“ดีเอสไอ” ตามจับ “สมาชิก อบต.ลำแก่น” มือปืนยิงนักข่าวมติชน ทำข่าวคุ้ยคดีบุกรุกป่ากะปง ก่อนคุมตัวเข้ากรุงเทพฯ เค้นสอบปากคำขยายผลถึงตัวบงการ ด้านปลัด ยธ.แย้มอาจมีข่าวดีจากอัยการสูงสุด ในคดีที่ “วัฒนา อัศวเหม” ตกเป็นผู้ต้องหาบุกรุกป่ากะปง
วันนี้ (13 ต.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ ผบ.สำนักเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมกำลังควบคุมตัว นายวิมล กุฎี อายุ 42 ปี สมาชิกสภาตำบลลำแก่น อดีตประธานสภาตำบลลำแก่น ผู้ต้องหาพยายามฆ่านายมาณพ รัตนจรุงพร ผู้สื่อข่าว นสพ.มติชน จังหวัดพังงา และประธานชมรมสื่อมวลชนจังหวัดพังงา มาเค้นสอบสวนขยายผล หลังจับกุมตัวผู้ต้องหาได้เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา บริเวณสามแยกทับละมุ ถ.เพชรเกษม ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พร้อมยึดปืน 11 มม.จำนวน 2 กระบอก กระสุนขนาดเดียวกันจำนวนหนึ่ง ก่อนแจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหาสืบเนื่องจากพยานซึ่งเป็นสื่อมวลชนในคดีบุกรุกที่ดินสาธารณะ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ลงพื้นที่จังหวัดพังงา ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิมิชอบ ถูกมือปืนยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีคำสั่งให้จัดชุดสืบสวนลงพื้นที่เร่งคลี่คลายคดี เพราะถือว่าเป็นการคุกคามพยานและเสรีภาพของสื่อมวลชนอย่างรุนแรง ทั้งนี้ จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ยืนยันได้ว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ลงมือยิงผู้เสียหาย เพราะเหตุเกิดตอนกลางวัน ประจักษ์พยานจำใบหน้าคนร้ายได้ชัดเจน เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฎิเสธ ต้องขยายผลว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่ ชั้นนี้ยังไม่ให้ประกันตัว ก่อนนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาในเช้าในเสาร์ ส่วนอาวุธปืนที่ยึดได้จะนำไปตรวจสอบประวัติการยิงอีกครั้ง ส่วนตัวผู้ต้องหาพบว่าเคยถูกดำเนินคดีฆ่าผู้ใหญ่บ้าน แต่หลุดคดีมาได้
นายมาณพ รัตนจรุงพร ผู้เสียหายกล่าวว่า เหตุเกิดเวลากลางวันเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2548 ขณะเดินทางไปสวนยางพารา พบคนร้าย 3 คน ใช้รถปิคอัพขับตัดหน้ารถยนต์ของตน หลังจากนั้นผู้ต้องหาและมือปืนอีก 2 คนที่ยังจับตัวไม่ได้ ได้ลงจากรถปิกอัพก่อนใช้ปืนลูกซอง และ 11 มม.กระหน่ำยิง แต่โชคดีกระสุนพลาดไปโดนพวงมาลัยรถยนต์ ตนจึงตัดสินใจเปิดประตูรถวิ่งหลบหนี คนร้ายไล่ตามพร้อมกระหน่ำยิงตนอีกชุดใหญ่ จนกระสุนถูกบริเวณต้นขาขวา 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ แต่โชคดีไม่โดนจุดสำคัญ กระดูกหรือเส้นเลือดใหญ่ จึงหนีเอาตัวรอดมาได้หวุดหวิด
นายมาณพ กล่าวอีกว่า ชนวนเหตุในการลอบยิงตนนั้นเชื่อว่าเกิดจากการที่กลุ่มคนร้ายและผู้ใช้จ้างวานไม่พอใจที่ตนนำเสนอข่าวการบุกบุกที่สาธารณะป่ากะปง รวมทั้งเชื่อมโยงกับการแย้งกรรมการสิทธิที่ดินแหลมป้อมของนักการเมืองคนหนึ่ง และเกี่ยวพันกับกลุ่มเครือข่ายบุกรุกป่าชายเลน หมู่ที่ 5 ต.ลำแกน อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เป็นเนื้อที่หลายพันไร่ รวมทั้งการเสนอข่าวการบุกรุกที่ดินทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์หาดท้ายเหมือง และการทุจริตเงินบริจาคการช่วยเหลื่อสึนามิ
ด้าน นายจรัญ ภักดีธนากุล รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ทวี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา และกำชับให้ดำเนินคดีตามหลักกฎหมาย อย่าจับกุมผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่ถ้าหลักฐานชี้ชัดว่าเป็นคนร้ายตัวจริง ให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาด เพราะการคุกคามชีวิตของคนที่ทำงานให้กับสาธารณะเป็นเรื่องร้ายแรง ส่วนการขยายผลให้ถึงผู้บงการ ดีเอสไอกำลังดำเนินการ อย่างไรก็ตาม คดีบุกรุกป่ากะปงซึ่งดีเอสไอทำความเห็นแย้งให้อัยการสูงสุดสั่งฟ้องนายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นจำเลยร่วม คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ อัยการสูงสุดจะมีคำสั่งชี้ขาดคดี และอาจเป็นข่าวดี
