“จงรัก” พร้อมเอาผิดหญิงข่มขืนชาย เชื่อมั่นตำรวจสามารถหาร่องรอยชายที่ถูกข่มขืน หรือหากสมยอมก็สามารถสอบสวนเพื่อให้ความยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่ายได้
วันนี้ (18 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.ปป 1) กล่าวถึงกรณีการผ่านร่างกฎหมายให้มีการเอาผิดกับผู้หญิงข่มขืนผู้ชาย และผู้ชายข่มขืนผู้ชาย ว่า เมื่อมีการออกกฎหมายมาใช้บังคับกรณีดังกล่าว คงเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะต้องพิสูจน์หาผู้กระทำความผิด โดยการหาพยานหลักฐานและตรวจสถานที่เกิดเหตุ ว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่เพียงใดที่จะเกิดการข่มขืนเช่นนี้ขึ้น เช่น บริเวณสถานที่ที่มีคนพาไปมาพลุกพล่าน หากมีการข่มขืนจะต้องมีเสียงร้องให้ช่วย แต่ถ้าเงียบ และไม่มีเสียงร้องให้ช่วยเหลือ อาจจะถือว่าเป็นการสมยอมกันทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ถือเป็นการบังคับ
“ร่องรอยการถูกข่มขืนสามารถตรวจสอบได้จากสภาพร่างกายของผู้หญิง และผู้ชาย ว่า มีสภาพใกล้เคียงกันหรือไม่ หากผู้ชายที่มีร่างกายแข็งแรงเข้ามาแจ้งความว่าถูกผู้หญิงข่มขืน แต่ผู้หญิงที่ถูกแจ้งความว่าข่มขืนมีรูปร่างเล็กกว่า ซึ่งกรณีดังกล่าวมีความเป็นไปได้ยาก เว้นแต่จะอ้างว่าผู้หญิงมีอาวุธร้ายแรงบังคับ แต่ตำรวจก็ต้องตรวจสอบอีกว่าผู้ชายสามารถจะขัดขืนได้หรือไม่ หากสามารถขัดขืนได้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกผู้หญิงข่มขืน นอกจากนี้ หากผู้หญิงมีอายุมากกว่า อาทิ อายุ 30-40 ขึ้นไป แต่ผู้ชายอายุ 15-16 ปี ก็อาจมีความเป็นไปได้ที่ผู้หญิงจะเป็นผู้ลงมือข่มขืนผู้ชาย” พล.ต.ท.จงรัก กล่าว
พล.ต.ท.จงรัก กล่าวอีกว่า สำหรับการสอบสวน พนักงานสอบสวน สามารถตรวจสอบดูร่องรอยการข่มขืนจากเสื้อผ้า ของผู้เสียหายว่ามีร่องรอยการปลุกปล้ำ เสื้อผ้าฉีกขาดหรือไม่ รวมทั้งร่องรอยบริเวณจุดเกิดเหตุว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่ชายจะอ้างว่าถูกหญิงข่มขืน ทั้งนี้ ในการตรวจสอบทางการแพทย์ แพทย์สามารถตรวจสอบร่างกายทั้งหญิงและชายว่ามีร่องนรอยการถูกข่มขืนหรือไม่ โดยตรวตรวจสอบคราบอสุจิของทั้งสองฝ่าย แต่อย่างไรก็ตาม การตรวจพบคราบอสุจิก็ไม่ได้บ่งชัดว่าเกิดจากการข่มขืน อาจจะเป็นการสมยอมกันทั้งสองฝ่ายก็ได้ ต้องพิจารณาหลักฐานอื่นร่วมกัน
พล.ต.ท.จงรัก ยังได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมอีกว่า ในการสอบสวน ต้องพิจารณาถึงความสัมพันธ์ของหญิงและชาย ว่า มีความสัมพันธ์กันมาก่อนหรือไม่ด้วย เนื่องจากเคยมีปรากฏอยู่เสมอว่า คู่กรณีทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์กันมาก่อนแต่ภายหลังขัดใจกัน อีกฝ่ายจึงมาแจ้งความว่า ถูกข่มขืน ซึ่งในจุดนี้ก็ต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ เช่นเดียวกันกับกรณีชายข่มขืนชายก็ต้องมีองค์ประกอบในการตรวจพิสูจน์ พยานหลักฐาน ปัจจัยแวดล้อมเหมือนๆ กัน
“ชาย” เฮ! สนช.รับหลักการ กม.คุ้มครองถูก “หล่อน” ขืนใจ !
ดัน กม.“ชายอกสามศอก” ถูกหญิงสาวข่มขืนฟ้องร้องได้!