ปส.โชว์ผลงานจับ 2 พี่มืดรับจ้างกลืนโคเคนหวังตบตาตำรวจ ขายนักท่องเที่ยวขี้ยาไทย-เทศ แต่ไม่รอดถูกจับถ่ายท้องพร้อมของกลางกว่า 1 กก. อีกรายจับสาวไทยระเริงพนันบ่อนเขมรจนหมดตัวซ้ำเป็นหนี้ ถูกยื่นข้อเสนอขนยาบ้าส่งฝั่งไทยแถมเงินให้อีก 2 หมื่น เจ้าตัวรับทำแต่สุดท้ายไม่รอดถูก ปส.รวบได้ที่ชายแดน รายสุดท้ายไทย-กะเหรี่ยงแอบขนยาบ้าหวังขายแรงงานต่างด้าว แต่ไม่รอดถูกรวบอีกเช่นกัน
วันนี้ (22 มี.ค) เวลา 14.30 น. กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) โดย พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผบช.ปส. พล.ต.ต.อุดม รักศีลธรรม พล.ต.ต.ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รอง ผบช.ปส. แถลงผลการจับกุมนายพาไนโฟ วอลกี้ อีลีโอโดโร อายุ 27 ปี สัญชาติเปรู พร้อมของกลางโคเคนอัดเป็นก้อน จำนวน 124 ก้อน และนายกอโดย พาสซาดี้ เมอซีเดส อายุ 29 ปี ชาวเปรู พร้อมของกลางโคเคนจำนวน 91 ก้อน แจ้งข้อหาทั้งคู่ว่า นำเข้าและมียาเสพติดประเภทที่ (โคเคน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สายสืบ บก.ปส.ทราบว่าจะมีชาวต่างชาติลักลอบขนโคเคนเข้ามาจำหน่ายบริเวณจังหวัดภูเก็ต จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.สันติชัย วีระภาคย์การุณ ผกก.2 บก.ปส.3 และ พ.ต.อ.สุรศักดิ์ อรรถปัณยวนิช ผกก.ตม.ท่าอากาศยานภูเก็ต ร่วมกันติดตามจับกุม จนกระทั่งวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพบนายพาไนโฟ เดินทางมาลงที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งมีลักษณะรูปพรรณตรงกับที่สายรายงานจึงแสดงตัวขอตรวจค้นแต่ไม่พบของกลาง จึงควบคุมตัวไปทำการเอกซเรย์ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต พบโคเคนพันด้วยพลาสติกหุ้มอย่างแน่นหนาภายในท้อง จึงให้แพทย์ทำการถ่ายท้องนำของกลางออกมาได้จำนวน 124 ก้อน น้ำหนักรวมวัสดุหุ้ม 1,203.12 กรัม แต่จากการสอบสวนผู้ต้องหาไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ แต่พูดได้เพียงภาษาสเปนจึงประสานล่ามช่วยในการสอบปากคำ จนทราบว่าจะมีการขนโคเคนเข้ามาอีก
พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ต่อมาวันที่ 21 มี.ค.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ดักซุ่มที่ท่าอากาศยานภูเก็ต กระทั่งพบนายกอโดย ซึ่งมีรูปพรรณตรงกับที่ผู้ต้องหารายแรกให้การ จึงได้ทำการตรวจค้น และนำตัวไปเอกซเรย์พบโคเคนอยู่ในท้องอีกจำนวน 91 ก้อน ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างขนมาจากประเทศแถบอเมริกาใต้ เมื่อเข้ามาในประเทศไทยจะแบ่งขายให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ในราคากรัมละ 3,000 บาท ซึ่งน้ำหนักรวมของโคเคนจากผู้ต้องหาทั้งหมดประมาณ 1 กิโลกรัม ราคารวมประมาณ 3 ล้านบาท
อีกราย พล.ต.ท.สุวัฒน์ แถลงการจับกุม น.ส.ยุวรัตน์ หรือเอ็ม ฟองคำ อายุ 27 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 7,773 เม็ด บรรจุกระป๋องแป้งเด็ก โดยสามารถจับกุมได้ที่ซอยทางเข้าหมู่บ้านวังมน หมู่ 3 ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สายสืบได้สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาบ้าเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยทางด้านชายแดนด่านอรัญประเทศ จึงได้วางแผนจับกุมพบผู้ต้องหาท่าทางมีพิรุธจึงได้ขอดำเนินการตรวจสอบ พบของกลางดังกล่าวอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าของผู้ต้องหา จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้เดินทางมาเล่นการพนันในบ่อนเขมรจนเสียเงินหมดตัว และทางเจ้าหนี้ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลและกว้างขวางในประเทศกัมพูชาได้ยื่นข้อเสนอให้ขนยาเสพติดเข้ามาฝั่งไทยเพื่อทำการล้างหนี้ อีกทั้งจะให้เงินค่าขนยาบ้าอีกจำนวน 20,000 บาท ผู้ต้องหาจึงยินดีทำตามข้อเสนอกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ดังกล่าว
ผบช.ปส.กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนขยายผลทราบว่าผู้ต้องหาที่จะรอรับยาบ้าที่ปลายทางเป็นใคร แต่เนื่องจากผู้ต้องหาไหวตัวทันหลบหนีไปได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ทราบชื่อและรูปพรรณสัณฐานแล้ว ซึ่งจะได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลเพื่อติดตามจับกุมต่อไป
พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวต่อด้วยว่า อีกรายเจ้าหน้าที่ ปส.สามารถจับกุม น.ส.หวา (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 20 ปี ชาวกะเหรี่ยงสัญชาติพม่า พักอยู่ห้องพักไม่มีเลขที่ ซ.สุขสวัสดิ์ 74 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ นายตุดา เพชรไพรงาม อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/6 ม.2 ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก นายพะโลวา ไม่ทราบนามสกุล อายุ 32 ปี ชาวกะเหรี่ยงสัญชาติพม่า และนายอำนาจ หรือเล่ามี่ หรือเจอ แซ่ม้า อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 20 ม.5 ต.แม่ละมุ้ง อ. อุ้มผาง จ.ตาก พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 42,000 เม็ด รถจักรยานยนต์ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้ที่บนถนนสายเพชรเกษม อ.สามพราน จ.นครปฐม
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 มี.ค.50 เวลา 17.30 น. ได้รับแจ้งสายลับจะมีการลักลอบส่งยาบ้า บริเวณบนถนนเพชรเกษม อ.สามพราน จ.นครปฐม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนจับกุม ซึ่งพบบุคคลตรงตามที่สายลับแจ้งจึงขอเข้าตรวจค้นพบผู้ต้องหาและของกลางดังกล่าว
ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ขนยาบ้ามาจากชายแดนประเทศพม่า เข้าทางภาคเหนือของไทย โดยจะนำมาขายที่ผู้ใช้แรงงานชาวต่างด้าวที่ จ.สมุทรปราการ และอำเภอสามพราน จ.นครปฐม


วันนี้ (22 มี.ค) เวลา 14.30 น. กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) โดย พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผบช.ปส. พล.ต.ต.อุดม รักศีลธรรม พล.ต.ต.ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รอง ผบช.ปส. แถลงผลการจับกุมนายพาไนโฟ วอลกี้ อีลีโอโดโร อายุ 27 ปี สัญชาติเปรู พร้อมของกลางโคเคนอัดเป็นก้อน จำนวน 124 ก้อน และนายกอโดย พาสซาดี้ เมอซีเดส อายุ 29 ปี ชาวเปรู พร้อมของกลางโคเคนจำนวน 91 ก้อน แจ้งข้อหาทั้งคู่ว่า นำเข้าและมียาเสพติดประเภทที่ (โคเคน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สายสืบ บก.ปส.ทราบว่าจะมีชาวต่างชาติลักลอบขนโคเคนเข้ามาจำหน่ายบริเวณจังหวัดภูเก็ต จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.สันติชัย วีระภาคย์การุณ ผกก.2 บก.ปส.3 และ พ.ต.อ.สุรศักดิ์ อรรถปัณยวนิช ผกก.ตม.ท่าอากาศยานภูเก็ต ร่วมกันติดตามจับกุม จนกระทั่งวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพบนายพาไนโฟ เดินทางมาลงที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งมีลักษณะรูปพรรณตรงกับที่สายรายงานจึงแสดงตัวขอตรวจค้นแต่ไม่พบของกลาง จึงควบคุมตัวไปทำการเอกซเรย์ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต พบโคเคนพันด้วยพลาสติกหุ้มอย่างแน่นหนาภายในท้อง จึงให้แพทย์ทำการถ่ายท้องนำของกลางออกมาได้จำนวน 124 ก้อน น้ำหนักรวมวัสดุหุ้ม 1,203.12 กรัม แต่จากการสอบสวนผู้ต้องหาไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ แต่พูดได้เพียงภาษาสเปนจึงประสานล่ามช่วยในการสอบปากคำ จนทราบว่าจะมีการขนโคเคนเข้ามาอีก
พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ต่อมาวันที่ 21 มี.ค.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ดักซุ่มที่ท่าอากาศยานภูเก็ต กระทั่งพบนายกอโดย ซึ่งมีรูปพรรณตรงกับที่ผู้ต้องหารายแรกให้การ จึงได้ทำการตรวจค้น และนำตัวไปเอกซเรย์พบโคเคนอยู่ในท้องอีกจำนวน 91 ก้อน ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างขนมาจากประเทศแถบอเมริกาใต้ เมื่อเข้ามาในประเทศไทยจะแบ่งขายให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ในราคากรัมละ 3,000 บาท ซึ่งน้ำหนักรวมของโคเคนจากผู้ต้องหาทั้งหมดประมาณ 1 กิโลกรัม ราคารวมประมาณ 3 ล้านบาท
อีกราย พล.ต.ท.สุวัฒน์ แถลงการจับกุม น.ส.ยุวรัตน์ หรือเอ็ม ฟองคำ อายุ 27 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 7,773 เม็ด บรรจุกระป๋องแป้งเด็ก โดยสามารถจับกุมได้ที่ซอยทางเข้าหมู่บ้านวังมน หมู่ 3 ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สายสืบได้สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาบ้าเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยทางด้านชายแดนด่านอรัญประเทศ จึงได้วางแผนจับกุมพบผู้ต้องหาท่าทางมีพิรุธจึงได้ขอดำเนินการตรวจสอบ พบของกลางดังกล่าวอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าของผู้ต้องหา จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้เดินทางมาเล่นการพนันในบ่อนเขมรจนเสียเงินหมดตัว และทางเจ้าหนี้ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลและกว้างขวางในประเทศกัมพูชาได้ยื่นข้อเสนอให้ขนยาเสพติดเข้ามาฝั่งไทยเพื่อทำการล้างหนี้ อีกทั้งจะให้เงินค่าขนยาบ้าอีกจำนวน 20,000 บาท ผู้ต้องหาจึงยินดีทำตามข้อเสนอกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ดังกล่าว
ผบช.ปส.กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนขยายผลทราบว่าผู้ต้องหาที่จะรอรับยาบ้าที่ปลายทางเป็นใคร แต่เนื่องจากผู้ต้องหาไหวตัวทันหลบหนีไปได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ทราบชื่อและรูปพรรณสัณฐานแล้ว ซึ่งจะได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลเพื่อติดตามจับกุมต่อไป
พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวต่อด้วยว่า อีกรายเจ้าหน้าที่ ปส.สามารถจับกุม น.ส.หวา (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 20 ปี ชาวกะเหรี่ยงสัญชาติพม่า พักอยู่ห้องพักไม่มีเลขที่ ซ.สุขสวัสดิ์ 74 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ นายตุดา เพชรไพรงาม อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/6 ม.2 ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก นายพะโลวา ไม่ทราบนามสกุล อายุ 32 ปี ชาวกะเหรี่ยงสัญชาติพม่า และนายอำนาจ หรือเล่ามี่ หรือเจอ แซ่ม้า อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 20 ม.5 ต.แม่ละมุ้ง อ. อุ้มผาง จ.ตาก พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 42,000 เม็ด รถจักรยานยนต์ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้ที่บนถนนสายเพชรเกษม อ.สามพราน จ.นครปฐม
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 มี.ค.50 เวลา 17.30 น. ได้รับแจ้งสายลับจะมีการลักลอบส่งยาบ้า บริเวณบนถนนเพชรเกษม อ.สามพราน จ.นครปฐม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนจับกุม ซึ่งพบบุคคลตรงตามที่สายลับแจ้งจึงขอเข้าตรวจค้นพบผู้ต้องหาและของกลางดังกล่าว
ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ขนยาบ้ามาจากชายแดนประเทศพม่า เข้าทางภาคเหนือของไทย โดยจะนำมาขายที่ผู้ใช้แรงงานชาวต่างด้าวที่ จ.สมุทรปราการ และอำเภอสามพราน จ.นครปฐม