“จงรัก” นำหมายศาลเข้าตรวจค้นร้านรับทำเหรียญขุนพันธ์ปลอม ย่านพรานนก เจ้าของร้านปัดไม่มีส่วนรู้เห็น อ้างเป็นการรับว่าจ้างตามปกติ จากผู้ว่าจ้าง ซึ่งอ้างเป็นอัยการอาวุโส สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงนนทบุรี
วันนี้ (8 มี.ค.) เวลา 15.00 น.พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชิษณุพงศ์ ยุกตะทัต ผบก.น.7 และ พ.ต.อ.วีระ เที่ยงรอด ผกก.สน.บางกอกน้อย ได้นำหมายศาลอาญาธนบุรี เลขที่ ค 223/2550 ลงวันที่ 8 มีนาคม เข้าตรวจค้นที่ร้านพุทธมงคลโลหะกิจ เลขที่ 998/2-4 ถนนพรานนก แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม.ภายหลังรับแจ้งจาก นายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช อายุ 56 ปี บุตรชายคนโตของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ว่า ร้านดังกล่าวมีการรับจ้างปลอมแปลงเหรียญที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา
จากการสอบสวน นายสุกิจ อลพรตระกูล เจ้าของร้านดังกล่าว ให้การว่า เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้รับการติดต่อจาก นายกฤตภาส สิทธิรักษ์ ซึ่งได้ให้นามบัตร ระบุว่า เป็นอัยการอาวุโส สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงนนทบุรี และอ้างตัวว่าเป็นหลานของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช มาว่าจ้างให้จัดสร้างเหรียญที่ระลึก จำนวน 1 หมื่นเหรียญ เพื่อไปแจกในงานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช โดยได้นำบล็อกพิมพ์ด้านหน้าเป็นรูปองค์จตุคามรามเทพ ส่วนด้านหลังเป็นรูปเหรียญขุนพันธ์ยืนถือไม้เท้า มาให้ทางร้านแกะบล็อก และปั๊มเหรียญเนื้อทองแดง พิมพ์กลมมามอบให้ พร้อมชำระเงินค่าจัดทำ ซึ่งแบ่งเป็นค่าทำบล็อก 1 หมื่นบาท และค่าจัดทำเหรียญ ราคาเหรียญละ 7 บาท 50 สตางค์ โดยระบุว่า ขอรับเหรียญทั้งหมดในวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา
นายสุกิจ ให้การอีกว่า ตนได้รับทำเหรียญดังกล่าว โดยทำไปได้จำนวน 8,800 เหรียญ ปรากฏว่า บล็อกแผ่นพิมพ์แตก จึงได้ส่งมอบเหรียญไปจำนวนเท่าที่ทำได้ ทั้งนี้ นายสุกิจ กล่าวว่า ตนรู้สึกเอะใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้รับทำเหรียญจตุคาม จากบรรดาลูกหลานของขุนพันธ์ แต่ไม่เคยเห็นหน้านายกฤตภาส มาก่อน จึงได้สอบถามไปยังบรรดาลูกๆของขุนพันธ์ ซึ่งได้รับแจ้งว่า นายกฤตภาส ไม่ได้เป็นลูกหรือเครือญาติแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ท.จงรัก กล่าวว่า จากการสอบสวน นายสุกิจ ให้การรับสารภาพว่า ทำเหรียญจตุคาม จริง และเป็นการรับว่าจ้างตามปกติของร้าน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนต่อไปว่า เป็นจริงตามที่ให้การหรือไม่ นอกจากนั้น ยังจะต้องตรวจสอบว่าเหรียญที่ทำ ว่า มีการปลุกเสกหรือไม่ ซึ่งหากไม่มีการปลุกเสก ก็ถือเป็นการฉ้อโกง แต่หากปลุกเสก ก็ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย โดยคาดว่า ประมาณ 2 วัน น่าจะได้ทราบผลการสอบสวนเรื่องดังกล่าว
พล.ต.ท.จงรัก กล่าวด้วยว่า ได้ประสานกับพนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช เดินทางมาสอบปากคำนายสุกิจ และนายณสรรค์ เพื่อประกอบสำนวนคดี รวมทั้งจะตรวจข้อเท็จจริงเรื่องชายคนดังกล่าวที่อ้างว่าเป็นหลานขุนพันธ์ เป็นการแอบอ้างหรือไม่ ก่อนจะพิจารณาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (8 มี.ค.) เวลา 15.00 น.พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชิษณุพงศ์ ยุกตะทัต ผบก.น.7 และ พ.ต.อ.วีระ เที่ยงรอด ผกก.สน.บางกอกน้อย ได้นำหมายศาลอาญาธนบุรี เลขที่ ค 223/2550 ลงวันที่ 8 มีนาคม เข้าตรวจค้นที่ร้านพุทธมงคลโลหะกิจ เลขที่ 998/2-4 ถนนพรานนก แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม.ภายหลังรับแจ้งจาก นายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช อายุ 56 ปี บุตรชายคนโตของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ว่า ร้านดังกล่าวมีการรับจ้างปลอมแปลงเหรียญที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา
จากการสอบสวน นายสุกิจ อลพรตระกูล เจ้าของร้านดังกล่าว ให้การว่า เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้รับการติดต่อจาก นายกฤตภาส สิทธิรักษ์ ซึ่งได้ให้นามบัตร ระบุว่า เป็นอัยการอาวุโส สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงนนทบุรี และอ้างตัวว่าเป็นหลานของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช มาว่าจ้างให้จัดสร้างเหรียญที่ระลึก จำนวน 1 หมื่นเหรียญ เพื่อไปแจกในงานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช โดยได้นำบล็อกพิมพ์ด้านหน้าเป็นรูปองค์จตุคามรามเทพ ส่วนด้านหลังเป็นรูปเหรียญขุนพันธ์ยืนถือไม้เท้า มาให้ทางร้านแกะบล็อก และปั๊มเหรียญเนื้อทองแดง พิมพ์กลมมามอบให้ พร้อมชำระเงินค่าจัดทำ ซึ่งแบ่งเป็นค่าทำบล็อก 1 หมื่นบาท และค่าจัดทำเหรียญ ราคาเหรียญละ 7 บาท 50 สตางค์ โดยระบุว่า ขอรับเหรียญทั้งหมดในวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา
นายสุกิจ ให้การอีกว่า ตนได้รับทำเหรียญดังกล่าว โดยทำไปได้จำนวน 8,800 เหรียญ ปรากฏว่า บล็อกแผ่นพิมพ์แตก จึงได้ส่งมอบเหรียญไปจำนวนเท่าที่ทำได้ ทั้งนี้ นายสุกิจ กล่าวว่า ตนรู้สึกเอะใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้รับทำเหรียญจตุคาม จากบรรดาลูกหลานของขุนพันธ์ แต่ไม่เคยเห็นหน้านายกฤตภาส มาก่อน จึงได้สอบถามไปยังบรรดาลูกๆของขุนพันธ์ ซึ่งได้รับแจ้งว่า นายกฤตภาส ไม่ได้เป็นลูกหรือเครือญาติแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ท.จงรัก กล่าวว่า จากการสอบสวน นายสุกิจ ให้การรับสารภาพว่า ทำเหรียญจตุคาม จริง และเป็นการรับว่าจ้างตามปกติของร้าน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนต่อไปว่า เป็นจริงตามที่ให้การหรือไม่ นอกจากนั้น ยังจะต้องตรวจสอบว่าเหรียญที่ทำ ว่า มีการปลุกเสกหรือไม่ ซึ่งหากไม่มีการปลุกเสก ก็ถือเป็นการฉ้อโกง แต่หากปลุกเสก ก็ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย โดยคาดว่า ประมาณ 2 วัน น่าจะได้ทราบผลการสอบสวนเรื่องดังกล่าว
พล.ต.ท.จงรัก กล่าวด้วยว่า ได้ประสานกับพนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช เดินทางมาสอบปากคำนายสุกิจ และนายณสรรค์ เพื่อประกอบสำนวนคดี รวมทั้งจะตรวจข้อเท็จจริงเรื่องชายคนดังกล่าวที่อ้างว่าเป็นหลานขุนพันธ์ เป็นการแอบอ้างหรือไม่ ก่อนจะพิจารณาดำเนินคดีต่อไป
