xs
xsm
sm
md
lg

เผยมือมืดอ้างเป็นลูกน้อง “ทักษิณ” ขู่วางบึ้มโรงเรียนกิ่งเพชร

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

มือมืดโทร.ขู่วางระเบิดป่วนเมือง เจ้าหน้าที่ เผย คนโทร.อ้าง “ผมเป็นลูกน้องทักษิณ ผมวางระเบิดไว้ที่หลังโรงเรียนกิ่งเพชร และจะระเบิดในเวลา 13.00 น.” ขณะที่ยอดการรับแจ้งเหตุ ล่าสุด กว่า 20 รายแล้ว


เมื่อเวลา 11.20 น.วันนี้ (3 ม.ค.) ร.ต.อ.พีรวัส ประสาทกลาง หัวหน้าสายตรวจ สน.พญาไท รับแจ้งจากทางโรงเรียนกิ่งเพชร ว่า มีชายลึกลับโทรศัพท์ขู่ว่าวางระเบิดไว้ที่โรงเรียนกิ่งเพชร ซอยเพชรบุรีซอย 10 ถนนเพชรบุรี แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้วัตถุระเบิด บก.ตปพ.บชน.

โรงเรียนดังกล่าวเป็นโรงเรียนในสังกัด กทม.เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึง ม.3 มีนักเรียนทั้งสิ้น 900 คน ซึ่งทางโรงเรียนได้สั่งเคลื่อนย้ายนักเรียนออกจากโรงเรียนในทันที พร้อมทั้งประกาศหยุดเรียน 1 วัน โดยเด็กนักเรียนทั้งหมดยังไม่ได้รับประทานอาหารกลางวัน ขณะที่อาหารได้ถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดและสุนัขตำรวจตรวจหาทั่วบริเวณโรงเรียน กระทั่งเวลาผ่านไปจนถึงประมาณ 13.30 น.ก็ยังไม่มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นแต่อย่างใด รวมทั้งไม่พบวัตถุระเบิดตามที่คนร้ายได้โทรมาขู่ด้วย

จากการสอบสวน น.ส.เมทินี นาคหนองหาร เจ้าหน้าที่ธุรการของโรงเรียน ให้การว่า เมื่อเวลา 11.10 น.ที่ผ่านมา มีชายลึกลับโทรศัพท์มาที่โรงเรียนแล้วขู่ว่า “ผมเป็นลูกน้องทักษิณ ผมวางระเบิดไว้ที่หลังโรงเรียนกิ่งเพชร และจะระเบิดในเวลา 13.00 น.” แล้วก็ได้วางหูไป จากนั้นก็โทร.มาขู่อีก 2 ครั้ง เวลาประมาณ 11.20 น.และ 12.15 น.ว่า ได้วางระเบิดเอาไว้จริงๆ ไม่ได้ขู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลา 06.30 น.ร.ต.ต.มาโนช ต่วนชะเอม หัวหน้าสายตรวจ สน.บางนา ได้รับแจ้งศูนย์วิทยุผ่านฟ้า (191) ว่า มีการข่มขู่วางระเบิดที่โรงเรียนสรรพาวุธวิทยา ถนนทางรถไฟสายเก่า แขวงและเขตบางนา กทม.จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

โรงเรียนดังกล่าวมีนักเรียนชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นมัธยมปีที่ 3 รวมทั้งสิ้น 1,750 คน แต่นักเรียนเพิ่งทยอยเดินทางเข้ามาที่โรงเรียนเพียงแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น อาจารย์จึงรีบพานักเรียนออกจากอาคารเรียน ไปรวมกันที่สนามฟุตบอล ส่วนผู้ปกครองที่มาส่งบุตรหลานก็ให้เดินทางกลับบ้าน ให้หยุดการเรียนทันที 1 วัน หลังจากนั้น รีบประสานทหารของกรมสรรพาวุธ ทหารเรือ ซึ่งอยู่เยื้องกับโรงเรียน เข้าตรวจสอบพื้นที่ภายในโรงเรียนทั้งหมดนาน 1 ชั่วโมง ไม่พบสิ่งผิดปกติจากนั้นให้ผู้ปกครองมารับนักเรียนกลับบ้าน

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อเวลา 05.45 น.มีแม่ค้าขายขนุนในตลาดสดบางนานอก ห่างโรงเรียนประมาณ 2 กม.ได้ยินชายวัยรุ่น 4 คน จอดรถ จยย.2 คัน คุยกันว่า ได้วางระเบิดไว้หน้าประตูโรงเรียนดังกล่าว และจะระเบิดตอน 09.00 น.เกรงว่า เด็กจะเป็นอันตรายจึงโทร.แจ้งตำรวจให้ทราบ

รายงานข่าวแจ้งว่า ตั้งแต่เวลา 05.45 น.จนถึงเวลา 11.46 น.วันนี้ (3 ม.ค.) ทางศูนย์วิทยุ 191 รับแจ้งเหตุเกี่ยวกับเหตุโทร.ขู่วางระเบิดจำนวน 4 ราย โดยสถานที่สำคัญเป็นที่โรงเรียนกิ่งเพชร ที่คนรายอ้างตัวเป็นลูกน้องทักษิณ แจ้งว่า วางระเบิดไว้หลังโรงเรียน ซึ่งจะระเบิดในเวลา 13.00 น.และใช้ระเบิดชนิดเดียวกับที่อนุสาวรีย์ชัย

นอกจากนี้ ตั้งแต่เวลา 00.07 - 11.10 น.รับแจ้งว่า มีวัตถุต้องสงสัยรวม 16 ราย ซึ่งแต่ละจุดเมื่อไปตรวจสอบไม่พบแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบ พบว่า บุคคลที่โทรศัพท์พบวัตถุต้องสงสัย และขู่วางระเบิดส่วนใหญ่โทรศัพท์มาจากมือถือ ซึ่งศูนย์สืบสวน บช.น.อยู่ระหว่างสืบสวนติดตามตัวมาสอบสวน

วันเดียวกัน เวลา 15.00 น.ร.ต.อ.นพดล นิ่มละมุล ร้อยเวรสายตรวจ สน.ลุมพินี รับแจ้งว่ามีวัตถุต้องสงสัย วางอยู่ภายในตู้โทรศัพท์ใต้สะพานลอย รอยต่อห้างเกษร พลาซ่า และเซ็ลทรัลเวิร์ด ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน หลังรับแจ้งรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้าน พ.ต.อ.พงษ์สยาม มีขันทอง ผกก.สน.ลุมพินี และ พ.ต.ท.มล.พัฒนาจักร จักรพันธ์ รอง ผกก.(ป) ที่เกิดเหตุเป็นตู้โทรศัพท์ ตั้งอยู่ตู้ที่ 4 ถัดจากตู้ที่ 2 ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่เกิดเหตุวางระเบิดเมื่อคืนวันที่ 31 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่พบกระเป๋า สะพาย สีน้ำเงินดำ ยี่ห้อ โอ๊กเล่ วางอยู่ชั้นวางใต้ตู้โทรศัพย์ ทางเจ้าหน้าที่จึงรีบกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้ รวมทั้งปิดการจราจรบริเวณหน้าห้างรวม 2 ช่องทาง

หลังเข้าไปตรวจาสอบเจ้าหน้าที่ไม่พบวัตถุระเบิด โดยเบื้องต้นพบว่าภายในกระเป๋า มีผ้าขนหนูสีชมพู 1 ผืน ยาเส้น และหนังสือพิมพ์กีฬา ช็อกเกอร์ 1 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงทำการเปิดการจราจรเป็นปกติ

จากการสอบสวนนายนรินทร์ คันทะนาด ซึ่งเป็น รปภ.ของห้าง กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 14.30 น มีชายชาวต่างชาติ เป็นผู้พบเห็นคนแรก จึงได้เข้ามาแจ้งว่าสงสัยจะเป็นวัตถุต้องสงสัย ตนจึงแจ้งหัวหน้า จากนั้นแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น