xs
xsm
sm
md
lg

ยกฟ้อง “เสี่ยหมู่บ้านปิ่นเจริญ” ชำเรา 3 เด็กหญิง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ศาลยกฟ้องเสี่ยหมู่บ้านปิ่นเจริญ อนาจาร และชำเรา 3 เด็กหญิง ศาลชี้ผลตรวจแพทย์ระบุไม่ได้ว่า ผู้เสียหายถูกข่มขืน จึงยกประโยชน์ให้จำเลย แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์


วันนี้ (20 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 904 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสุเทพ ปิ่นเจริญ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 ม.8 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เจ้าของโครงการหมู่บ้านจัดสรร “ปิ่นเจริญ” เป็นจำเลย ในความผิดฐาน พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร, พาบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่ออนาจาร, กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้ายและอยู่ในสภาวะที่ขัดขืนไม่ได้ และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งไม่ใช่ภรรยาของตน

คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.2547 – 15 ต.ค.2548 จำเลยได้ล่อลวง ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 11 ขวบ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 11 ขวบ และ ด.ญ.ซี (นามสมมติ) อายุ 12 ปี เข้าไปเล่นในบ้านพัก แล้วกระทำการอนาจารด้วยการถอดเสื้อผ้าเด็กหญิงผู้เสียหายแล้วกอดจูบเพื่อล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งการกระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายในสภาวะที่เด็กหญิงผู้เสียหายไม่สามารถขัดขืนได้ และยังเป็นการพรากเด็กหญิงทั้งสามไปจากบิดามารดาโดยไม่มีอันเหตุเพื่อไปอนาจาร เหตุเกิดที่ ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ต่อมาวันที่ 20 ต.ค.2548 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบก.ปดส.ได้นำกำลังจับกุม นายสุเทพ โดยจำเลยให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน

ศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐาน การตรวจพิสูจน์ร่องรอยการถูกข่มขืนของแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ แล้วเห็นว่า แพทย์ไม่สามารถระบุได้ว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นที่อวัยวะเพศของ ด.ญ.เอ นั้นเกิดจากการถูกข่มขืนหรือไม่ ส่วนเด็กหญิงผู้เสียหายอีกสองคนไม่พบร่องรอยบาดแผลใหม่ อีกทั้งการตรวจสอบรอยคราบที่พบในเกิดเหตุนั้นก็ไม่สามารถยืนยันได้อีกเช่นกันว่า เป็นคราบอสุจิของจำเลยหรือไม่ นอกจากนี้ คำเบิกความของผู้เสียหายทั้งสาม ที่ให้ไว้ในชั้นสอบสวนและชั้นศาลนั้นแตกต่างไม่สอดคล้องต้องกัน

ที่โจทก์อ้างว่าจำเลยได้ชำเราเด็กหญิงหลายครั้ง ที่บริเวณห้องพักชั้น 2 ของโรงงาน ซึ่งใช้เป็นที่อาศัยของคนงาน ซึ่งมีผู้พักอยู่ถึง 30 คน แต่กลับไม่มีใครพบเห็นว่า จำเลย เคยพาผู้เสียหายขึ้นไปบนชั้น 2 แต่อย่างใด เมื่อพยานหลักฐานที่ปรากฏยังมีข้อสงสัยอยู่ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ประกอบกับจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดีมาโดยตลอด จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย พิพากษายกฟ้อง แต่ให้ขังจำเลยไว้ในระหว่างอุทธรณ์

ทั้งนี้ หลังจากที่ศาลมีพิพากษายกฟ้อง มีกลุ่มเพื่อนของ นายสุเทพ ที่เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษา ตรงเข้าไปจับมือกับนายสุเทพ ด้วยความยินดี ขณะที่ นายสุเทพ นั้น มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะกล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ขณะถูกนำตัวกลับไปควบคุมตัวที่ห้องขังว่า อยากให้นำเสนอข่าวนี้ด้วย เพราะที่ผ่านมาลงแต่ข่าวที่ไม่ดี มีแต่ความเสียหายกับตนเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น