ศาลยกฟ้อง “พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี” รอง ผบก.น.5 กับอดีต 2 นายตำรวจ บก.น.2 ชุดรวบ “เสธ.แดง” ร่วมกันกลั่นแกล้งแจ้งความเท็จ ด้าน เสธ.แดงยันเตรียมยื่นอุทธรณ์ นำประเด็นถูกกล่าวหามีอาวุธปืนในบันทึกจับกุม-บาดเจ็บขณะถูกจับ ต่อสู้คดี
วันนี้ (15 พ.ย.49) ที่ห้องพิจารณาคดี 910 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.น.5 อดีตผู้กำกับการตำรวจนครบาล 2 ในขณะนั้น, พ.ต.ท.สวัสดิ์ เปี่ยมมนัส อดีตสารวัตรประจำกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 และ ร.ต.อ.ฤทธิรุจ เขมวนิช อดีตรองสารวัตรประจำกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันแจ้งความเท็จเพื่อกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษ
ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 9 เม.ย.46 ระบุว่า ระหว่างวันที่ 25-26 ก.ย.45 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งสามสมคบกันและแจ้งข้อความอันเป็นเท็จในความผิดทางอาญาที่ทำให้โจทก์เสียหายต่อ ร.ต.ท.วิษณุรักษ์ พรหมเมศร์ พนักงานสอบสวนว่าโจทก์กระทำการต่อสู้ขัดขืน ขณะที่จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 30 คนนำหมายจับของ สน.ดอนเมือง เข้าทำการจับกุมโจทก์ โดยหาว่าโจทก์ใช้อาวุธปืนทำร้าย พ.ต.ต.ธีระเดช ธรรมสุธี กับพวก ตำรวจชุดจับกุม เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 19 ก.ย.45 ที่บริเวณปากซอยลาดพร้าว 60 บริเวณหน้าสุพินโกศล แมนชั่น แขวงและเขตวังทองหลาง โดยวันนี้ โจทก์-จำเลยทั้งสาม และทนายความเดินทางมาศาล
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้พยานโจทก์เบิกความลอยๆ ไม่น่าเชื่อถือ ในส่วนของพยานจำเลยต่างเบิกความสอดคล้องต้องกัน และมีพยานเอกสารฉบับสมบูรณ์ การที่จำเลยให้การต่อพนักงานสอบสวนจึงเป็นการให้ความไปตามจริงที่เกิดขึ้น จำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
ภายหลัง พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ตนเตรียมยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน เพราะเห็นว่าในคำพิพากษาของศาลในวันนี้ยังไม่ได้กล่าวถึงประเด็นที่ตำรวจทำบันทึกการจับกุมว่าตนมีอาวุธปืน รวมทั้งขณะเข้าจับกุมตนอยู่ระหว่างได้รับบาดเจ็บ จึงคิดว่าจะอุทธรณ์ข้อต่อสู้ในประเด็นดังกล่าวต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่มี พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ เป็น ผบ.ตร. โดยมี พ.ต.อ.ปรีชา อดีต ผกก.สส.น.2 ในขณะนั้น นำกำลังตำรวจนครบาล 2 ประมาณ 30 นาย พร้อมหมายจับของ สน.ดอนเมือง ที่มี นาวาอากาศโทวิชชา เนินลพ นายทหารอากาศ หน่วยรักษาความปลอดภัยการท่าอากาศยานฯ เคยแจ้งความไว้ในข้อหาทำร้ายร่างกายเมื่อวันที่ 9 เม.ย.38 ซึ่งขณะนั้น พล.ต.ขัตติยะ เป็นนายทหารติดตาม พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก รองนายกรัฐมนตรีในสมัยของรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ โดยตำรวจนครบาล 2 ได้รื้อหมายจับมาเข้าจับกุม พล.ต.ขัตติยะ เมื่อวันที่ 19 ก.ย.45 ก่อนที่จะมีการแก้ไขกฎหมายใหม่ ในการขอหมายจับผู้ต้องหาที่ต้องให้ศาลเป็นผู้พิจารณาเพียง 1 เดือน
วันนี้ (15 พ.ย.49) ที่ห้องพิจารณาคดี 910 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.น.5 อดีตผู้กำกับการตำรวจนครบาล 2 ในขณะนั้น, พ.ต.ท.สวัสดิ์ เปี่ยมมนัส อดีตสารวัตรประจำกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 และ ร.ต.อ.ฤทธิรุจ เขมวนิช อดีตรองสารวัตรประจำกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันแจ้งความเท็จเพื่อกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษ
ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 9 เม.ย.46 ระบุว่า ระหว่างวันที่ 25-26 ก.ย.45 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งสามสมคบกันและแจ้งข้อความอันเป็นเท็จในความผิดทางอาญาที่ทำให้โจทก์เสียหายต่อ ร.ต.ท.วิษณุรักษ์ พรหมเมศร์ พนักงานสอบสวนว่าโจทก์กระทำการต่อสู้ขัดขืน ขณะที่จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 30 คนนำหมายจับของ สน.ดอนเมือง เข้าทำการจับกุมโจทก์ โดยหาว่าโจทก์ใช้อาวุธปืนทำร้าย พ.ต.ต.ธีระเดช ธรรมสุธี กับพวก ตำรวจชุดจับกุม เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 19 ก.ย.45 ที่บริเวณปากซอยลาดพร้าว 60 บริเวณหน้าสุพินโกศล แมนชั่น แขวงและเขตวังทองหลาง โดยวันนี้ โจทก์-จำเลยทั้งสาม และทนายความเดินทางมาศาล
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้พยานโจทก์เบิกความลอยๆ ไม่น่าเชื่อถือ ในส่วนของพยานจำเลยต่างเบิกความสอดคล้องต้องกัน และมีพยานเอกสารฉบับสมบูรณ์ การที่จำเลยให้การต่อพนักงานสอบสวนจึงเป็นการให้ความไปตามจริงที่เกิดขึ้น จำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
ภายหลัง พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ตนเตรียมยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน เพราะเห็นว่าในคำพิพากษาของศาลในวันนี้ยังไม่ได้กล่าวถึงประเด็นที่ตำรวจทำบันทึกการจับกุมว่าตนมีอาวุธปืน รวมทั้งขณะเข้าจับกุมตนอยู่ระหว่างได้รับบาดเจ็บ จึงคิดว่าจะอุทธรณ์ข้อต่อสู้ในประเด็นดังกล่าวต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่มี พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ เป็น ผบ.ตร. โดยมี พ.ต.อ.ปรีชา อดีต ผกก.สส.น.2 ในขณะนั้น นำกำลังตำรวจนครบาล 2 ประมาณ 30 นาย พร้อมหมายจับของ สน.ดอนเมือง ที่มี นาวาอากาศโทวิชชา เนินลพ นายทหารอากาศ หน่วยรักษาความปลอดภัยการท่าอากาศยานฯ เคยแจ้งความไว้ในข้อหาทำร้ายร่างกายเมื่อวันที่ 9 เม.ย.38 ซึ่งขณะนั้น พล.ต.ขัตติยะ เป็นนายทหารติดตาม พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก รองนายกรัฐมนตรีในสมัยของรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ โดยตำรวจนครบาล 2 ได้รื้อหมายจับมาเข้าจับกุม พล.ต.ขัตติยะ เมื่อวันที่ 19 ก.ย.45 ก่อนที่จะมีการแก้ไขกฎหมายใหม่ ในการขอหมายจับผู้ต้องหาที่ต้องให้ศาลเป็นผู้พิจารณาเพียง 1 เดือน
