xs
xsm
sm
md
lg

“ดีเอสไอ” สอบเพิ่มฮั้วประมูลต้นเหตุคลังสินค้าสุวรรณภูมิล่ม!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

 พล.ต.ท.ณรงค์ อมาตยกุล อดีต ส.ว.พิษณุโลก ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการด้านการเงิน โชว์หนังสือที่มอบให้กับพนักงานสอบสวน
อดีต ส.ว.พิษณุโลก เข้าให้ปากคำเพิ่มกับ “ดีเอสไอ” ยันปัญหาการทุจริตโครงการคลังสินค้าและโครงการสิ่งอำนวยความสะดวกภาคพื้นดิน สุวรรณภูมิ ตามที่เคยชี้มูลความผิดเป็นเรื่องจริง และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับดีเอสไอในการรักษาประโยชน์ของชาติ


วันนี้ (12 ต.ค.) พล.ต.ท.ณรงค์ อมาตยกุล อดีต ส.ว.พิษณุโลก ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการด้านการเงิน เปิดเผยว่า วันนี้ตนจะเดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เกี่ยวกับปัญหาการทุจริตโครงการคลังสินค้าและโครงการสิ่งอำนวยความสะดวกภาคพื้นดิน สนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากที่ตนเคยชี้มูลความผิดไว้ว่า อาจมีการช่วยเหลือโดยเจ้าหน้าที่ของการท่าอากาศยานในการยื่นประมูลหาผู้ร่วมดำเนินการใน 2 โครงการดังกล่าว ทั้งทางด้านเทคนิค และด้านราคาที่จัดเก็บกับลูกค้า

พล.ต.ท.ณรงค์ กล่าวว่า ปัญหาการทุจริตใน 2 โครงการที่เกิดขึ้นได้สร้างความเสียหายรวมมูลค่ากว่า 80,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในโครงการคลังสินค้าที่สะท้อนให้เห็นถึงความไม่มีประสิทธิภาพ และความไม่พร้อมของผู้ที่ได้รับสัมปทานจากการประมูลดังกล่าว อันมีผลทำให้คลังสินค้าที่สุวรรณภูมิล่ม ทำความเสียหายแก่ชื่อเสียงและการค้าของประเทศเป็นอย่างมาก

“ผู้บริหารของบริษัทที่ประมูลได้ในโครงการดังกล่าว เคยออกมากล่าวหาผมว่า ผมเอาข้อมูลทั่วๆมาใช้ในการตรวจสอบ และทำให้บริษัทเขาต้องเสียหาย บริษัทเขาเป็นมืออาชีพและมีความพร้อมทุกอย่างในการดำเนินงาน วันนี้สิ่งที่ผมตรวจสอบและชี้มูลความผิดไว้มีผลแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นในโครงการคลังสินค้า เช่น สินค้าตกเครื่อง เบิกสินค้าออกไม่ได้ หาสินค้าไม่พบ จนชิบปิ้งต้องรวมตัวกันประท้วง และอาจฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกว่า 100 ล้านบาทตามที่เป็นข่าว อันเกิดจากความไม่พร้อมของผู้ดำเนินการ ทำให้ประเทศชาติเสียชื่อเสียงและเสียหาย” พล.ต.ท.ณรงค์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ณรงค์ กล่าวยืนยันว่า ถึงแม้ตนจะพ้นจาก ส.ว.แล้ว แต่ในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทย จึงพร้อมที่จะให้ข้อมูลและให้ความร่วมมือกับดีเอสไอในการตรวจสอบกรณีนี้อย่างเต็มที่

ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น.พล.ต.ท.ณรงค์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ปากคำกรณีเข้าร้องเรียนขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตรวจสอบการเปิดประมูลโครงการสัมปทานคลังสินค้าและโครงการอุปกรณ์ภาคพื้นดินและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการซ่อมบำรุง ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

พล.ต.ท.ณรงค์ กล่าวก่อนเข้าให้ปากคำ ว่า ตนเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สำนักคดีอาญาคดีพิเศษ กรณีความไม่โปร่งใสของการเปิดประมูล 2 โครงการ มูลค่าเมื่อหมดสัมปทานกว่า 80,000 ล้านบาท โดยเฉพาะโครงการคลังสินค้าที่สะท้อนให้เห็นถึงความไม่มีประสิทธิภาพ และความไม่พร้อมของผู้ได้รับสัมปทานและเกิดปัญหาขึ้น เช่น สินค้าตกเครื่องบิน เบิกสินค้าออกมาไม่ได้ ทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียง

ขณะเดียวกันมีรายงานจากชุดพนักงานสอบสวนคดีพิเศษว่า หลังการร้องเรียนเมื่อเดือน มี.ค.49 พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ตรวจสอบเอกสารสัญญาที่เป็นภาษาอังกฤษหลายลังกระดาษ และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง พบว่ายังไม่พบการกระทำผิด ซึ่งผู้ร้องอ้างว่ามีการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ(ฮั้วประมูล) แต่กรณีการเปิดประมูลสองโครงการดังกล่าวของสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นการทำสัญญาระหว่างเอกชนกับเอกชน ไม่สามารถนำ พ.ร.บ.ฮั้วประมูล มาตรวจสอบได้ เพราะฮั้วประมูลต้องเป็นการเสนอราคาของเอกชนต่อหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พนักงานสอบสวนไม่สามารถนำมาตรวจสอบได้เช่นกัน

สำหรับผลการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ก่อนหน้านี้ พบว่า การคัดเลือกผู้รับจ้างในโครงการทั้งสอง น่าจะไม่โปร่งใส และขัดกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2546 ที่ให้ดำเนินการด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และให้มีช่องว่างในการบอกเลิกสัญญาได้ จึงเป็นการช่วยเหลือให้เอกชนบางรายได้รับการคัดเลือกให้ดำเนินงานในโครงการดังกล่าว ซึ่งมีความผิดตามพรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ(ฮั้วประมูล)
กำลังโหลดความคิดเห็น