รัวเกือบ 10 นัดกลางสามแยกไฟแดง! ใส่รถอดีตนายตำรวจสันติบาลชื่อดัง “พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์” หลังกลับจากดูม้าตัวเองแข่งที่สนามม้านางเลิ้ง แต่โชคดีที่เจ้าตัวขับรถอีกคันกลับออฟฟิศ คนตายกลายเป็นลูกน้องคนสนิทที่รับเคราะห์แทน โดยอดีตนายตำรวจคนดังยันรู้ว่าเป็นฝีมือใคร เชื่อหวังลอบสังหารตัวเองแน่นอน สาเหตุจากเรื่องส่วนตัวที่ไม่ยอมลงให้กับมาเฟียผู้มีอิทธิพล
เมื่อเวลา 20.00 น.วานนี้ (26 พ.ย.) พ.ต.ต.เอกชัย ศรีระหงษ์ สารวัตรเวร สน.ดุสิต รับแจ้งพบศพชายถูกยิงเสียชีวิตภายในรถ สามแยกสวรรคโลก ตัดถนนสุโขทัย แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น.พล.ต.ต.มานิต วงษ์สมบูรณ์ ผบก.น.1 พ.ต.อ.ฉันทวิทย์ รามสูตร รอง ผบก.น.1 แพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุบริเวณสามแยกไฟแดงดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบรถแวนยี่ห้อโตโยต้า เอสติม่า สีขาว หมายเลขทะเบียน ศก-4774 กทม.จอดติดไฟแดงอยู่ในช่องทางกลาง สภาพมีรอยกระสุนปืนยิงทะลุเข้าที่กระจกข้างฝั่งซ้ายจำนวน 8 นัด และที่ขอบประตูหน้าซ้ายอีก 1 นัด นอกจากนี้ยังพบรอยกระสุนฝั่งกระจกข้างด้านหลังคนขับอีก 2 นัด
โดยบริเวณที่นั่งข้างคนขับ เจ้าหน้าที่พบศพนายประยุทธ เนตรายน อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/446 หมู่ 4 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. ซึ่งเป็นคนสนิทของ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.4 ส.2 และผู้สมัคร ส.ว.กทม.หมายเลข 8 ที่เคยโด่งดังจากการออกมาแฉเรื่องบ่อนใน กทม. สภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตลายทางสีเลือดหมู-น้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนังสีขาว ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่บริเวณศีรษะ 1 นัด สีข้างซ้าย 1 นัด หน้าอกซ้าย 3 นัด และต้นคออีก 1 นัด รวมทั้งหมด 6 นัด
จากการสอบปากคำนายพรชัย พีระพงศธร อายุ 47 ปี คนขับรถคันดังกล่าวให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองพร้อมด้วย พ.ต.ท.สันธนะ เจ้านายของตน และผู้ตายได้เข้าไปดูม้าแข่งที่สนามมานางเลิ้ง กระทั่งดูจบ พ.ต.ท.สันธนะก็ขับรถอีกคันล่วงหน้าไปที่สำนักงานก่อน ส่วนตนเองขับรถคันที่เกิดเหตุมากับผู้ตายเพื่อจะตามไปคืนที่สำนักงาน
“พอผมขับรถมาถึงที่สามแยกก็จอดติดไฟแดงอยู่ แล้วก็คุยกับป๋ายุทธตามปกติ หยอกล้อกันเรื่องม้าแข่งตามธรรมดา พอผมพิงหลังไปที่เบาะก็ได้ยินเสียงดังมากเหมือนประทัด เลยรีบเปิดประตูวิ่งหนีออกไป พอเสียงเงียบก็วิ่งกลับมาที่รถ ก็พบว่าเขาถูกยิงตายแล้ว ส่วนคนร้ายผมไม่ทันสังเกตเห็นว่าขับรถอะไรมา และไม่ได้ระวังตัวด้วย เพราะถ้าระวังตัวคงจะเห็นรถที่ตามมาแล้ว” นายพรชัย กล่าว
ต่อมา พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ได้เดินทางมาดูศพผู้ตายยังที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุวันนี้ตนเองพร้อมกับผู้ตาย และนายพรชัยคนขับรถได้เข้าไปนั่งดูม้าของตนเองแข่งที่สนามม้านางเลิ้ง กระทั่งแข่งเสร็จก็นัดให้ทั้งสองคนตามไปเจอกันที่ออฟฟิศส่วนตัวที่ย่านสะพานควาย โดยตนขับรถอีกคันล่วงหน้าไปก่อน กระทั่งทราบเรื่องจึงรีบเดินทางมาดู
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวต่อว่า ผู้ตายเป็นคนสนิทที่คอยดูแลอะไรทุกอย่างให้ ทำหน้าที่เหมือนกับเลขาฯ ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใครถึงขนาดกับที่ต้องมายิงทำร้ายกันถึงขนาดนี้ มั่นใจว่าคนร้ายน่าจะประสงค์เอาชีวิตตนแน่นอน เพราะรถที่เกิดเหตุนี้ก็เป็นรถของตนเองที่จะสลับหมุนเวียนใช้กันอยู่ตลอด 5-6 คัน สาเหตุน่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่ตนเองไม่ยอมให้กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลต่างๆ ที่พยายามกดดันตนเอง แต่ตนไม่ตอบรับด้วย
“ปกติรถคันนี้เป็นรถของผมที่ใช้อยู่ประจำ แต่วันนี้ผมไม่ได้ใช้ และเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของผม ผมพยายามอดทนอดกลั้น บ้านเมืองตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเอาความไม่พอใจส่วนมาทำร้ายกัน พยามยามบอกคนใกล้ชิดทุกคนให้อยู่เฉยๆ อย่าตอบโต้ เพราะหวังว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะช่วยให้ความดูแลให้มีความปลอดภัย ผมทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุคือใคร แต่วันนี้ไม่อยากบอก ผมมีธุรกิจหลายอย่าง ทุกอย่างถูกกฎหมายทั้งนั้น และมันมีหลายสาเหตุ แต่ผมมั่นใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากสาเหตุไหน ผมก็เสียใจที่เขาต้องเอาชีวิตมาทดแทนให้ผม” พ.ต.ท.สันธนะ กล่าว
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวต่อว่า ในเมื่อตนพึ่งเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่ได้ ก็คงมีความจำเป็นอาจจะมีความรุนแรงอะไรเกิดขึ้น ก็ขอให้เข้าใจด้วย เพราะความรุนแรงนี้พวกตนไม่ได้เป็นคนก่อขึ้น แต่ตนได้สูญเสียแล้ว เสียคนของตนไปทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย ฉะนั้น ถ้ามีเรื่องรุนแรงเกิดขึ้นแล้วเกี่ยวข้องกับตนก็ขอความเป็นธรรมด้วยว่าตนจำเป็นต้องดูแล ปกป้องชีวิตทรัพย์สิน หรือคนของตนทุกคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.สันธนะ เคยตกเป็นข่าวโด่งดังเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้กำกับการ4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 2 (รอง ผกก.4 ส.2 ) ที่ถูกคู่กรณีคือ พ.ต.ท.อดิเทพ พิชาดุลย์ ขณะนั้นดำรงตำแหน่ง สว.สส.สน.บางกอกน้อย พร้อมด้วย ด.ต.สมพร แก้วดอนไพร ลูกหนี้ พ.ต.ท.สันธนะ นำกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบบุกตรวจค้น พี.พี.แมนชั่น ย่านบางกอกน้อย ซึ่งเป็นที่ตั้งของสมาคมบริหารธุรกิจและกฎหมายที่ พ.ต.ท.สันธนะ มีตำแหน่งอยู่ในสมาคมด้วย
โดยกล่าวหาว่าเปิดให้มีบ่อนการพนันภายในอาคารดังกล่าว และแจ้งข้อกล่าวหาร่วม 10 ข้อหาแก่ พ.ต.ท.สันธนะ ว่าขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้าตรวจค้นฯ โดยขณะนั้น พ.ต.ท.สันธนะ และพ.ต.ท.อดิเทพ มีห้องพักในอาคารดังกล่าวด้วยกันทั้งคู่ ภายหลัง พ.ต.ท.สันธนะ ทราบเรื่องจากเลขาธิการสมาคมฯ ว่า พ.ต.ท.อดิเทพ ต้องการเรียกรับผลประโยชน์เพิ่มจากสมาคมแต่ถูกปฏิเสธ จึงมีการนำกำลังตำรวจมาตรวจค้นดังกล่าว จนภายหลัง พ.ต.ท.สันธนะ เดินหน้าออกมาแฉว่ามีบ่อนการพนันใหญ่ทั่วกรุงเทพฯ ที่เปิดเย้ยฟ้าท้าทายอำนาจรัฐมานาน โดยมีการทำแผ่นซีดีที่แสดงถึงที่ตั้งของบ่อนการพนันต่างๆ อีกด้วย