xs
xsm
sm
md
lg

“เสรีพิศุทธ์” นัดถกจันทร์นี้ เตรียมเผยภาพมือบึ้ม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รักษาการ ผบ.ตร. “เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส” เรียกประชุมพนักงานสอบสวนคดีระเบิด กทม.จันทร์นี้ (19 ก.พ.) ระดมความคิดเห็นวางแนวทางสางปมคดี ระบุอาจเผยแพร่ภาพผู้ต้องหาต่อสาธารณชนเพื่อหาเบาะแสเร่งติดตามตัว

วันนี้ (16 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีระเบิด 9 จุดใน กทม. และ จ.นนทบุรี ภายหลัง พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป.1) ในฐานะรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนเข้ารายงานผลการขอหมายจับว่า จากการทำงานร่วมกันของคณะพนักงานสอบสวนโดยมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร.(ปป.) เป็นหัวหน้า ได้ไปดำเนินการหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยพบผู้ต้องสงสัยที่ได้จากกล้องวงจรปิดบริเวณแยกสะพานควาย จึงมอบหมายให้ พล.ต.ท.จงรักนำหลักฐานทั้งหมด ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด และพยานหลักฐานอื่นที่เชื่อว่าภาพผู้ต้องสงสัยที่ปรากฏเป็นผู้กระทำผิดจริง จึงไปขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา ซึ่ง พล.ต.ท.จงรัก ได้ชี้แจงหลักฐานต่างๆ อย่างชัดเจนจนศาลอนุมัติหมายจับให้ เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อต้องมีการตรวจสอบอีก การไปขอหมายก็เป็นบอกรูปพรรณสันฐานที่ปรากฏในภาพ

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาที่จะออกหมายจับไม่ได้หมดแค่รายนี้ เพราะรายนี้อาจจะเป็นแค่ผู้ที่รับจ้างมาวางอีกที ตำรวจต้องหาพยานหลักฐานว่าใครอยู่เบื้องหลังการกระทำครั้งนี้และพยานหลักฐานต่างๆ ต้องเชื่อมโยงกับจุดอื่นๆ ด้วยเพราะเหตุเกิดในเวลาไล่เลี่ยกัน สำหรับในจุดสะพานควายยังไม่แน่ชัดว่ามีคนอื่นอีกหรือไม่ ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องทำงานหนักขึ้นในการรวบรวมพยานหลักฐาน

“สำหรับภาพที่ปรากฏสามารถบอกได้ชัดเจนว่าเป็นผู้กระทำความผิด ตำรวจก็เชื่อ ศาลก็เชื่อว่าบุคคลนี้เป็นผู้กระทำความผิดเฉพาะการวางระเบิด แต่ใครอยู่เบื้องหลักต้องว่ากันอีกหลายขั้นตอน ช่วงแรกตำรวจไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนวางเราพยายามตรวจสอบในวงจรปิดและพยานหลักฐานต่างๆ ในช่วงวันนั้น เวลานั้น มีคนสัญจรไปมาพอสมควร เราต้องมาช่วยกันวิเคราะห์จนสรุปตรงกันว่าเป็นคนที่ออกหมายจับและภาพนี้ก็ได้ส่งไปที่แคนาดาเพื่อตรวจสอบด้วย สำหรับคนวางระเบิดมีคนเดียวแน่นอน แต่คนที่ดูต้นทาง คนขับรถ คนจ้างวานต้องมีหลายขั้นตอน” รักษาการ ผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า หลังจากศาลอนุมัติหมายจับแล้วขั้นตอนต่อไป จะเรียกพนักงานสอบวนทั้งหมดมาประชุมร่วมกันในวันจันทร์ว่า พนักงานสอบสวนทั้งหมดจะมีความเห็นอย่างไรกับพยานหลักฐานชิ้นนี้ที่ศาลอนุมัติหมายจับให้ เมื่อมีความเห็นแล้วจะทำตามความเห็นของที่ประชุม อาจจะเป็นการตรวจสอบในทางลับ หรืออาจจะเผยแพร่ภาพต่อสาธารณชนเพื่อขอความร่วมมือ ซึ่งจะมีการเชื่อมโยงกับผู้ต้องสงสัยทั้ง 19 คนที่เอามาสอบก่อนหน้านี้หรือไม่นั้นไม่อยากให้พูดลึกลงไป แต่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับได้เพราะเรามีรูปอยู่แล้วว่าทั้ง 19 คนก่อนหน้านี้เป็นใคร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ต้องหาที่ออกหมายจับในวันนี้เกี่ยวโยงกับทางภาคใต้หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้พยานหลักฐานชัดเจนมากกว่านี้ไม่อาจด่วนสรุปได้ ถึงแม้พยานหลักฐานบางอย่างอาจจะมองว่าเชื่อมโยงได้ แต่ไม่อาจสรุปได้เพราะไม่ชัดเจน ก็ขอไม่สรุปในเรื่องนี้ สำหรับจุดระเบิดจุดอื่นๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

รายงานข่าวแจ้งว่า ภาพวงจรปิดที่ใช้ในการออกหมายจับเป็นภาพที่ได้จากร้านทองร้านหนึ่งที่อยู่ใกล้ป้อมตำรวจ ซึ่งเป็นการจับภาพจากภายในร้านออกมาด้านนอก ในภาพปรากฏภาพชายสวมหมวกแก๊ปเดินผ่านไปใช้มือจับหมวกแก๊ปคล้ายหลบกล้องหิ้วถุงพลาสติกไปหย่อนที่กระถางต้นไม้ใกล้ป้อมตำรวจ หลังจากนั้นได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการผบ.ตร. ยังกล่าวถึงเหตุระเบิดที่มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยาว่า ได้รับรายงานจากพล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น.ที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า เป็นเหตุระเบิดถังขยะภายในห้องน้ำชั้น 10 ไม่ได้รับเสียหายไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ให้กองพลาธิการและสรรพาวุฒฺสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปตรวจสอบว่าสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ และเป็นวัตถุระเบิดประเภทใด สำหรับสาเหตุคาดว่าเป็นฝีมือพวกก่อกวนให้เกิดความวุ่นวาย อย่างเพิ่งตื่นตระหนกตกใจ เรื่องธรรมดาแบบนี้ใครก็ทำได้ และอย่าไปโยงกับคดีระเบิด 9 จุดก่อนหน้านี้ให้พนักงานสืบสวนทำงานก่อน

ด้าน พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายกิจการพิเศษ (รอง ผบ.ตร.กศ.) ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนทำหน้าที่ประสานต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการส่งภาพวงปิด 9 จุดในที่เกิดเหตุลอบวางระเบิดทั่วกรุงเทพฯ และได้ส่งไปตรวจสอบที่ประเทศแคนาดาว่า ขณะนี้ภาพวงจรปิดทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ต้องให้เวลา สำหรับการตรวจสอบภาพวงจรปิดทั้งหมดนั้นใช้เทคโนโลยีด้านนิติวิทยาศาสตร์มาช่วย ส่วนภาพที่เราส่งไปตรวจสอบนั้นไม่สามารถระบุได้ว่าส่งภาพจากจุดใดไปบ้าง แต่ย้ำว่าส่งไปทุกจุดเท่าที่มีอยู่ทั้งหมด รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดในคดีอื่นๆที่ฝากไปด้วย

“คดีนี้เป็นคดีที่มีรายละเอียดมาก ทำให้ต้องใช้เครื่องมือเข้ามาช่วย โดยภาพที่เราส่งไปตรวจสอบ มีทั้งภาพที่เป็นแอนะล็อก และดิจิตอล ซึ่งภายหลังหากนำไปใช้ในชั้นศาล หากเกิดข้อสงสัยสามารถเชิญผู้เชี่ยวชาญมาสืบพยานในชั้นศาลได้” พล.ต.อ.อิสระพันธ์ กล่าว

พล.ต.อ.อิสระพันธ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับระยะเวลาในการตรวจสอบภาพวงจรปิดที่ส่งไปยังหน่วยซีซีทีวี เนแฮสเมนต์โปรแกรม ประเทศแคนนาดานั้นยังไม่สามารถระบุระยะเวลาในการตรวจสอบได้ แต่อย่างไรก็ตาม เราทำเต็มที่ ยืนยันว่าคณะทำงานที่นำภาพไปตรวจสอบ ไม่ได้ไปเที่ยวแน่ เราไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ได้เกียร์ว่าง
กำลังโหลดความคิดเห็น