รวบ 4 ผู้ต้องหาแสบ ย่ามใจ วันเดียวก่อเหตุ 5 รายซ้อน ชาวบ้านแจ้ง ตร.ไล่ล่า หนีหัวซุกหัวซุน สุดท้ายไปไม่รอดถูกแท็กซี่พลเมืองดีช่วยสกัดจับได้ 1 ตามจับได้ถึงรัง อีก 3 สอบพบประวัติ ก่อเหตุมาอย่างโชกโชน ซ้ำยังอยู่ระหว่างการประกันตัว ไม่สำนึก ก่อเหตุซ้ำซ้อนอีก
วันนี้ (15 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบก.น.2 พ.ต.ท.ณัฐกร ประภายนต์ สว.สส.สน.โคกคราม พ.ต.ต.บุญเลิศ เกตุนุติ สวป.สน.โคกคราม ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ ได้ผู้ต้องหา 4 ราย คือ นายวิชาญ ทับโนนทอง อายุ 29 ปี ,นายวสันต์ ธนทวีธรรม อายุ 26 ปี, น.ส.สุจิตรา อุปคำ อายุ 25 ปี และนายรส ซื่อสัตย์ อายุ 19 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 2 กระบอก กระสุน 9 นัด โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง สร้อยคอทองคำ 1 เส้น และรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน
พล.ต.ต.อำนวย เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึก วันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดพร้าว ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่า มีเหตุคนร้าย 2 คน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้หญิง บริเวณ ถ.ลาดพร้าว จึงได้ทำการวิทยุสกัดจับ กระทั่งทราบว่า คนร้ายสองคนขับรถ จยย.ของกลาง หลบหนีมาจนถึงบริเวณซอยนวลจันทร์ 9 ถ.นวลจันทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม ในเขตท้องที่ สน.โคกคราม ก่อนถูกรถแท็กซี่ของพลเมืองดี ซึ่งได้ติดตามมาพุ่งชนทำให้รถเสียหลักไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ พวกคนร้ายจึงทิ้งรถจักรยานยนต์
“เป็นจังหวะเดียวกับที่รถแท็กซี่ หมายเลขทะเบียน ทย-4620 กทม.ขับมาจอดส่งผู้โดยสาร คนร้ายจึงได้ใช้อาวุธปืนจี้แท็กซี่ดังกล่าวหลบหนี ขณะนั้น ด.ต.กิตินันท์ ดัดสร ผบ.หมู่งานจราจร สน.โคกคราม ซึ่งได้รับแจ้งทางวิทยุ ขับ จยย.สายตรวจตามมา จนทันบริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขารามอินทรา กม.2 แขวงท่าแร้ง จึงได้เข้าจับกุม นายวิชาญ ได้ ส่วน นายรส หลบหนีอาศัยจังหวะชุลมุนไปได้” ผบก.น.2 กล่าว
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า หลังจับกุมตัวได้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายวิชาญมาสอบปากคำ ซึ่งให้การรับสารภาพ ว่า ได้ร่วมกับนายรส ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ โดยคืนเกิดเหตุได้ร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์ถึง 5 ราย ในพื้นที่ สน.ลาดพร้าว คันนายาว โชคชัย และบางเขน ก่อนถูกจับกุมได้ในที่สุด นอกจากนี้ ยังรับสารภาพด้วยว่ายังมีเพื่อร่วมแก๊งอีก 2 คนที่ร่วมก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงได้ขยายผลตรวจค้นที่อาคารศิริวรรยา อพาร์ทเม้นท์ เลขที่ 101 ซ.นวลจันทร์ 36 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.พบ นายวสันต์ และ น.ส.สุจิตรา อยู่ภายในห้องพร้อมของกลางอาวุธปืน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน จึงควบคุมตัวทั้งสองส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ขณะเดียวกัน ยังสามารถติดตามจับกุมตัว นายรส ที่หลบหนีการจับกุมมากบดานภายในห้องเลขที่ 7106 อาคารมโนรัตน์แมนชั่น ซ.นวมินทร์ 109 แขวงคลองกุ่ม เขตบึ่งกุ่ม กทม.พร้อมของกลางกระสุนปืน 3 นัด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ ว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้งในพื่นที่ สน.ดอนเมือง ทุ่งสองห้อง หัวหมาก สภ.ต.คูคต จ.ปทุมธานี กระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว โดยจะนำเงินที่ได้จากการชิงทรัพย์ไปเที่ยวเตร่ตามสถานบริการและนำโทรศัพท์ไปแลกยาบ้ามาเสพ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า นายวิชาญ และ น.ส.สุจิตรา เคยถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ พื้นที่ สน.ประชาชื่น ซึ่งอยู่ระหว่างการประกันตัว ส่วนนายรส เคยถูกจับกุมฐานปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและพยายามฆ่า ในพื้นที่ สภ.อ.เมือง จ.ราชบุรี อยู่ระหว่างหลบหนีการประกันตัว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาแก่นาย วิชาญ คือ ข่มขืนใจผู้อื่น ให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใดหรือจำนนต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และแจ้งข้อหาแก่นายรส คือ ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือรับของโจร, มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายวสันต์ และ น.ส.สุจิตรา แจ้งข้อหา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
