ไฟไหม้ศาลาการเปรียญวัดเมืองสุพรรณบุรี ซึ่งสร้างจากไม้สักทั้งหลัง อายุเก่าแก่กว่า 100 ปีมูลค่าเสียหายกว่า 20 ล้านบาท เผยชาวบ้านเพิ่งช่วยกันซ่อมแซมเสร็จเมื่อปี 2548 ตำรวจคาดสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 19 มี.ค. พ.ต.ท.สุชาติ พวงสมบัติ สารวัตรเวรสอบสวน.สภ.อ.บางปลาม้า ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ศาลการเปรียญวัดจระเข้ใหญ่ หมู่ 2 ต.จระเข้ใหญ่ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.ปราโมทย์ ไทรหอมหวล ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี, พ.ต.อ.ปทีป แสงทองดี ผกก.สภ.อ.บางปลาม้า, พ.ต.ต.ศิริชัย ไชยดี สวป. บางปลาม้า, พ.ต.ต.มงคล สุนทรวิภาต สารวัตร วิทยาการจังหวัดสุพรรณบุรีและ กำลังเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยพร้อมรถดับเพลิง เมื่อไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุพบว่าเป็นศาลาการเปรียญสร้างจากไม้สักทั้งหลัง ความสูง 2 ชั้น แต่ปรากฏว่าเพลิงได้ลุกไหม้จนศาลาการเปรียญเสียหายทั้งหลังแล้ว เจ้าหน้าที่จึงทำได้เพียงฉีดน้ำสกัดไม่ให้เพลิงลุกลามไปยังอาคารหลังอื่นๆ ของวัดที่อยู่ใกล้กัน โดยใช้เวลาควบคุมเพลิงนานเกือบ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
พระครูสุชาติ ปัดโชโต เจ้าอาวาสวัดจระเข้ใหญ่ กล่าวว่า ศาลาดังกล่าวเป็นศาลาเก่าแก่อายุกว่าร้อยปีมีมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2548 ทางวัดได้ร่วมกับประชาชนบูรณะซ่อมแซมไปด้วยงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดขึ้น 2 ครั้ง จากนั้นเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนไหม้เสียหายทั้งหลัง รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 20 ล้านบาท นอกจากนี้ บนศาลาการเปรียญยังมีพระพุทธรูปเนื้อทองเหลืองหลายสิบองค์ที่ถูกไฟไหม้ และยังไม่ทราบมูลค่าความเสียหาย
ด้าน พล.ต.ต.ปราโมทย์ ไทรหอมหวล ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า สาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เบื้องต้นอาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่บริเวณแผงสวิตช์และลุกลามไปตามสายไฟ แต่เนื่องจากศาลาเป็นไม้สักทั้งหลัง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนไหม้ศาลาการเปรียญของวัดดังกล่าว