคนขับรถที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งปกติคนขับรถจะต้องรอพนักงานอยู่ด้านหลังโรงแรม แต่ครั้งนี้ก็ผิดสังเกตที่ไปจอดรอที่ข้างโรงแรม ซึ่งตอนนั้นติดต่อไม่ได้ทั้งสองคน จึงตัดสินเข้าแจ้งความ” นายวริทธิ์ชัย
นายรัชดา กล่าวว่า ทันทีที่รู้ว่าลูกสาวหายไปจึงเข้ามาแจ้งให้ตำรวจช่วยติดตาม เพราะไม่ทราบว่าเป็นตายอย่างไร โดยส่วนตัวเชื่อว่าลูกสาวไม่น่าจะมีชีวิตอยู่แล้ว เพราะหากลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ก็น่าจะโทร.กลับมาหาตน สำหรับลูกสาวเป็นคนขยันทำงาน มีความรับผิดชอบ
ด้าน พ.ต.อ.ชาญ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน ศอ 2808 คันที่นายภาดินัยใช้ขับไปในวันเกิดเหตุพบว่ามีรอยคราบเลือดติดอยู่ และกระจกและกันชนมีรอยเปลี่ยนใหม่ จึงได้ติดตามตัวนายภาดินัย จนพบที่บ้านพักเลขที่ 48/164 หมู่ 4 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.จึงนำตัวมาสอบสวน
เบื้องต้น นายภาดินัย ให้การอ้างว่า ขณะขับรถพา น.ส.สุกานดาไปฝากเงินที่แบงก์ไทยพาณิชย์ สาขาแยกหนองบอน ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุมีรถจักรยานยนต์ขับมาพุ่งชนจนคนขี่รถจักรยานยนต์กระเด็นมาตกที่กระจกหน้ารถทำให้กระจกแตก แต่คนไม่เป็นอะไร ตนไม่กล้าโทร.แจ้งประกันเพราะเป็นรถของโรงแรมจึงลงไปเคลียร์จนคนมอเตอร์ไซค์ยอมจ่ายเงินให้ 5,000 บาทเพื่อเป็นค่าซ่อมกระจกรถ ตนจึงนำรถไปเปลี่ยนกระจกและกันชนใหม่ โดยขณะที่เกิดอุบัติเหตุ น.ส.สุกานดาขอนำเงินไปฝากแบงก์เอง เพราะกลัวว่าธนาคารจะปิด และหลังจากนั้นตนไม่ทราบว่า น.ส.สุกานดาหายไปไหน
อย่างไรก็ตาม คำให้การของนายภาดินัยยังพบพิรุธหลายอย่าง แต่ตำรวจไม่มีหลักฐานชัดเจนที่จะเอาผิดได้ หลังสอบปากคำเสร็จจึงจำเป็นต้องปล่อยตัวไป กระทั่งวันนี้(27) มาตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรม น่าเชื่อว่านายภาดินัยน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ น.ส.สุกานดา จึงให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนไปติดตามตัวที่บ้านพักแต่กลับไม่พบตัว อย่างไรก็ตามจะติดตามตัวมาสอบสวนต่อไป