ส.ต.ท.พร้อมพวกรวม 3 คนโคตรแมน! รุมเทะโลมลวนลามสาวคาราโอเกะไม่สำเร็จ ถูกด่ากลับมาเปิง เจ็บใจขี่รถ จยย.ตามไปชักสปาต้าฟันแขนสาวเจ้าขาดกระเด็น แจ้งความแล้วร้อยเวรก็แสนดีเตรียมเป่าเป็นแค่คดีอุบัติเหตุ สาวเจ้าเกรงคดีล้มเข้าร้อง “เสรีพิศุทธ์” ช่วยผดุงความยุติธรรม กำจัดตำรวจเลว
วันนี้ (21 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ น.ส.สุพรรษา วิชานันท์ อายุ 24 ปี พร้อมด้วย นายณรงค์ วงศ์ทรัพย์ทวีสิน อายุ 49 ปี ซึ่งอ้างตัวเป็นญาติ น.ส.สุพรรษา เดินทางมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในสภาพนั่งรถเข็นผู้ป่วยที่เท้าขวาใส่เฝือก ที่แขนขวาซึ่งเหลือเพียงครึ่งท่อนถูกพันด้วยผ้าพันแผลไว้ โดยเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาราชการแทน ผบ.ตร. กรณีถูก ส.ต.ท.นิรุท ธรรมทรัพย์ ผบ.หมู่ ป. สภ.อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี พร้อมด้วยนายนิรัตน์ กองธรรม อายุ 23 ปี และนายประสาน บุญดก อายุ 25 ปี รวม 3 คน ทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีดฟันแขนขวาจนขาด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่คดีไม่มีความคืบหน้า และเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงต้องเดินทางมาร้องทุกข์ดังกล่าว โดยมี พล.ต.ท.รณรงค์ ยั่งยืน โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับเรื่อง
น.ส.สุพรรษา เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพเป็นสาวโรงงานใน จ.อ่างทอง แต่ประสบปัญหาภายในครอบครัวจึงได้หนีออกจากบ้านเมื่อวันที่ 22 ก.พ.มาพักกับเพื่อนยัง อ.บ้านหมอ และสมัครเข้าทำงานเป็นนักร้องประจำร้านคาราโอเกะ ชื่อ “น้องรีจ๋า คาราโอเกะ” ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ก.พ.หลังจากได้ร้องเพลงตามปกติจนร้านปิดในเวลา 02.00 น.จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปรับประทานอาหารที่ร้านข้าวต้มโต้รุ่งซึ่งอยู่ห่างจากร้านคาราโอเกะประมาณ 150 เมตร ระหว่างที่นั่งรับประทานอาหารก็พบว่าโต๊ะข้างๆ มี ส.ต.ท.นิรุท และพวก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย และเจ้าหน้าที่ อปพร.นั่งดื่มสุรากันอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นตนเป็นหญิงสาวมานั่งรับประทานอาหารเพียงคนเดียว ทั้ง 3 คนจึงยกขวดยกแก้วเหล้าย้ายโต๊ะเข้ามานั่งประกบที่โต๊ะตน จากนั้นพากันพูดจาแทะโลมลวนลาม ด้วยความที่ไม่รู้จักกันมาก่อนตนจึงเกิดความไม่พอใจและด่ากลับไปเพื่อไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับตนอีก
น.ส.สุพรรษา กล่าวต่อว่า หลังจากรับประทานอาหารเสร็จได้เดินออกจากร้านเพื่อไปขี่รถจักรยานยนต์กลับที่พัก แต่ปรากฏว่าชายทั้ง 3 คนเดินตามมาที่รถแล้วแย่งกุญแจที่เสียบเตรียมสตาร์ทออกไม่ยอมคืนให้ จากนั้นได้พูดจาชักชวนให้ตนไปร้องคาราโอเกะต่อที่ห้อง โดย ส.ต.ท.นิรุทบอกว่าจะไม่ทำอะไร พร้อมกับควักบัตรข้าราชการตำรวจ วิทยุสื่อสาร และอาวุธปืน 11 มม.มาให้ดู ซึ่งตนได้ยืนกรานปฏิเสธที่จะไปด้วย พร้อมทั้งขอกุญแจคืน แต่ทั้ง 3 คนไม่ยอมคืนกุญแจให้
น.ส.สุพรรรษา กล่าวยอมรับว่า ด้วยความโมโหได้โพล่งคำว่า “ไอ้เหี้...” ออกไป ทำให้ ส.ต.ท.นิรุทตอบสวนกลับมาว่า “เล่นตัวนักอีนี่ เดี๋ยวออกไปมึงโดนแน่” ขณะที่เพื่อนของ ส.ต.ท.นิรุทอีกคนก็พูดจาในลักษณะเดียวกัน ก่อนที่จะคืนกุญแจรถและยอมปล่อยให้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาได้ แต่เมื่อขี่รถออกมาได้ประมาณ 2 กม. ปรากฏว่าทั้ง 3 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามมา 2 คัน ตนจึงได้พยายามเร่งเครื่องหลบหนี แต่ทั้ง 3 คนตามทัน ระหว่างนั้น 1 ใน 3 คน ทราบเพียงชื่อนายกุ้ง ได้ชักอาวุธมีดสปาต้าออกมาฟันเข้าที่แขนขวาตนจนขาดกระเด็น ทั้งๆ ที่ยังขี่รถจักรยานยนต์อยู่จึงได้พยายามใช้มือซ้ายประคองรถไปได้เพียง 15 เมตร รถก็เสียหลักล้มลง ในขณะที่ขาขวาเข้าไปเกี่ยวกับล้อจนหัก 3 ท่อน นอนร้องขอความช่วยเหลืออยู่กับพื้น ส่วน ส.ต.ท.นิรุทและพวกพากันหลบหนีไป ต่อมาพลเมืองดีผ่านมาประสบเหตุได้นำตัวส่งโรงพยาบาลบ้านหมอ และในวันรุ่งขึ้นจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.อ.บ้านหมอ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ได้เดินทางไปสอบปากคำตนที่โรงพยาบาล แต่อ้างว่าตนไม่มีสติสัมปะชัญญะ ให้การไม่ได้ ซึ่งขอยืนยันว่าตนมีสติสัมปะชัญญะสมบูรณ์ดี
“ตำรวจพยายามทำคดีให้เป็นคดีอุบัติเหตุ เวลาผ่านมาหลายวันไม่มีความคืบหน้า แม้จะมีการนำรูปผู้ต้องหามาให้ดูแต่ก็ไม่มีความคืบหน้า หนูเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงปรึกษาญาติ และมาร้องทุกข์ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันนี้” น.ส.สุพรรณษา กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.รณรงค์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำการตรวจสอบรายละเอียดแล้ว พบว่าผู้ก่อเหตุ คือ ส.ต.ท.นิรุท ธรรมทรัพย์ สังกัด สภ.อ.บ้านหมอ จึงได้สั่งการให้ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด โดยให้ ผกก.สภ.อ.บ้านหมอ รายงานรายละเอียดมาให้ทราบ แต่เบื้องต้นพบว่าเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวนได้เรียก ส.ต.ท.นิรุท กับพวกมาแจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่าและทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว จากนั้นอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวไปทั้ง 3 คน ขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ในส่วนของ ส.ต.ท.นิรุท หากพบว่าผิดจริงจะลงโทษขั้นเด็ดขาดทั้งทางวินัย และอาญา ส่วนผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.ท.นิรุทและร.ต.ท.ธนาวรรณ มาตราราช ร้อยเวรที่รับแจ้งเหตุ หากตรวจสอบพบว่าไม่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาและพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างที่ผู้เสียหายร้องเรียนมาก็จะถูกลงโทษทางวินัยเช่นกัน
“เรื่องนี้จะมอบให้จเรตำรวจ และกองปราบปรามรับไปดำเนินการ เหตุที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่โหดร้ายผิดมนุษย์มนา คนร้ายเห็นผู้เสียหายเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวจึงคิดจะรังแก ด้วยหวังจะทำมิดีมิร้าย ผมจะรับเรื่องไปดำเนินการต่อไป” โฆษก ตร.รับปาก
วันนี้ (21 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ น.ส.สุพรรษา วิชานันท์ อายุ 24 ปี พร้อมด้วย นายณรงค์ วงศ์ทรัพย์ทวีสิน อายุ 49 ปี ซึ่งอ้างตัวเป็นญาติ น.ส.สุพรรษา เดินทางมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในสภาพนั่งรถเข็นผู้ป่วยที่เท้าขวาใส่เฝือก ที่แขนขวาซึ่งเหลือเพียงครึ่งท่อนถูกพันด้วยผ้าพันแผลไว้ โดยเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาราชการแทน ผบ.ตร. กรณีถูก ส.ต.ท.นิรุท ธรรมทรัพย์ ผบ.หมู่ ป. สภ.อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี พร้อมด้วยนายนิรัตน์ กองธรรม อายุ 23 ปี และนายประสาน บุญดก อายุ 25 ปี รวม 3 คน ทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีดฟันแขนขวาจนขาด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่คดีไม่มีความคืบหน้า และเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงต้องเดินทางมาร้องทุกข์ดังกล่าว โดยมี พล.ต.ท.รณรงค์ ยั่งยืน โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับเรื่อง
น.ส.สุพรรษา เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพเป็นสาวโรงงานใน จ.อ่างทอง แต่ประสบปัญหาภายในครอบครัวจึงได้หนีออกจากบ้านเมื่อวันที่ 22 ก.พ.มาพักกับเพื่อนยัง อ.บ้านหมอ และสมัครเข้าทำงานเป็นนักร้องประจำร้านคาราโอเกะ ชื่อ “น้องรีจ๋า คาราโอเกะ” ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ก.พ.หลังจากได้ร้องเพลงตามปกติจนร้านปิดในเวลา 02.00 น.จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปรับประทานอาหารที่ร้านข้าวต้มโต้รุ่งซึ่งอยู่ห่างจากร้านคาราโอเกะประมาณ 150 เมตร ระหว่างที่นั่งรับประทานอาหารก็พบว่าโต๊ะข้างๆ มี ส.ต.ท.นิรุท และพวก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย และเจ้าหน้าที่ อปพร.นั่งดื่มสุรากันอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นตนเป็นหญิงสาวมานั่งรับประทานอาหารเพียงคนเดียว ทั้ง 3 คนจึงยกขวดยกแก้วเหล้าย้ายโต๊ะเข้ามานั่งประกบที่โต๊ะตน จากนั้นพากันพูดจาแทะโลมลวนลาม ด้วยความที่ไม่รู้จักกันมาก่อนตนจึงเกิดความไม่พอใจและด่ากลับไปเพื่อไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับตนอีก
น.ส.สุพรรษา กล่าวต่อว่า หลังจากรับประทานอาหารเสร็จได้เดินออกจากร้านเพื่อไปขี่รถจักรยานยนต์กลับที่พัก แต่ปรากฏว่าชายทั้ง 3 คนเดินตามมาที่รถแล้วแย่งกุญแจที่เสียบเตรียมสตาร์ทออกไม่ยอมคืนให้ จากนั้นได้พูดจาชักชวนให้ตนไปร้องคาราโอเกะต่อที่ห้อง โดย ส.ต.ท.นิรุทบอกว่าจะไม่ทำอะไร พร้อมกับควักบัตรข้าราชการตำรวจ วิทยุสื่อสาร และอาวุธปืน 11 มม.มาให้ดู ซึ่งตนได้ยืนกรานปฏิเสธที่จะไปด้วย พร้อมทั้งขอกุญแจคืน แต่ทั้ง 3 คนไม่ยอมคืนกุญแจให้
น.ส.สุพรรรษา กล่าวยอมรับว่า ด้วยความโมโหได้โพล่งคำว่า “ไอ้เหี้...” ออกไป ทำให้ ส.ต.ท.นิรุทตอบสวนกลับมาว่า “เล่นตัวนักอีนี่ เดี๋ยวออกไปมึงโดนแน่” ขณะที่เพื่อนของ ส.ต.ท.นิรุทอีกคนก็พูดจาในลักษณะเดียวกัน ก่อนที่จะคืนกุญแจรถและยอมปล่อยให้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาได้ แต่เมื่อขี่รถออกมาได้ประมาณ 2 กม. ปรากฏว่าทั้ง 3 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามมา 2 คัน ตนจึงได้พยายามเร่งเครื่องหลบหนี แต่ทั้ง 3 คนตามทัน ระหว่างนั้น 1 ใน 3 คน ทราบเพียงชื่อนายกุ้ง ได้ชักอาวุธมีดสปาต้าออกมาฟันเข้าที่แขนขวาตนจนขาดกระเด็น ทั้งๆ ที่ยังขี่รถจักรยานยนต์อยู่จึงได้พยายามใช้มือซ้ายประคองรถไปได้เพียง 15 เมตร รถก็เสียหลักล้มลง ในขณะที่ขาขวาเข้าไปเกี่ยวกับล้อจนหัก 3 ท่อน นอนร้องขอความช่วยเหลืออยู่กับพื้น ส่วน ส.ต.ท.นิรุทและพวกพากันหลบหนีไป ต่อมาพลเมืองดีผ่านมาประสบเหตุได้นำตัวส่งโรงพยาบาลบ้านหมอ และในวันรุ่งขึ้นจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.อ.บ้านหมอ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ได้เดินทางไปสอบปากคำตนที่โรงพยาบาล แต่อ้างว่าตนไม่มีสติสัมปะชัญญะ ให้การไม่ได้ ซึ่งขอยืนยันว่าตนมีสติสัมปะชัญญะสมบูรณ์ดี
“ตำรวจพยายามทำคดีให้เป็นคดีอุบัติเหตุ เวลาผ่านมาหลายวันไม่มีความคืบหน้า แม้จะมีการนำรูปผู้ต้องหามาให้ดูแต่ก็ไม่มีความคืบหน้า หนูเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงปรึกษาญาติ และมาร้องทุกข์ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันนี้” น.ส.สุพรรณษา กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.รณรงค์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำการตรวจสอบรายละเอียดแล้ว พบว่าผู้ก่อเหตุ คือ ส.ต.ท.นิรุท ธรรมทรัพย์ สังกัด สภ.อ.บ้านหมอ จึงได้สั่งการให้ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด โดยให้ ผกก.สภ.อ.บ้านหมอ รายงานรายละเอียดมาให้ทราบ แต่เบื้องต้นพบว่าเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวนได้เรียก ส.ต.ท.นิรุท กับพวกมาแจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่าและทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว จากนั้นอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวไปทั้ง 3 คน ขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ในส่วนของ ส.ต.ท.นิรุท หากพบว่าผิดจริงจะลงโทษขั้นเด็ดขาดทั้งทางวินัย และอาญา ส่วนผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.ท.นิรุทและร.ต.ท.ธนาวรรณ มาตราราช ร้อยเวรที่รับแจ้งเหตุ หากตรวจสอบพบว่าไม่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาและพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างที่ผู้เสียหายร้องเรียนมาก็จะถูกลงโทษทางวินัยเช่นกัน
“เรื่องนี้จะมอบให้จเรตำรวจ และกองปราบปรามรับไปดำเนินการ เหตุที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่โหดร้ายผิดมนุษย์มนา คนร้ายเห็นผู้เสียหายเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวจึงคิดจะรังแก ด้วยหวังจะทำมิดีมิร้าย ผมจะรับเรื่องไปดำเนินการต่อไป” โฆษก ตร.รับปาก
