คดีลอบยิง หรือลอบสังหารจากฝีมือของกลุ่มมือปืนรับจ้างในการสังหารบุคคลมีชื่อเสียง ไม่ได้เกิดขึ้นในเมืองหลวงมาช้านาน เสมือนหนึ่งตำรวจซึ่งถือบัญชีมือปืนรับจ้างอยู่ในมือ และล่วงรู้การเคลื่อนไหวของกลุ่มหรือซุ้มมือปืนต่างๆ นั้น กดดันไม่ให้บรรดาเหล่ามือปืนพระกาฬเงยหัวขึ้นมาสร้างชื่อ สร้างราคาค่าตัวกับการพรากลมหายใจของเหยื่อได้ลงมือปฏิบัติการอย่างอุกอาจ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน
เหตุการณ์เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ที่กลุ่มมือปืนพระกาฬลงมือปฏิบัติการด้วยอาวุธปืน .38 ยิงถล่มใส่รถโตโยต้า เอสติม่า สีขาว หมายเลขทะเบียน ศก-4774 กทม. ของ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับสันติบาล ที่จอดติดไฟแดงอยู่สามแยกถนนสวรรคโลก ตัดถนนสุโขทัย ส่งผลให้ นายประยุทธ เนตรายน อายุ 60 ปี คนสนิทของ พ.ต.ท.สันธนะ เสียชีวิตคาที่ โดยคมกระสุนเจาะเข้าบริเวณศีรษะ 1 นัด สีข้างซ้าย 1 นัด หน้าอกซ้าย 3 นัด และต้นคออีก 1 นัด รวมทั้งหมด 6 นัด ถือเป็นการลงมือปลิดชีวิตเหยื่อ ชนิดไม่ให้รอดไปได้ เป็นการลงมือทำงานแบบมืออาชีพ เพียงแต่ผิดพลาดที่เป้าหมายหรือไม่นั้น ยังเป็นปริศนาที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีจะต้องประมวลเหตุการณ์หาคำตอบให้ได้!
หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.สันธนะ เดินทางไปดูที่เกิดเหตุ พร้อมออกมาระบุทันทีว่า คนร้ายไม่ได้ประสงค์เป็นอย่างอื่น นอกเสียจากชีวิตเขา! โดยมีสาเหตุมาจาก เรื่องส่วนตัวที่ตัวเขาไม่ยอมให้กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่พยายามให้เขากระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง
พ.ต.ท.สันธนะ บอกด้วยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนของเขา เขาพยายามอดทนอดกลั้น บ้านเมืองในขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเอาความไม่พอใจส่วนมาทำร้ายกัน เขายังพยามยามบอกคนใกล้ชิดทุกคนให้อยู่เฉยๆ อย่าตอบโต้ เพราะหวังว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะช่วยให้ความดูแล ให้มีความปลอดภัยได้ และเขาทราบดีว่า “ผู้ที่ก่อเหตุคือใคร” แต่วันนี้ไม่อยากบอก ซึ่งเขามั่นใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากสาเหตุใด
“รองต่อ” อดีตรองผู้กำกับสันติบาลผู้นี้ ย้ำนักย้ำหนาภายหลังอีกว่า “ใบสั่งฆ่า” เขานั้นถูกถ่ายทอดมาจากบ่อนเตาปูน!
ขณะเดียวกันชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ซึ่งนำโดย “รองตุ๊” พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. “กูรูนักสืบนครบาล” ประชุมชุดคลี่คลายคดี โดยพุ่งเป้าไปที่ความขัดแย้ง เส้นทางธุรกิจบ่อนกาสิโน ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่ง พ.ต.ท.สันธนะ เคยมีชื่อเข้าไปพัวพัน โดยให้ฝ่ายสืบสวนจัดกำลังสืบหาความเคลื่อนไหวซุ้มมือปืนใน จ.นครปฐม และ จ.ราชบุรี ที่เป็นแหล่งกบดานของมือปืนจำนวนมาก มีการแบ่งสายการทำงานตรวจสอบความเคลื่อนไหวบ่อนการพนันตามชายแดน แถบอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว และบ่อนพนันรายใหญ่ในกรุงเทพฯ รวมถึงธุรกิจนอกระบบ การติดตามทวงหนี้ เพื่อหาสาเหตุของการสังหารและตัวมือปืน
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ต้องทำให้ประจักษ์คือ ทำไม “รองต่อ” พ.ต.ท.สันธนะ จึงปักใจว่าใบสั่งฆ่าเขา ถูกถ่ายทอดออกมาจากบ่อนเตาปูน เรื่องนี้ พ.ต.ท.สันธนะ บอกว่า ภายหลังจากที่กองปราบปราม บุกเข้าทลายบ่อนการพนันอภิมหาอมตะนิรันดรกาล ย่านเตาปูนแล้ว ตัวเขาเอง ได้เข้าไปในบ่อนดังกล่าวอีกก็พบว่ายังคงมีการลักลอบเล่นการพนันเช่นเดิม โดยที่ตัวเขาเอง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.เตาปูนถึง 2 ครั้ง 2 คราว
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ยิง “ป๋ายุทธ” คนสนิทของ พ.ต.ท.สันธนะนั้น พ.ต.ท.สันธนะไปมีเรื่องบาดหมางกับลูกชายคนโตของผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งจะเป็นภายในบ่อนหรือนอกบ่อนข่าวไม่ได้แจ้ง ส่วนเรื่องบาดหมางจะถึงขั้นรุนแรงหรือไม่นั้น ไม่มีใครทราบ นอกเสียจาก พ.ต.ท.สันธนะเพียงคนเดียว แต่นั่นก็ทำให้ “รองต่อ” ต้องระมัดระวังตัวตั้งแต่ครั้งนั้นมา ถึงขั้นต้องเปลี่ยนรถที่ใช้เป็นประจำวงเวียนอยู่หลายคัน จนกระทั่งมาเกิดเหตุสังหาร “ป๋ายุทธ” คนสนิทที่รองต่อไว้วางใจมากที่สุดไป
คำประกาศ “เอาคืน” ของ พ.ต.ท.สันธนะที่จะตอบโต้กับกลุ่มที่ปองร้ายหมายชีวิตเขา เนื่องจาก พ.ต.ท.สันธนะเอง ไม่มั่นใจกับความปลอดภัยที่ตำรวจจะมอบให้ จึงได้ประกาศออกมาเช่นนั้น ดังนั้นสิ่งที่ตำรวจต้องรีบดำเนินการ คือ ต้องรีบลากคอมือปืนรายนี้มาลงโทษตามกฏหมายให้ได้ อีกทั้งต้องเค้นสอบตัว พ.ต.ท.สันธนะเองว่า ไปมีเรื่องบาดหมางกับใครในบ่อนเตาปูน ถึงขั้นที่ปักใจเชื่อว่า “ใบสั่งฆ่า” มาจากบ่อนนั้น นอกจากนี้ยังต้องป้องกัน “การเอาคืน” จากคำของ พ.ต.ท.สันธนะให้ได้ ซึ่งเชื่อว่าหากตำรวจชุดคลี่คลายคดีรีบดำเนินการ เราก็จะได้ทราบความจริงว่า “ป๋ายุทธ” ถูกยิงผิดตัวหรือไม่ “ใบสั่งฆ่า” จากบ่อนเตาปูนเป็นจริงแค่ไหน ปมขัดแย้งของ พ.ต.ท.สันธนะ กับลูกชายคนโตในบ่อนเตาปูน คือปมอะไร จึงรุนแรงถึงขั้นต้องสั่งตามเด็ดหัว! และปริศนาสุดท้าย "บ่อนเตาปูน"ยังคง"อภิมหาอมตะนิรันดร์กาล"อยู่เช่นเดิมหรือไม่
คดีนี้คงไม่จบลงง่ายๆ แต่ก็เชื่อว่า ไม่น่าเหนือความสามารถของ พล.ต.ต.กฤษฎากับชุดคลี่คลายคดี ซึ่งก็ได้แต่หวังว่า คงไม่มี “ตอ” ให้เป็นอันต้องสะดุดเฉกเช่นคดีอื่นๆ อีกทั้งตำรวจต้องกำจัดบรรดาซุ้มมือปืน และคนจ้างวานให้หมดไป สุจริตชนจะได้ทำมาหากินกันอย่างไร้ความหวาดระแวง!
เหตุการณ์เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ที่กลุ่มมือปืนพระกาฬลงมือปฏิบัติการด้วยอาวุธปืน .38 ยิงถล่มใส่รถโตโยต้า เอสติม่า สีขาว หมายเลขทะเบียน ศก-4774 กทม. ของ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับสันติบาล ที่จอดติดไฟแดงอยู่สามแยกถนนสวรรคโลก ตัดถนนสุโขทัย ส่งผลให้ นายประยุทธ เนตรายน อายุ 60 ปี คนสนิทของ พ.ต.ท.สันธนะ เสียชีวิตคาที่ โดยคมกระสุนเจาะเข้าบริเวณศีรษะ 1 นัด สีข้างซ้าย 1 นัด หน้าอกซ้าย 3 นัด และต้นคออีก 1 นัด รวมทั้งหมด 6 นัด ถือเป็นการลงมือปลิดชีวิตเหยื่อ ชนิดไม่ให้รอดไปได้ เป็นการลงมือทำงานแบบมืออาชีพ เพียงแต่ผิดพลาดที่เป้าหมายหรือไม่นั้น ยังเป็นปริศนาที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีจะต้องประมวลเหตุการณ์หาคำตอบให้ได้!
หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.สันธนะ เดินทางไปดูที่เกิดเหตุ พร้อมออกมาระบุทันทีว่า คนร้ายไม่ได้ประสงค์เป็นอย่างอื่น นอกเสียจากชีวิตเขา! โดยมีสาเหตุมาจาก เรื่องส่วนตัวที่ตัวเขาไม่ยอมให้กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่พยายามให้เขากระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง
พ.ต.ท.สันธนะ บอกด้วยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนของเขา เขาพยายามอดทนอดกลั้น บ้านเมืองในขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเอาความไม่พอใจส่วนมาทำร้ายกัน เขายังพยามยามบอกคนใกล้ชิดทุกคนให้อยู่เฉยๆ อย่าตอบโต้ เพราะหวังว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะช่วยให้ความดูแล ให้มีความปลอดภัยได้ และเขาทราบดีว่า “ผู้ที่ก่อเหตุคือใคร” แต่วันนี้ไม่อยากบอก ซึ่งเขามั่นใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากสาเหตุใด
“รองต่อ” อดีตรองผู้กำกับสันติบาลผู้นี้ ย้ำนักย้ำหนาภายหลังอีกว่า “ใบสั่งฆ่า” เขานั้นถูกถ่ายทอดมาจากบ่อนเตาปูน!
ขณะเดียวกันชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ซึ่งนำโดย “รองตุ๊” พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. “กูรูนักสืบนครบาล” ประชุมชุดคลี่คลายคดี โดยพุ่งเป้าไปที่ความขัดแย้ง เส้นทางธุรกิจบ่อนกาสิโน ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่ง พ.ต.ท.สันธนะ เคยมีชื่อเข้าไปพัวพัน โดยให้ฝ่ายสืบสวนจัดกำลังสืบหาความเคลื่อนไหวซุ้มมือปืนใน จ.นครปฐม และ จ.ราชบุรี ที่เป็นแหล่งกบดานของมือปืนจำนวนมาก มีการแบ่งสายการทำงานตรวจสอบความเคลื่อนไหวบ่อนการพนันตามชายแดน แถบอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว และบ่อนพนันรายใหญ่ในกรุงเทพฯ รวมถึงธุรกิจนอกระบบ การติดตามทวงหนี้ เพื่อหาสาเหตุของการสังหารและตัวมือปืน
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ต้องทำให้ประจักษ์คือ ทำไม “รองต่อ” พ.ต.ท.สันธนะ จึงปักใจว่าใบสั่งฆ่าเขา ถูกถ่ายทอดออกมาจากบ่อนเตาปูน เรื่องนี้ พ.ต.ท.สันธนะ บอกว่า ภายหลังจากที่กองปราบปราม บุกเข้าทลายบ่อนการพนันอภิมหาอมตะนิรันดรกาล ย่านเตาปูนแล้ว ตัวเขาเอง ได้เข้าไปในบ่อนดังกล่าวอีกก็พบว่ายังคงมีการลักลอบเล่นการพนันเช่นเดิม โดยที่ตัวเขาเอง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.เตาปูนถึง 2 ครั้ง 2 คราว
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ยิง “ป๋ายุทธ” คนสนิทของ พ.ต.ท.สันธนะนั้น พ.ต.ท.สันธนะไปมีเรื่องบาดหมางกับลูกชายคนโตของผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งจะเป็นภายในบ่อนหรือนอกบ่อนข่าวไม่ได้แจ้ง ส่วนเรื่องบาดหมางจะถึงขั้นรุนแรงหรือไม่นั้น ไม่มีใครทราบ นอกเสียจาก พ.ต.ท.สันธนะเพียงคนเดียว แต่นั่นก็ทำให้ “รองต่อ” ต้องระมัดระวังตัวตั้งแต่ครั้งนั้นมา ถึงขั้นต้องเปลี่ยนรถที่ใช้เป็นประจำวงเวียนอยู่หลายคัน จนกระทั่งมาเกิดเหตุสังหาร “ป๋ายุทธ” คนสนิทที่รองต่อไว้วางใจมากที่สุดไป
คำประกาศ “เอาคืน” ของ พ.ต.ท.สันธนะที่จะตอบโต้กับกลุ่มที่ปองร้ายหมายชีวิตเขา เนื่องจาก พ.ต.ท.สันธนะเอง ไม่มั่นใจกับความปลอดภัยที่ตำรวจจะมอบให้ จึงได้ประกาศออกมาเช่นนั้น ดังนั้นสิ่งที่ตำรวจต้องรีบดำเนินการ คือ ต้องรีบลากคอมือปืนรายนี้มาลงโทษตามกฏหมายให้ได้ อีกทั้งต้องเค้นสอบตัว พ.ต.ท.สันธนะเองว่า ไปมีเรื่องบาดหมางกับใครในบ่อนเตาปูน ถึงขั้นที่ปักใจเชื่อว่า “ใบสั่งฆ่า” มาจากบ่อนนั้น นอกจากนี้ยังต้องป้องกัน “การเอาคืน” จากคำของ พ.ต.ท.สันธนะให้ได้ ซึ่งเชื่อว่าหากตำรวจชุดคลี่คลายคดีรีบดำเนินการ เราก็จะได้ทราบความจริงว่า “ป๋ายุทธ” ถูกยิงผิดตัวหรือไม่ “ใบสั่งฆ่า” จากบ่อนเตาปูนเป็นจริงแค่ไหน ปมขัดแย้งของ พ.ต.ท.สันธนะ กับลูกชายคนโตในบ่อนเตาปูน คือปมอะไร จึงรุนแรงถึงขั้นต้องสั่งตามเด็ดหัว! และปริศนาสุดท้าย "บ่อนเตาปูน"ยังคง"อภิมหาอมตะนิรันดร์กาล"อยู่เช่นเดิมหรือไม่
คดีนี้คงไม่จบลงง่ายๆ แต่ก็เชื่อว่า ไม่น่าเหนือความสามารถของ พล.ต.ต.กฤษฎากับชุดคลี่คลายคดี ซึ่งก็ได้แต่หวังว่า คงไม่มี “ตอ” ให้เป็นอันต้องสะดุดเฉกเช่นคดีอื่นๆ อีกทั้งตำรวจต้องกำจัดบรรดาซุ้มมือปืน และคนจ้างวานให้หมดไป สุจริตชนจะได้ทำมาหากินกันอย่างไร้ความหวาดระแวง!
